World

ปล้นจริงยิ่งกว่าซีรีส์ MONEY HEIST! พาผู้ชายดูการปล้นเพชรครั้งอหังการที่สุดในประวัติศาสตร์

By: unlockmen May 17, 2018

Lacasa de Papel หรือ Money Heist ซีรีส์ชื่อดังใน Netflix ประกาศออกมาแล้วว่าจะมี Season 3 ออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันแน่นอนในปี 2019 นั่นหมายความว่าศาสตราจารย์และเหล่าลูกทีมอาจยังไม่หยุดตำนานการปล้นไว้แค่นั้น แต่จะปล้นที่ไหน เนื้อเรื่องจะเป็นยังไง ยังไม่มีการเปิดเผย การปล้นโรงกษาปณ์สเปนอาจจะเป็นการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่นั่นคือเรื่องราวในซีรีส์ แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปรู้จักกับ ‘การปล้นเพชรที่ Antwerp’ การปล้นเพชรครั้งที่อหังการที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งเกิดขึ้นจริงเมื่อปี 2003

Leonardo Notarbartolo and School of Turin

เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนไปเมื่อปี 2001 ที่เมือง Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีของทวีปยุโรป ชายวัยกลางคนนามว่า Leonardo Notarbartolo สัญชาติอิตาลีได้เดินทางเข้ามาในเมือง เบื้องหน้าเขาคือนักออกแบบเครื่องประดับ แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้ เขาคือสมาชิกของ School of Turin กลุ่มโจรมืออาชีพซึ่งตระเวนปล้นมาแล้วทั่วยุโรป สร้างวีรกรรมแสบสันไว้มากมาย แน่นอนว่าการมาเยือน Antwerp ในคราวนี้ Leonardo ไม่ได้ตั้งใจจะมาออกแบบเครื่องประดับ แต่ตั้งใจมาปล้น และจะเป็นการปล้นอัญมณีครั้งใหญที่สุดในประวัติศาสตร์

เริ่มต้นแผนการด้วยความรอบคอบและลงทุน

ตู้เซฟของศูนย์การค้าเพชร Antwerp มีการป้องกันแน่นหนา ราวกับป้อมปราการขนาดยักษ์ การจะเข้าไปปล้นโดยไม่วางแผนให้ดีก็เหมือนการฆ่าตัวตาย แต่ Leonardo รู้ความจริงข้อนั้นดี เขาคือนักโจรกรรมมืออาชีพซึ่งรอบคอบอย่างที่สุด แต่การจะสำรวจทุกตารางนิ้วให้ละเอียดจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในนั้นให้นานที่สุด และวิธีที่ Leonardo เลือกใช้คือการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าเพชรเพื่อเปิดเป็นสำนักงานโดยใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์การเป็นนักออกแบบเครื่องประดับของเขา เพียงเท่านี้เขาก็สามารถใช้เวลาอยู่ในศูนย์การค้าเพชรได้นานตามใจชอบแล้ว

จับตาดูทุกฝีก้าว

เมื่อ Leonardo มีสำนักงานในศูนย์ค้าเพชร เขาจึงสามารถเข้าออกตู้เซฟภายในอาคารได้โดยไม่มีใครสงสัย ตลอดเวลา 2 ปีที่เขาวางแผน เขาเข้าออกตู้เซฟหลายร้อยครั้ง จนสามารถจดจำทุกตารางนิ้วในตู้ได้ เท่านั้นยังไม่พอ Leonardo ยังแอบติดกล้องไว้ เพื่อสามารถดูความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา และสมาชิก School of Turin คนอื่น ๆ สามารถเห็นภาพข้างในและร่วมกันวางแผนได้

ทำลายปราการทีละด่าน

การจะเจาะเข้าไปในตู้เซฟนั้นจะต้องผ่านระบบการป้องกันหลายด่านมาก ๆ ทั้งการใส่รหัสผ่าน ล็อกกุญแจ เซ็นเซอร์สนามแม่เหล็ก เซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเซ็นเซอร์แสง แต่ Leonardo และพรรคพวกค่อย ๆ ทำลายการป้องกันเหล่านั้นไปทีละด่าน เริ่มจากรหัสผ่าน Leonardo เข้าออกตู้เซฟหลายร้อยครั้ง จนในที่สุดเขาก็สามารถแอบมองตอนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดรหัสผ่านและจดจำมันได้สำเร็จส่วนเรื่องกุญแจนั้น หนึ่งในทีมปล้นของ Leonardo มีสมาชิกซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องกุญแจอยู่ เขาใช้ประโยชน์จากกล้องที่ Leonardo ติดเอาไว้ส่องดูลักษณะรูกุญแจ จนในที่สุดก็สามารถทำกุญแจเลียนแบบขึ้นมาได้สำเร็จ

Low-Tech vs High Tech

หลังจากวางแผนอยู่ 2 ปีเต็ม ในที่สุดก็ถึงวันลงมือ Leonardo เลือกลงมือในคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2003  เนื่องจากตรงกับวันวาเลนไทน์ ร้านรวงต่าง ๆ ปิดหมด เหมาะกับการโจรกรรมเป็นอย่างยิ่งLeonardo และพรรคพวกผ่านด่านรหัสผ่านและกุญแจล็อกอย่างง่ายดายด้วยรหัสผ่านและกุญแจเลียนแบบที่ได้มา

แต่ปัญหาคือหลังจากนั้น พวกเขาจะผ่านเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดจนไม่น่าจะมีมนุษย์คนไหนเล็ดลอดผ่านไปได้อย่างไร ? แต่ Leonardo และพรรคพวกก็เตรียมการมาอย่างดี พวกเขาเอาชนะเซ็นเซอร์ทันสมัยราคานับล้านด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ ที่หาได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตพวกเขาใช้สเปรย์ตกแต่งทรงผมฉีดใส่เซนเซอร์วัดความร้อนจนรวนและไม่สามารถใช้การได้ ใช้เทปกาวปิดทับเซ็นเซอร์วัดแสงจากนั้นก็เปิดไฟได้สบายใจเฉิบ รวมถึงการเอาแผ่นโฟมมาวางทับเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว และใช้สนามแม่เหล็กจำลองมาก่อกวนสัญญาณจนเซ็นเซอร์สนามแม่เหล็กไม่สามารถใช้การได้

หลังจากนั้นคือมหกรรมการช็อปปิ้งที่ Leonardo และพรรคพวกเปิดกล่องเซฟกล่องแล้วกล่องเล่า กวาดอัญมณีทั้งเพชร พลอย ทับทิม มูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญ ก่อนจะหายตัวไปก่อนฟ้าสาง กว่าที่ทุกคนจะรู้เรื่องก็เป็นตอนเช้าวันจันทร์ที่ศูนย์การค้าเพชรเปิดทำการ ทั้งเมืองตกตะลึงกับการโจรกรรมที่ไม่น่าเป็นไปได้ในครั้งนี้

สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง

แต่ใครจะเชื่อว่าโจรอัจฉริยะอย่าง Leonardo และ School of Turin ที่สามารถวางแผนการโจรกรรมเพชรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ได้กลับโดนจับกุมได้ด้วยความประมาทเลินเล่อง่าย ๆ ระหว่างที่กำลังหนีออกจากเมือง หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มทิ้งถุงที่มีเพชรเม็ดเล็ก ๆ และใบเสร็จร้านค้าลงในถังขยะข้างทาง ทุกคนจึงถูกจับกุมอย่างง่ายดายจากการตามรอยจากใบเสร็จ โดยเฉพาะ Leonardo เขาโดนจับกุมในสถานที่ที่คาดไม่ถึงที่สุด นั่นก็คือศูนย์การค้าเพชรเมือง Antwerp นั่นเอง เขาไม่อยากหายตัวไปเสียเฉย ๆ เพราะกลัวจะเกิดพิรุธ จึงเข้ามาทำงานตามปกติ และโดนจับกุมที่นั่น

ถึงคนร้ายจอมอหังการจะถูกจับกุมได้ แต่อัญมณีทั้งหมดก็หายสาบสูญไปตลอดกาล พวกเขาจำคุกอยู่ไม่กี่ปีก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ชื่อและวีรกรรมของพวกเขาจะถูกจารึกไปตลาดกาลในฐานะการปล้นอัญมณีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ การปล้นครั้งนี้อาจไม่หวือหวาเหมือนในซีรีส์ แต่เรื่องความฉลาดและแผนการอันแยบยลต้องบอกเลยว่า Leonardo และแก๊ง School of Turin นั้นไม่แพ้แก๊งของศาสตราจารย์และลูกทีมเลยทีเดียว ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจได้เห็นเรื่องราวการปล้นที่ Antwerp ครั้งนี้ถูกดัดแปลงไปเป็นซีรีส์ที่สนุกไม่แพ้ Money Heist ก็ได้

SOURCE, SOURCE2, SOURCE3

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line