“บทเรียนการเป็นผู้นำชั้นยอด”จากราชนาวีสุดแกร่ง ผู้เคยเอาชนะสภาวะสุดวิกฤตในเรือดำน้ำ

ความเป็นผู้นำมันอาจไม่ได้ติดตัวผู้ชายอย่างเรามาตั้งแต่โผล่หัวมาลืมตาดูโลก แต่ UNLOCKMEN เชื่อว่ามันเรียนรู้กันได้ โดยเฉพาะการเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์โดยตรง ถือเป็นการเรียนรู้ทางลัดที่เราไม่ต้องลงแรงไปเจอสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง ดังนั้นสภาวะวิกฤตในเรือดำน้ำที่แม่งโคตรกดดันในการควบคุมคน ทั้งพื้นที่ที่แคบ คนจำนวนมาก ไหนจะสภาพการที่ไม่ได้อยู่บนดินตามปกติ จึงเป็นอีกสถานการณ์วิกฤตที่น่าเรียนรู้ว่าเราต้องงัดความเป็นผู้นำออกมาในรูปแบบไหน และวันนี้เราเอาทริคดี ๆ จากราชนาวีที่เคยคุมสถานการณ์บนเรือดำน้ำที่ตกอยู่ในสภาวะวิกฤตมาแล้ว (แม้ภาวะจะไม่วิฤตเท่ากระแสวิพากษ์เรื่องลุงตู่ซื้อเรือดำน้ำ แต่เราว่าก็วิกฤตมากไม่แพ้กัน)

John DeVine คือเจ้าหน้าที่ราชนาวีคนหนึ่งที่เริ่มต้นอาชีพของเขาด้วยการทำงานในเรือดำน้ำ และใช้เวลากว่า 8 ปีในอาชีพนั้นก่อนจะผันตัวเองมาทำงานในองค์กรเอกชน John DeVine บอกว่าเรือดำน้ำไม่ต่างจากห้องปฏิบัติการความเป็นผู้นำที่หล่อหลอมให้เขาออกมาทำงานในภาคเอกชนแบบโคตรแข็งแกร่งชนิดหาตัวจับยาก เพราะการทำงานในเรือดำน้ำมันเต็มไปด้วยข้อจำกัด และการทำงานใต้ความลึกของมหาสมุทรระดับนั้น การตัดสินใจทุกอย่างก็มีเดิมพันสูงมากเพราะมันคือชีวิตของลูกเรือทุกคนเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามเราอาจคิดว่า John DeVine คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดในเรือดำน้ำ แล้วการที่เขาจะแสดงความเป็นผู้นำอะไรออกมาใคร ๆ ในเรือก็ต้องวิ่งทำตามคำสั่งเขาแบบหูตาเหลือกอยู่แล้ว แล้วจะไปเรียนรู้บทบาทความเป็นผู้นำแบบเขาได้ยังไงในเมื่อเราเป็นผู้น้อย ยังต้องวิงตามตูดบอสต้อย ๆ อยู่ดี ?

UNLOCKMEN อยากจะบอกว่าคุณคิดผิดว่ะ เพราะขณะที่เกิดเหตุการณ์สุดวิกฤตครั้งสำคัญนั้นเขาเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ในเรือดำน้ำที่มียศต่ำกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป โดยเหตุการณ์ที่ชาวเรือดำน้ำเห็นว่าวิกฤตที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการที่เรือดำน้ำของเราดันไปซ้อนอยู่ใต้เรือดำน้ำอีกลำ ความพีคคือ John DeVine เป็นคนแรก ๆ ที่ตระหนักถึงวิกฤตนั้นแต่เขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับที่จะสั่งการได้ มันจึงมีอยู่ 2 ทางคือการรอจนกว่าผู้บัญชาการจะสั่งซึ่งไม่รู้ว่าจะช่วยชีวิตทุกคนได้ทันไหม หรือลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยชีวิตทุกคนไว้โดยไม่สนว่าผู้บัญชาการจะว่าอย่างไร

นั่นคือการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตเขา แต่ในที่สุดสัญชาตญาณแห่งการเป็นผู้นำก็บอกเขาว่าเขาต้องทำให้ชีวิตทุกคนรอดปลอดภัยให้ได้ และจากสถานการณ์สุดวิกฤตครั้งนั้นมันสอนบทเรียนการเป็นผู้นำให้กับเขา 3 อย่าง และเขายังจำมาใช้ตราบเท่าทุกวันนี้

เชื่อมั่นในสัญชาตญาณ

John DeVine เปิดเผยว่าตอนฝึก เขาก็ได้ฝึกหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ในเรือดำน้ำ แต่สุดท้ายเมื่อวิกฤตมาจ่ออยู่ตรงหน้าเขาบอกว่ามันจำเป็นมาก ๆ ที่จะเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง และในวันที่เขาก้าวเข้าสู่การทำงานในภาคเอกชนก็เช่นกัน การดูตัวเลขและข้อเท็จจริงเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อเราต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง เราต้องใช้สัญชาตญาณตัวเองเป็นสำคัญ เพราะเมื่อเราเรียนรู้ที่จะไว้ใจ เชื่อใจตัวเองก่อน เราจะมั่นใจในตัวเองและเป็นผู้นำที่ตัดสินใจได้เด็ดขาดยิ่งกว่าที่เคย โดยเฉพาะถ้าการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีคนในองค์กรก็จะยิ่งเชื่อในความเป็นผู้นำของเรามากเท่านั้น

ออกสิทธิออกเสียงเข้าไว้ ไม่ว่าเราจะอยู่ในระดับไหนขององค์กร

เราอาจจะคิดว่าความเป็นผู้นำ มันก็เป็นเรื่องของผู้นำสิวะ เราก็แค่คนตัวเล็ก ๆ ในองค์กรจะไปแสดงความเป็นผู้นำเพื่ออะไร ยังไงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนอยู่แล้วนี่หว่า John DeVine บอกว่าผิดถนัด บทเรียนความเป็นผู้นำที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง (แม้เราจะไม่ได้มีตำแหน่งบริหารก็ตาม) คือการแสดงความเห็น ส่งเสียงออกไป ตอนที่เขาจัดการกับวิกฤตเรือดำน้ำเขาก็ไม่ได้มีตำแหน่งบริหาร แต่เขาคิดว่าถ้าเขาไม่ตัดสินใจกดสัญญาณเตือนให้ดังวันนั้นทุกคนในเรืออาจตายกันทั้งหมดก็ได้

การทำงานในองค์กรก็เช่นกัน ในภาวะวิกฤต (หรือไม่วิกฤตก็ตาม) เราไม่มีทางรู้เลยว่าความรู้ของเรา ประสบการณ์ของเรา หรือความคิดเห็นของเราจะเป็นประโยชน์กับองค์กรแค่ไหน ขอแค่แสดงความเห็นออกไป ให้ทุกคนรู้ว่าเรามีไอเดียที่จะแก้ไขปัญหาแบบนี้นะ และเราไม่ได้นิ่งนอนใจ แรก ๆ มันอาจจะดูยากและท้าทาย แต่ทำให้ติดเป็นนิสัยไว้ถือเป็นการฝึกสกิลความเป็นผู้นำให้กับเราได้ และมันจะส่งผลสำคัญมาก ๆ เมื่อเราได้ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบเรื่องการบริหารโดยตรง

รับผิดชอบผลของมันซะ

วินาทีที่ John DeVine ตัดสินใจว่าจะกดสัญญาณเตือนให้ดังไปทั่วเรือดำน้ำเพื่อเตือนลูกเรือทุกคนนั้น เขาตระหนักตั้งแต่วินาทีแรกว่าเขาต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาไม่ว่าผลนั้นจะออกมาดีสุดขีดหรือเลวร้ายสุดขั้ว วันนั้นผลแห่งการตัดสินใจของเขาออกมาดี แต่ John DeVine ก็บอกชัดเจนว่าไม่ใช่ว่าการตัดสินใจทุกครั้งของเราจะถูกต้อง

การเป็นผู้นำที่ดีจึงไม่ได้หมายถึงการตัดสินใจถูกต้องทุกครั้ง แต่การเป็นผู้นำที่ดีหมายถึงการเป็นผู้นำที่สามารถรับผิดชอบการตัดสินใจของตัวเองได้ แม้ผลจะออกมาผิดพลาด เราก็ต้องรับมือกับมันต่อให้ได้ นำมาเป็นบทเรียนต่อให้ได้ ไม่ใช่ตัดสินใจผิด แล้วโทษคนอื่นหมด ยกเว้นแสดงความรับผิดชอบและพยายามจัดการกับมัน

John DeVine ใช้หลักการ 3 ข้อที่เรียนรู้มาจากวิกฤตเรือดำน้ำครั้งนั้นมาถึงปัจจุบัน จนทำให้เขาโลดแล่นเป็นผู้นำในองค์กรเอกชนได้ถึงทุกวันนี้ UNLOCKMEN ก็เชื่อว่าถ้าผู้ชายจำเอาหลักการ 3 อย่างนี้ไปใช้ในการทำงาน ก็จะต้องเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ได้อีกเพียบแน่นอน

SOURCE