CARS

LAMBORGHINI URUS ‘SUPERSPORT UTILITY VEHICLE’ 650 HP

By: Chaipohn December 5, 2017

ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่มีใครคาดคิดว่าแบรนด์รถยนต์ SUPERCAR จะมีวันกระโดดมาลุยตลาดรถ SUV ซึ่งเคยถูกจำกัดอยู่ในฐานะรถลุย รถพ่อบ้าน แต่วันนี้ดูเหมือน SUPERCAR ทุกแบรนด์จะหันมาแย่งชิงพื้นที่ MARKET SHARE ใน SEGMENT นี้กันหมดแล้ว นำทีมโดย PORSCHE CAYENNE ที่เมื่อครั้งเปิดตัวในปี 2003 บรรดาลูกค้า PORSCHE ต่างตราหน้าว่า มึงคิดได้ยังไงเนี่ย นี่มันกำลังฆ่าตัวตายด้วยการทำลายจิตวิญญาณความสปอร์ตอันสุดพิเศษของ PORSCHE  แต่กลายเป็นว่า CAYENNE และ MACAN นี่แหละที่ช่วยสร้างยอดขาย ประคอง PORSCHE ให้โตวันโตคืน ตามมาด้วย BENTLEY BENTAYGA และวันนี้ก็ถึงเวลาของค่ายกระทิงดุ ที่ได้เปิดผ้าคลุม SUPER SUV ของตัวเองบ้าง ในนามว่า ‘URUS’ 

อันที่จริง LAMBORGHINI เคยลองทำตลาดรถ SUV มาแล้วในชื่อ LM002 ซึ่งดูเหมือนรถทหารมากกว่ารถหรู ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก ดังนั้นการกลับมาของ SUV ภายใต้โลโก้กระทิงดุ นอกจากจะเป็นการเติมเต็มประวัติศาสตร์ให้สมบูรณ์ครบถ้วน มันยังเป็นการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์โลกมากขึ้น

ต้องบอกว่าการเปิดตัว URUS อาจจะไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้พวกเรามากนัก เพราะมันมีภาพหลุดสารพัดออกมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว แต่ก็ต้องปรบมือให้กับความสวยงามที่ดุ เท่ มี DNA ของ LAMBORGHINI SUPERCAR อย่างเต็มตัว บนร่างกายตัวถังที่ใหญ่โตขึ้น มีคาแรคเตอร์ของกระทิงดุอย่างชัดเจน ลายเส้นทุกจุดราวกับจะมีเสียงคำรามออกมา ซึ่งแตกต่างจาก PORSCHE CAYENNE หรือ BENTLEY BENTAYGA ที่ดูจะออกมาเป็นพ่อบ้านนุ่มหรูมากกว่า

ช่องดักลมด้านหน้าขนาดใหญ่ถูกออกแบบให้มีทั้งความสวยงามและฟังก์ชันตามหลัก AERODYNAMIC ลายเส้นที่ดูบึกบึนของซุ้มล้อ รับกับหลังคาที่ลาดแบบรถ COUPE ให้ความต่อเนื่องไปถึงไฟท้าย LED ท่อไอเสียคู่แยกซ้าวขวา ให้อารมณ์สปอร์ตตามสไตล์ LAMBORGHINI

น่าเสียดายที่ LAMBORGHINI URUS ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ V10 หรือ V12 แต่หันไปใช้เครื่อง 4.0L TWIN-TURBO V8 บล็อคเดียวกับที่วางใน Audi RS6 และ BENTLEY CONTINENTAL GT ให้กำลัง 650 แรงม้า แรงบิด 627lb-ft  ผ่านเกียร์ 8-SPEED เพื่อหมุนล้อที่ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาพร้อมเทคโนโลยี  TORSEN SELF-LOCKING DIFFERENTIAL เลือกส่งกำลังไปที่ล้อหน้าและล้อหลังอย่างชาญฉลาด ทำเวลา 0-100KM ได้ภายใน 3.6 วินาที เข้าโค้งได้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจบอดี้ขนาดใหญ่ เพราะ LAMBORGHINI วางตำแหน่งเครื่องยนต์ไว้ลึกเพื่อสร้าง CENTER OF GRAVITY ที่ดีด้วย

จุดเด่นของ LAMBORGHINI URUS คือ DRIVE MODE ที่มีให้เลือกครอบคลุมทุกสถานการณ์ ตอกย้ำความเป็น SPORT SUV  ด้วย SPORT MODE รถจะลดระดับให้เตี้ยลงเพื่อการทรงตัวที่ดีขึ้น และ CORSA MODE สำหรับวันที่ต้องการซิ่งให้สะใจเหมือนอยู่ในสนามแข่ง นอกนั้นจะเป็นโหมดสำหรับสภาพพื้นผิวต่าง ๆ เช่น NEVE สำหรับพื้นหิมะ TERRA สำหรับลุยทาง OFF-ROAD ทางฝุ่นต่าง ๆ SABBIA สำหรับพื้นทราย EGO สำหรับ MIX MODE ต่าง ๆ ตามต้องการ และ STRADA ที่เน้นความนุ่มนวล

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line