ขยันก่อนไม่ได้สบายทีหลัง! “เล่นวันนี้สบายวันนี้แล้วค่อยทำงาน” วิธีแบบใหม่ที่ใครก็ลองได้?

เราเติบโตมาพร้อมคำพูดที่ว่า “ขยันวันนี้สบายวันหน้า” เราอยู่ในสังคมที่บอกว่าต้องลำบากก่อนแล้วสบายทีหลัง เชื่อตามกันมาโดยคิดว่ามันดีที่สุด ถูกที่สุด

ย้อนกลับไปตอนยังเด็ก เราถูกบอกว่าต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อนถึงจะได้ออกไปเล่น ต้องกินอาหารจานหลักก่อนแล้วค่อยกินขนมหวาน ต้องตั้งใจเรียนก่อนแล้วถึงจะได้รางวัล สอบมิดเทอมเสร็จก่อนแล้วค่อยไปปาร์ตี้กับเพื่อน ฯลฯ แม้กระทั่งตอนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องคอยบอกตัวเองว่าทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปสนุกสุดเหวี่ยง

การทำงานก่อน แล้วเอาความสนุก ความสุข ความสบาย ไว้เป็นเพียงรางวัลปลอบใจให้ความหนักหน่วงของชีวิตใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไปหรือเปล่า? เราเคยสงสัยกันบ้างไหม? หรือเราแค่เชื่อตาม ๆ กันมาแล้วบอกว่าดีโดยไม่เคยตั้งคำถามกับมันกันแน่?

โชคดีดันมีคนเขาสงสัยว่าวิธีคิดแบบนี้มันถูกต้องแน่หรือเปล่าจึงเกิดเป็นงานวิจัยที่ชื่อว่า Worth the Wait? Leisure Can Be Just as Enjoyable With Work Left Undone ขึ้น ซึ่งจัดทำโดย Ed O’Brien จาก University of Michigan

งานวิจัยมีสมมติฐานหาญกล้าที่ว่า ไม่เห็นต้องทำงานก่อน สนุกทีหลังเลย คนเราควรสนุกแม่งเลย ทำงานด้วยสนุกด้วย อย่าเอากรอบมาขวาง จากนั้นเขาจึงทำการทดลองหลาย ๆ รูปแบบ

เริ่มต้นที่พนักงานที่ทำงานในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งมาทำกิจกรรม 2 อย่าง โดยกิจกรรมหนึ่งเป็นกิจกรรมสุดเคร่งเครียดใช้สมองในการคิดแก้ปัญหารัว ๆ อีกกิจกรรมเป็นกิจกรรมผ่อนคลายสบายใจ จากนั้นแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเครียดก่อน สนุกทีหลัง กลุ่มหลังขอสนุกก่อนเลย แล้วค่อยเครียด

ก่อนทำกิจกรรม ทีมวิจัยให้คน 2 กลุ่มให้คะแนนว่าพวกเขาคิดว่าตัวเองจะมีความสุขแค่ไหน และหลังทำกิจกรรมให้พวกเขากลับมาให้คะแนนตัวเองอีกรอบว่ามีความสุขเท่าไหร่

คนส่วนใหญ่คิดไว้เหมือนกันไม่มีผิดว่ายังไง เครียดให้เสร็จ ๆ ไปก่อนแล้วสนุกทีหลังก็ต้องมีความสุขมากกว่า กลุ่มที่สนุกก่อนก็เลยคาดหวังว่าตัวเองจะมีความสุขน้อยแสนน้อย แต่ผลปรากฏว่าไม่ว่าจะเครียดก่อน หรือสนุกก่อน ผลลัพธ์ความสุขก็ออกมาเท่า ๆ กัน!

ยังไม่จบแค่นั้น ถ้าคิดว่า โธ่ ก็นั่นมันกิจกรรมเล่น ๆ จะไปทดสอบอะไรได้เล่า! ทีมนักวิจัยเขาก็ต้องการผลที่แน่นอนกว่านั้นจึงทำการทดลองอีก 2 การทดลอง โดยหนึ่งในนั้นเอาไปวัดกับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่จะกำลังจะเข้าสอบกลางภาคจริง ๆ

ทีมนักวิจัยลงทุนเปิดสปา แล้วประกาศว่ามา ใครจะมาใช้สปาก่อนสอบก็ได้ หรือหลังสอบก็ได้ แล้วแต่เลยว่าจะผ่อนคลายก่อนเครียดทีหลัง หรือเครียดก่อนแล้วให้รางวัลตัวเอง และเหมือนเดิมคือพวกเขาต้องเรทคะแนนก่อนและหลังด้วยว่าคิดว่าตัวเองจะมีความสุขแค่ไหน แล้วจริง ๆ มีความสุขแค่ไหน

ผลที่ออกมาแทบไม่ต่างเลยไม่ว่าจะเลือกทำสปาก่อนหรือสปาทีหลัง แต่หลักการสำคัญที่คนชอบคิดว่าเราควรขยันก่อนเพื่อสบายทีหลังนั้นเป็นเพราะว่า ก่อนที่เราจะลงมือทำอะไรสำคัญ ถ้าเราต้องมาพักผ่อน มาสนุก มาใช้เวลาผ่อนคลาย เราจะรู้สึกผิด เราจะรู้สึกว่าเราจะกังวล คอยคิดถึงงานใหญ่ที่มาไม่ถึง

แต่นักวิจัยชี้ว่าจากผลการทดสอบเรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน มนุษย์มักคิดว่าพวกเขาจะเอาสมองไปกังวลกับงานมากกว่า 40% จนไม่ได้มีความสุขกับการผ่อนคลาย แต่จริง ๆ แล้วในช่วงที่ผ่อนคลายพวกเขาจะคิดถึงงานน้อยกว่า 20% ด้วยซ้ำ

การผ่อนคลายก่อนการทำงาน หรือแม้แต่ทำงานไปด้วยผ่อนคลายไปด้วย ยังช่วยให้คนเราทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม มากกว่าทำงานรวดเดียวอย่างตึงเครียดแล้วบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าจะมีรางวัลรออยู่

งานวิจัยชิ้นนี้ไม่เพียงประยุกต์ใช้ได้กับการทำงานเท่านั้น แต่ถ้าเรามองชีวิตในระยะยาว แล้วหวังว่าขยัน ๆ ๆ เก็บเงิน รอพักผ่อนตอนแก่ทีเดียวเพราะคิดว่าจะมีความสุขกว่าก็อาจไม่ใช่วิธีมาตรฐานอีกต่อไป เราเลือกได้ว่าจะทำงานไปอย่างเป็นสุข หรือทำงานก่อน สุขทีหลังโดยใครจะเลือกวิธีไหนก็ไม่มีผิดหรือถูก เพียงแต่อย่าดูถูกการตัดสินใจของอีกฝั่งก็พอแล้ว

SOURCE1, SOURCE2, SOURCE3