อัพเกรดมาแบบนี้ซื้อรุ่นไหนดี เทียบสเปค MacBook Air 2018 vs MacBook Pro 13″ No TouchBar

APPLE® ได้ประกาศเปิดตัว MacBook Air 2018 ในงาน Apple Special Event ในกรุงนิวยอร์กพร้อมกับ iPad Pro และ Mac mini แต่แน่นอนว่าไฮไลท์คือ RE-Design ใหม่ของซีรีส์ MacBook Air ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ในกับวงการ Laptop ได้ทุกครั้งในการเปิดตัวแต่รอบนี้จะพัฒนาชิ้นส่วนไหนบ้างตามไปดูกัน

DESIGN

MacBook Air 2018 มาพร้อมหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว จอภาพขยายใกล้ขอบมากขึ้น ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมที่ผ่านการรีไซเคิลมาใช้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อม และเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้ในสายการผลิต นอกจากนี้ยังถูกออกแบบให้รูปทรงบางขึ้นกว่ารุ่นเดิมอีกด้วย ด้านข้างตัวเครื่องมีช่อง USB-C Thunderbolt 3 ที่ถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นจำนวน 2 พอร์ต พร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร โดยทั้งหมดมีน้ำหนักรวมกัน 2.75 ปอนด์ (1.24 กิโลกรัม) ลดลงจากรุ่นเดิม 10 เปอร์เซ็นต์

macworld

นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดคีย์บอร์ดให้เป็นรุ่น Butterfly Keyboard Gen 3 เหมือนใน MacBook Pro จุดขายคือแป้นพิมพ์ที่ปรับปรุงข้อเสียจาก Gen 2 ใน Macbook Pro รุ่นไม่มี TouchBar ตอบสนองเร็วขึ้น 4 เท่า มาพร้อมเซ็นเซอร์ LED-backlit สามารถวัดแสงรอบเครื่องได้ ซึ่งจะช่วยในการปรับแสงไฟแป้นพิมพ์ให้เหมาะสมกับความสว่างรอบ ๆ ตัวผู้ใช้งาน

ในส่วนของ Trackpad ปรับให้กว้างขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์มีช่อง Multi-Touch ที่ตอบสนองได้รวดเร็วขึ้นและสามารถปลดล็อกเครื่องได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วผ่านทางฟีเจอร์ Touch ID ตรงด้านขวาบนของคีย์บอร์ดรับรองความปลอดภัยด้วย Apple T2 Security Chip ทั้งหมดให้พลังงานด้วยแบตเตอรี่ที่รับประกันการใช้งานต่อเนื่องนาน 12 ชั่วโมง

macworld

SPECS

ด้านการแสดงผล MacBook Air 2018 มากับหน้าจอแบบ Retina Display ความละเอียด 2560 x 1600 (4 ล้าน pixel) สามารถรองรับเม็ดสีได้มากกว่าเดิมถึง 48 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกล้อง 720p FaceTime HD พ่วงมาให้ด้วย ระบบประมวลผลเป็น Intel Core i5 1.6-GHz dual-core Gen 8^th การ์ดจอเป็น Intel UHD Graphics 617 และ RAM ความเร็วเริ่มต้นที่ 8 GB แต่สามารถเพิ่มได้สูงสุดถ 16 GB  พร้อมหน่วยความจำที่มีตั้งแต่ 128 GB ไปจนถึง 1.5 TB ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม

MacBook Air 2018 vs Macbook Pro 13″ No TouchBar

MacBook Air 2018  ที่ได้รับการอัพเกรดมาเต็มที่ เมื่อเทียบกับ MacBook Pro 13″ No TouchBar ที่ไม่ได้อัพเกรดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ย่อมทำให้มีการเปรียบเทียบที่น่าสนใจ ในช่วงราคาที่ต่างกันเพียงนิดเดียว ไปลองดูตารางเปรียบเทียบด้านล่างประกอบการตัดสินใจดูครับ

จะเห็นประเด็นน่าสนใจหลายอย่างถ้าคุณแพลนจะซื้อ  Macbook Pro 13″ No TouchBar อยู่ล่ะก็ อาจต้องคิดให้ดี เพราะราคาจากหน้าเว็บ Apple ประเทศไทย MacBook Air Retina Display ราคา 42,900 บาท และ MacBook Pro 13″ No TouchBar ราคา 47,900 บาท (ความจุ SSD 128GB) เปรียบเทียบสเปคจะเห็นว่า MBA จัดมาน่าสนใจมาก ได้หน้าจอคุณภาพเท่ากัน ขนาดหน้าจอเท่ากัน แต่ได้ CPU ใหม่ ได้ Keyboard ที่แก้ไขปัญหาแล้ว รวมถึงขนาดเครื่องที่บาง เบา และใช้งานได้นานกว่า ซึ่งสำหรับคนที่เน้นพกพา ไม่ต้องการใช้ Graphic หนักมากนัก ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

PRICE & RELEASE DATE

MacBook Air 2018 จะเปิดตัวใน 3 เฉดสีคือ Gold, Silver, Space Gray โดยจะเริ่มขายในประเทศกลุ่มแรกวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ 1,199 ดอลล่าร์สหรัฐ  ส่วนในบ้านเราเว็บไซต์ Apple ประเทศไทยมีการอัพเดทออกมา 2 ราคาด้วยกัน คือ  MacBook Air 2018 128 GB ราคาอยู่ที่ 42,900 บาท และ MacBook Air 2018 265 GB ราคา 49,900 บาท ซึ่งแพงกว่ารุ่นก่อนพอสมควร แต่วันและเวลาที่สามารถสั่งจองได้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา

อีกเรื่องที่น่าสนคือ MacBook Air 2018 คือ MacBook ที่มีฟังก์ชัน Retina display ที่มีราคาถูกสุดตั้งแต่เคยผลิตมา ซึ่งเราก็หวังว่ามันจะเป็นโอกาสให้หนุ่มที่สนใจสามารถคว้ามาเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

SOURCE1