Guide

Mikaku ต้นตำรับเนื้อวากิวคุณภาพสูงกว่า 80 ปีจากญี่ปุ่น

By: Chaipohn November 11, 2015

อาหารคู่บ้านคู่เมืองของเราตอนนี้ ดูจะกลายเป็นอาหารญี่ปุ่นไปแล้วนะครับ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ร้าน อาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะร้านซูชิ ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นอีกแนวที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆคือร้าน Teppanyaki และร้านที่เราได้ไปสัมผัสมาล่าสุด ก็ถือเป็นสุดยอดร้าน Teppanyaki ที่มีพร้อมทั้งตำนาน ความเป็นต้นตำรับ คุณภาพของเนื้อ และรสชาติความอร่อย จากการนั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านรุ่นที่ 3 Kenji Mita ผู้สืบทอดตำนาน คุณภาพมากกว่า 80 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่ Mikaku ขยายสาขาออกนอกประเทศญี่ปุ่น

101111-mikaku-1

ร้านอาหารแนว Teppanyaki คือร้านที่ทำอาหารให้สุกอย่างเร็วบนกะทะเหล็กแบนในกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งข้อดีคือความเพลิดเพลินในการดูลีลาทำอาหารของ Chef และที่สำคัญคือความสมบูรณ์ของคุณภาพอาหารที่มีมากกว่าการปรุงอาหารด้วยวิธีอื่นๆ โดยวัตถุดิบหลักในการปรุงมักจะเป็นเนื้อวัวและอาหารทะเล ซึ่งการใช้ วัตถุดิบคุณภาพสูงสุด ส่งตรงจากญี่ปุ่นและความเนี๊ยบในการปรุงให้ได้อาหารรสชาติที่ดีที่สุด ถือเป็นจุดเด่นที่ เชฟ Kenji Mita ผู้เป็นทายาทสืบทอด Mikaku รุ่นที่สามตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้าอย่างสุดความสามารถ

เชฟ Kenji เล่าให้เราฟังว่า Mikaku รุ่นแรกสุดเริ่มจากคุณปู่ของเชฟ ผู้เริ่มเปิดร้านที่บริเวณริมแม่น้ำ Shirakawa แถว Gion เมื่อ 80 ปีที่แล้ว รุ่นที่สองเป็นคุณพ่อของเขา ตัวเชฟเริ่มมีส่วนร่วมด้วยการช่วยคุณพ่อตอนอายุ 20 ปี และนั่นคือแรงบันดาลใจที่ใช้ในการทำอาหารมาโดยตลอด รสชาติอาหารดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นคุณปู่ถึงรุ่นคุณพ่อไม่เคยเปลี่ยนแปลง Mikaku ยังคงรักษามาตรฐานจากรุ่นสู่รุ่น นี่จึงเป็นทั้งแรงบันดาลใจและแรงกดดันที่ผมต้องสามารถถ่ายทอดประวัติศาสตร์และรสชาติการทำอาหารให้เหมือนรุ่นปู่ รุ่นพ่อให้ได้

101111-mikaku-4

เคล็ดลับของ Mikaku คือความตั้งใจจริงในการทำอาหาร เชฟ Kenji จะเลือกเฉพาะเนื้อวากิวเกรด A4 – A5 ที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่น โดยจะเลือกเฉพาะวัวตัวเมีย เพราะมีเนื้อที่สวยงามและนุ่มที่สุด คัดสรรจากฟาร์มชั้นเยี่ยมที่มีการดูแลวัวดีที่สุด เพราะการเลือกฟาร์มที่ดีจะได้เนื้อวัวที่รสชาติดีไปด้วย บวกกับความพิถีพิถันในการปรุง ระยะเวลาที่พอเหมาะ อุณหภูมิที่ใช่ แม้กระทั่งการหั่นเนื้อ เชฟจะใช้มีดสำหรับหั่นเนื้อแทนการใช้เครื่องจักร เพื่อให้เนื้อคงความสมบูรณ์ที่สุด และยังเป็นศาสตร์อย่างนึงด้วย เชฟมักจะศึกษาลูกค้าของเขาเสมอโดยการชวนคุยเล่นก่อน เพราะโมเม้นต์ที่เรา enjoy อาหาร จะทำให้เราได้ลิ้มรสชาติอาหารที่อร่อยที่สุด

มาดูเมนูอาหารที่เราลองสั่งมาทานกันบ้าง เราจะเน้นไปที่ Course Menu ที่ Chef’s Recommended มีให้เลือก 4 เมนู ราคาเท่ากันหมดคือ 3,500 บาทต่อ 100g และเราก็สั่งมาทานครบทุกเมนู

101111-mikaku-5

101111-mikaku-6

101111-mikaku-7

101111-mikaku-8

101111-mikaku-9

Steak มีเนื้อให้เลือก 2 แบบ คือ Tenderloin และ Sirloin เสิร์ฟพร้อมกระเทียมเจียว ซอสต่างๆ เกลือ พอนซึ วาซาบิ เนื้อที่ได้นุ่ม ละลายในปาก รู้สึกได้ถึงความพอดิบพอดีในการปรุงและรอให้ความร้อนได้ที่ก่อนเสิร์ฟ

 

101111-mikaku-10

IMG_5223

อีกเมนูยอดฮิตที่เราต้องสั่งคือ Oil-yaki ใช้เนื้อ Tenderloin หั่นเป็นชิ้น โรยน้ำตาลและราดซอสสูตรพิเศษและผัดจนได้เนื้อที่มีความนุ่มละลายในปาก ทานคู่กับซอสพอนซึถือว่าสุดยอดเช่นกัน

 

101111-mikaku-11

101111-mikaku-12

101111-mikaku-13

101111-mikaku-14

101111-mikaku-15

อีก 2 เมนูต่อไปคือ Grilled Shabu-Shabu และ Sukiyaki ที่จะใช้เนื้อ Sirloin แล่บางนำมาผัดด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน Grilled Shabu-Shabu จะโรยด้วยเกลือและพริกไทย ผัดจนสุกให้มีความนุ่มพอดี เลือกจิ้มได้ตามความชอบ และสุดท้ายเป็น Sukiyaki จะราดด้วย Sukiyaki sauce สูตรพิเศษ จิ้มไข่ลวกกิน รสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี

Chef ให้คำแนะนำในการทานเนื้อให้ได้รสชาติว่า การ pair ด้วยไวน์แดงดีๆสักแก้ว จะยิ่งช่วยเพิ่มรสชาติเนื้อให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ร้าน Mikaku ก็มีเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมเตรียมไว้ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ Penfolds ไปถึง Dom Perignon

101111-mikaku-16

ถ้าคุณอยากไปลองประสบการณ์ความเป็น Japan Heritage กับคุณภาพเนื้อชั้นเยี่ยมที่หาได้ยากในกรุงเทพ ร้าน Mikaku และเชฟ Kenji Mita รอคุณอยู่ที่ชั้น 2 ตึก Maison Eric Kayser ระหว่างทองหล่อ 3 และ 5 เปิดให้บริการวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 12:00 – 14:00 และ 17:00 – 22:00 แนะนำให้โทรสอบถามและสำรองที่นั่งก่อนไปที่เบอร์ 02-712-9080 ไม่งั้นที่นั่งเต็มแน่นอนครับ

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line