EVENT

กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ พ่องานเทศกาลดนตรีฝีมือคนไทย เพื่อคนไทย Maya Music Festival

By: Thada February 16, 2016

เตรียมนับถอยกันให้ดีสำหรับงานที่ทุกคนต่างรอคอยอย่าง Maya Music Festival หลังจากที่ปีก่อนสร้างความประทับใจ และความตื่นเต้นตระการตาในเรื่องแสง สี เสียง เวที พญานาค ที่ต่างจากงานเทศกาลดนตรี EDM ทั่วไป ซึ่งในปีเราได้ข่าวว่าจะมีการย้ายที่จัด เพิ่มขนาดสเกลงานให้ยิ่งใหญ่อลังการมากขึ้น ดังนั้นทีมงาน UNLOCKMEN จึงบุกไปขอสัมภาษณ์โต้โผใหญ่ในการจัดงานอย่าง คุณ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ ถึงที่ เกี่ยวกับรายละเอียดที่มาของงาน และความยิ่งใหญ่สำหรับงาน MAYA ในปีนี้ ว่าจะมีความแตกต่างอย่างไร

160216-Maya-R3

หลายคนอาจจะรู้จัก คุณ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ ในฐานะ ดารา พิธีกรมากความสามารถแต่อาจจะมีบ้างที่ไม่รู้ว่าคุณ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ มีบริษัทแยกอีก 4 บริษัท คือ Change Corporation ที่ทำเกี่ยวกับ Event Agency , Flagship ทำเกี่ยวกับรายการทีวีและ ณ ตอนนี้ก็มีรายการ The Angle  และเดี๋ยวจะมีรายการใหญ่ชื่อว่า Goal ที่จะคัดเลือกนักฟุตบอลไปอยู่กับสโมสร Leicester city ที่ทำร่วมกับ King Power แล้วก็มีบริษัท Feel Corporation ทำเกี่ยวกับ Festival แล้วก็เป็นบริษัทที่จัดงาน MAYA นี้ บริษัทสุดท้ายทำเกี่ยวกับ PR ความจริงแล้วทุกบริษัทนี้เปิดมาตั้งนานแต่ทุกคนอาจจะไม่รู้

ดังนั้น UNLOCKMEN จึงสนใจมากว่าทำไมคุณ กฤษณ์ ถึงที่เริ่มหันมาจับธุรกิจด้าน Music Festival

“ผมทำเพราะเอาความชอบจากตัวเองเป็นที่ตั้ง ผมเป็นคน EDM จ๋าเลย ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ซึ่งจริงๆ  EDM มันมีมานานมากแล้วเป็น 20 ปี ผมไปเที่ยวก็ซึมซับมา โดยในสมัยก่อนจะเป็นแนว Techno , Trance และส่วนมากงานก็จัดริมทะเล เกาะแบบ Ibiza หรือใกล้ตัวหน่อยก็เกาะพะงัน แต่มันไม่ได้เป็น EDM แบบทุกวันนี้มันยังมีความเป็น Live Band อยู่ ที่เล่นสด ร้องสด ครองตลาด 80 เปอร์เซ็นทั่วโลก แต่ในเมืองไทยนั้นเพิ่งมาแค่ไม่กี่ปีเอง ผมรู้สึกว่าเทรนด์กำลังมาในไทย ก็เลยเริ่มนำมา Develop โดยคิดง่ายๆ ว่าเมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว จะมีงาน EDM หรือไม่มีเขาก็มาเที่ยวอยู่ดี ทำไมเราไม่สร้างอะไรเจ๋งๆ ในเมืองไทยให้ฝรั่งเขามา ยกตัวอย่างเช่นผมได้ไป Miami มา มันเป็นเมืองที่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ทะเล Pub, Bar แต่เขาสามารถสร้างงาน Music Festival ขึ้นมาทำให้เมือง Miami กลายเป็นเมืองที่ดังขึ้นมาได้ ดังนั้นประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวอยู่แล้ว เฮ้ย ถ้าเราจัดงานเจ๋งขึ้นมามันต้องคูณสองดิ เพราะประเทศเรามีความพร้อมทุกอย่างแล้ว จะอาหารการกิน โรงแรม ต่างๆ ครบเพียบ”

160216-Maya-R5

จากความชอบ กลายเป็นหัวเชื้อตั้งต้น จุดกำเนิดของ MAYA MUSIC FESTIVAL

“พอรู้แล้ว่าจะทำอะไรผมก็นำมาพัฒนาต่อ โดยตอนแรกจะทำเวทีให้แบบใหญ่ๆ แบบเมืองนอกไปเลย แต่พอมานั่งดูแต่ละประเทศที่เขาทำ เขาจะไม่ลอกงานของประเทศอื่นเลย แต่ละประเทศก็มีสตอรี่ของตัวเอง แล้วเอามาสร้างงาน ดังนั้นผมก็มาคิดว่าแล้วเราจะไปลอกเขามาทำไมวะ ผมจะอธิบายแบบให้เห็นภาพง่ายๆ เลยเหมือนเราจะชวนต่างชาติมาไทยมากินอาหารเพราะเมืองไทยมีอาหารเจ๋งมาก แต่เราขาย Hamburger มันก็ไม่ใช่อะดิ” 

“เราเลยตัดสินใจไม่ลอกคนอื่น เราไม่เอา ศิลปะ วัฒนธรรม Culture คนอื่นมาทำงานของเรา เราต้องเอาศิลปะไทยของเรามาทำให้ได้ แต่ปัญหาคือคนไทยจะมองว่าศิลปะไทยมันเชย น่าเบื่อ ซึ่งโจทย์นี้ยากมากนะ ที่ต้องทำคือทำยังไงให้ออกมามีความเป็นไทย และไม่น่าเบื่อ ที่สามารถทำให้เด็กไปถึงผู้ใหญ่รู้สึกอยากมางานนี้ หลังจากคิดกันอย่างหนัก เลยเกิดเป็นงาน MAYA ที่มีศิลปะไทย บวกกับเทคโนโลยีล้ำสมัยขึ้น “

160216-Maya-R4

จากปีที่แล้วมาถึงปีนี้ Concept มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

“เราเริ่มต้น concept จากศิลปะความเป็นไทย ก็เลยมานั่งคิดว่ากันจะเอาตัวอะไรดี ตอนแรกจะเป็น ชฎา หรือจะเป็นยักษ์ แต่คิดไปคิดก็ไม่เอาดีกว่า ผมเลยมองที่สถานที่จัด ซึ่งปีที่แล้วเราจัดที่กรุงเทพ และกรุงเทพก็เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ มีฝนตกตลอดทั้งปี ผมจึงเคาะโต๊ะเลือกพญานาคมาเป็นตัวชูโรงในการจัด MAYA เมื่อปีก่อน

โดยส่วนตัวผมมองว่ามันยังไม่ถูกใจเราร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราท้อแท้นะ เพราะเราทำในสิ่งที่ยากและยากที่สุดคือการเข็นให้มันเริ่มนับหนึ่งได้ และผมว่าการลงมือทำอะไรสักอย่าง มันได้  Learning Point ตลอดเวลาอยู่แล้ว ความยากอีกจุดคือการทำต่อ การทำให้ดีขึ้น ตราบใดที่เราไม่หยุด เราจะเก่งขึ้นได้ทุกปี ปีนี้ต้องดีกว่าปีที่แล้ว ปีหน้าต้องดีกว่าปีนี้ เราได้เรียนรู้การ Production เราจะรู้เทรนด์ลูกค้า เทรนด์คนมางานมากขึ้น งานก็จะดีขึ้น”

ทำไมถึงมีการเปลี่ยน Theme และเพิ่มเวที รวมทั้งย้ายสถานที่จัด ?

“ตอนแรกเราก็กะจะหา Theme ไปเรื่อยๆ แต่หลังจากเรามาลงตัวที่ “หนุมาน” เรารู้สึกทันทีว่า เนี่ยแหละ เราเจอสิ่งที่ใช่แล้ว เพราะหนุมานมีตำนานที่น่าสนใจ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อมตะ เมื่อลมพัดก็จะฟื้นคืนชีพ เมื่ออ้าปากจะคายดาวเดือนออกมาเป็นสัญลักษณ์ของความสนุกสนานและไม่มีวันตาย ซึ่งสื่อถึงความเป็น MAYA ได้ดีมากๆ ดังนั้นต่อไปนี้พอเห็นหนุมานก็จะคิดถึง MAYA คิดถึง MAYA ก็จะคิดถึงหนุมาน

160216-Maya-20

ส่วนการเพิ่มเวที Live แม้ว่าปัจจุบันดนตรี Live จะโดน EDM กลืนไปบ้าง แต่เทรนด์ของมันจะไม่ไปไหน มันจะยังอยู่ แม้ว่าตอนนี้ EDM จะมาแรงและแน่นอนว่าเราก็เอา EDM เป็นตัวหลัก แต่ผมคิดถึงอนาคตว่ายังไงวันหนึ่ง Live ก็ต้องกลับมา แทนที่จะรอให้เทรนด์มันชัดเจนหรือมีใครลงมือทำไปก่อน แต่ทำไมเราต้องเป็นคนทำตามวะ? ว่าแล้วผมก็เลยเอาเวที Live เข้ามาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ซะเลย

ผมไม่อยากให้แบบอีก 3 ปี 5 ปี รอจนกระแสดนตรี Live มันกลับมา แล้วเราค่อยไปดึง Live Band มาไว้ในงานงั้นหรอ? ไม่มีวัน อีกอย่างผมคิดว่า Festival จริงๆ ต้องทำให้คนส่วนมากเข้ามาดูได้ ถ้าทำไม่ได้มันก็จะเป็นงานปาร์ตี้ครั้งเดียวเลิก แต่ MAYA ต้องมีความหลากหลายที่ทุกคนเข้าถึงได้แบบงาน Music Festival จริง ทุกคนมาเสพดนตรี ความสนุกสนานของบรรยากาศจริงๆ และในปีต่อๆไป เราก็จะมีดนตรีที่มากขึ้นครอบคลุมรองรับทุกแนว ไม่อยากให้เป็นแค่มาดื่มๆๆ ฟังวงที่ชอบลงเสร็จ กลับ เลิก 

160216-Maya-26

ส่วนเรื่องย้ายสถานที่จัดมาเลือกที่พัทยาเป็น Landmark ก็เพราะว่าพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีความพร้อมทุกอย่าง เรามองแบบกว้างๆ เช่นคุณมางาน MAYA คุณลงสนามบิน คุณไปพัทยา กับเข้ามาสยามไม่ต่างกันนะ ระยะเวลาเท่ากันเลย มาสยามรถโคตรติด แต่ไปพัทยาชิวๆ ยังดีกว่า ซึ่งเราก็จะยึดพัทยาเป็นที่ตั้ง Landmark ของงาน MAYA ในปีต่อๆ ไป เพราะมันเป็นเหมือนกำไรสองต่อให้นักท่องเที่ยว หรือคนไทยที่มางาน เพราะพอจบงาน MAYA คุณก็เที่ยวพัทยาต่อได้ เรียกว่าสร้างรายได้ให้ประเทศด้วย”

สิ่งที่ทำให้ MAYA พิเศษกว่างานปาร์ตี้อื่นๆ 

“ผมจะบอกงี้ เมื่อคุณซื้อบัตร 2,500 เข้ามาบัตรเดียวคุณสามารถเข้าได้ทั้ง Live และ EDM คุณดู Potato เบื่อก็เปลี่ยนมาดู Tiesto ดู Dash Berlin สลับกันไปมาตามได้ตามใจชอบ หรือจะนั่งพักทานอาหาร ห้องน้ำ เรามีรถพยาบาล 3 คัน เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ 600 นาย การ์ด 200 นาย เทียบกับคนหมื่นคนก็เท่ากับ 10 ต่อ 1 เรามีทุกอย่างหมดครบเลย คืองานนี้ไม่ใช่การเราไปเช่าพื้นที่จัดงานนะ แต่ MAYA เป็การร่วมมือกันกับทางเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรีเพื่อจัดงานร่วมกัน ทำให้งานทุกอย่างน่าจะราบรื่นดี

160216-Maya-27

160216-Maya-28

สิ่งที่เราต่างจากต่างชาติก็คือ เวลาคนไทยชอบอะไรก็มักจะกลายเป็นเทรนด์ตามๆกัน มีอะไรเจ๋งก็จะฮิตเป็นกระแสตามๆกันไป เหตุผลที่เราเป็นอย่างนี้ไม่ใช่เพราะคนไทยเป็นแบบนี้ แต่เป็นเพราะคนสร้างสรรค์งานไม่ได้คิดอะไรที่เป็นปัจเจคของตัวเรา ถ้าคุณคิดอาหารที่มาจากเราแล้วมันเจ๋งจริงๆ โดยที่คุณไม่ต้องทำการฉาบฉวยในการไปหยิบของชาวบ้านมา เราจะมีของดีที่เป็นของเราเอง แต่ตอนนี้เราไม่มีแบบนั้น ไม่มีคนที่บ้ามานั่งคิด กล้าเสี่ยงที่จะขาดทุนเพื่อสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ผมกำลังจะบอกว่า MAYA เป็นสิ่งนี้ MAYA เป็นสิ่งที่เราอยากจะสร้างปรากฎการณ์ขึ้นมา เป็น Music Festival ที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต้องจดไว้ในปฏิทินเพื่อบินมาเที่ยว เมื่อมาถึงก็ต้องอุทานว่า โอ้ นี่คือ Signature ของเมืองไทย นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจไว้

160216-Maya-24

แล้วเวลาที่เราไปงานพวกนี้ บางคนก็บอกว่าเราไปเสพเพลง แต่หัวใจของการมา Festival คือการไปเสพบรรยากาศ เสพความรู้สึก เวลาฝรั่งเขาไปงาน เขาไม่ได้อยู่กับเพลงตลอด เขาซื้อเบียร์แล้วก็คุยกัน ทำอาหาร บาร์บีคิว ซึมซับบรรยากาศ แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันต้องใช้เวลา ถ้าเราทำได้ เราจะเสียสตางค์แล้วรู้สึกสนุก มันจะคุ้มค่า ผมอยากสร้าง Culture ตรงนี้ให้คนไทย ไม่ใช่ว่าเราจ่ายตังค์แล้วต้องไปดู Tiesto เกาะหน้าเวที เป็นความสนุกฉาบฉวย รีบๆ ดื่มๆ กินๆ พอ Tiesto ลงเวทีปั้บเราก็กลับเลยแบบนี้

ผมอยากให้เรามีความอินแบบที่คนญี่ปุ่นเค้าไปเทศกาลดนตรีในบ้านเค้า เช่น Fuji Rock หรือ Summer Sonic นี่เขาแบบเตรียมตัวลากยาวกันมาเลย แบกเต๊นท์แบกเก้าอี้มานั่งดูเลย สั่งข้าว เสพบรรยากาศ ผมอยากให้การปาร์ตี้ของเราสามารถซึมซับได้ ไม่ใช่ทุกอย่างต้องเร่งรีบหมด” 

ไฮไลท์ของ MAYA 2016 ที่ทุกคนไม่ควรพลาด

160216-Maya-5

160216-Maya-16

“ไฮไลท์ที่ผมอยากจะบอกคือ Performance ของ EDM เวทีที่เราทำเป็นหัวหนุมาน มันมีความบ้าคลั่งมากเพราะ สูงถึง 26 เมตรหรือเท่ากับ 7 ชั้นเลย และเราไม่ได้ใช้บริษัท Event มาทำ เราใช้บริษัท construction มาทำ แบบที่ทำเจดีย์ สะพาน ทางด่วนนั่นแหละ เราเอามาสร้างเวทีเลย ต้องมีวิศวะกรมาเซ็นแบบ ดังนั้นเวทีปีนี้จะโครตอลังการตระการตาแบบสุดๆ โดยจะเป็นรูปร่างที่คนไทยคุ้นเคยแน่นอน ต้องเคยผ่านตามาสักครั้ง เพราะเวทีจะเป็นหนุมานที่หาวเป็นดาวเป็นเดือน เราจะเอาดีเจยัดไว้ในปาก และที่ Link กับที่หนุมานหาว เพราะอยากให้ทุกคนสนุกกับสิ่งที่ออกมาจากปากของหนุมาน เทคนิคแสงเลเซอร์มัลติมีเดียยัดเข้าไปเต็มที่ เอฟเฟคพลุมันส์สุดขีด เป็นประสบการณ์ที่ต้องมาดูให้ได้ “

มอง MAYA ยังไงในอนาคต

“เราเชื่อว่า Festival ที่เรากำลังสร้างนั้นเราตั้งใจทำให้คนเข้ามาเสพบรรยากาศจริงๆ ผมฝันนะว่าวันหนึ่งเราจะไม่ต้องเอาดีเจดังๆ มาเพื่อดึงคน แต่คนอยากมาเพราะว่ามันสนุกจริงๆ ศิลปะ วัฒนธรรมสวยงาม MAYA เป็นการสร้าง Culture ไม่ใช่แค่ปรากฎการณ์ที่อยู่ดีๆเปรี้ยงขึ้นมาอยู่นานไม่นานไม่รู้แล้วก็จบ แต่การจะสร้าง Culture ความยากคือเมื่อเราเริ่มต้นนับ 1 สร้างเสร็จแล้ว ต้องใช้เวลาในการพัฒนาให้แข็งแรงเหนียวแน่น แล้วจะอยู่ไปเรื่อยๆ และกลายเป็น Global Agenda ต่อไปซึ่งตอนนี้เราก็เริ่มแล้ว มีเว็บไซต์ www.mayamusicfestival.com ถ้าคุณจะจองบัตรหรือคุยกับเราต้อง Register ประเทศก่อน ทำให้เรารู้ว่าปัจจุบันมีคนจากประมาณ 50 กว่าประเทศทั่วโลกแล้วที่มางานของเรา”

160216-Maya-R6

160216-Maya-15

หลังจากคุยจบ พวกเราก็รู้สึกจิตใจฮึกเหิมไปกับความมุ่งมั่นของคุณกฤษณ์ จนเผลอกดซื้อตั๋ว MAYA 2016 ไปโดยไม่รู้ตัว และเราก็อยากให้ชาว UNLOCKMEN ทุกคนรีบไปจัดคิวตารางของตัวเองให้ว่างในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ แล้วไประเบิดความมันส์ร่วมกันที่หาดพัทยา ณ งาน MAYA Music Festival ไปลองดูกันว่าความอลังการของเวที แสง สี เสียง และบรรยากาศที่คุณกฤษณ์พูดถึงนั้นจะพีคขนาดไหน

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line