DESIGN

GEECON by BOO X TOS SUNTOS งานปั้นที่ผสานความเป็นไทยและศิลป์ร่วมสมัยได้อย่างสุดล้ำ

By: JEDDY May 2, 2022

คุณเคยรู้สึกไหมว่างานศิลปะสามารถผสมผสานและแตกแขนงไปในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

หากคุณยังไม่รู้สึก อยากให้ลองมองไปรอบ ๆ ตัว สิ่งของต่าง ๆ ที่ปรากฏตรงหน้า หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ล้วนผ่านกระบวนการงานศิลปะมาแล้วทั้งสิ้น

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันได้บ่งบอกความไร้ขอบเขตของงานศิลปะ แม้กระทั่งศิลปะวัฒนธรรมของไทยเองก็ยังสามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับศิลปะร่วมสมัยได้อย่างลงตัว

และ “โตส-ปัญญวัฒน์ พิทักษวรรณ” คือหนึ่งในตัวแทนศิลปินที่กำลังมาแรง ผลงานที่สามารถสะท้อนการฟิวชั่นของงานศิลปะให้ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์


โตส ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักออกแบบเต็มตัว ตั้งแต่กำหนดภาพลักษณ์องค์กร รวมไปถึงทำแบรนด์เสื้อผ้าภายใต้ชื่อ Mia.Company

โตส สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างมากจากผลงานที่ฝากไว้กับทาง Adidas Brand Center ที่สยามสแควร์ ซึ่งเป็นผลงานศิลปะสื่อผสมจำนวน 2 ชิ้น ได้แก่ “กึกก้อง” และ “เปล่งประกาย” รวมไปถึงยังเคยร่วมงานกับทางพิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน, นิตยสาร A Day, Joox Music Award 2019 และอีกมากมาย 

โตสมีความหลงใหลศิลปะไทยมาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะเคยแสดงเป็นโขนมาก่อน

“ตอนนั้นเราเริ่มหลงใหลวัฒนธรรมไทยเพราะรู้สึกมันมีความพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องของรามเกียรติ์ (Ramakien) มันจะมีเรื่องของตัวร้าย ตัวดี มีคาแรคเตอร์ที่ดูไม่ใช่แค่จิตรกรรมหรือไม่ใช่แค่วรรณกรรม มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เล่าสอดแทรกเข้าไป 

พอเราโตขึ้นมาก็เจอคำว่า ‘สวมหัวโขน’ อีก มันไม่ใช่ความหมายที่ไม่ดีนะครับ เพราะทุกคนต้องสวมหัวโขนทำหน้าที่ของตัวเองแตกต่างกันออกไป แต่พอกลับมาบ้านหรืออยู่ในพื้นที่เซฟโซน เราก็เลือกถอดหัวโขนออกมาเพื่อใช้ชีวิตปกติ ส่วนการทำงานศิลปะของผมก็สามารถถอดหัวโขนได้ เพราะมันเป็นตัวเองได้ 100% ครับ”


ในช่วงโควิดที่ผ่านมา หลายคนต้องเจอวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป มันได้สอนให้เราต้องปรับตัวในการพบเจอกับเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นชินโดยเฉพาะการกักตัว ทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับบ้านมากกว่าเดิม ซึ่งตัวโตสเองก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน แต่เขากลับพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โตสได้กลับไปเจอตัวเองในวัยเด็กที่ซ่อนอยู่อีกครั้ง และได้ดึงสิ่งความฝันเหล่านั้นออกมาสู่การวาดภาพคาแรคเตอร์ดีไซน์ในปัจจุบัน

“พอเราโตขึ้น เราก็รู้สึกขาดหายหลงลืมความเป็นเด็กไป ซึ่งในช่วงโควิดเราก็มีเวลากลับมาถามตัวเองว่าชอบอะไร อยากทำอะไรให้กับตัวเอง มันก็เลยกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรากลับมาทำอะไรที่ชอบมากขึ้น หรือทำในสิ่งที่เราสนใจมากขึ้น เราก็มีโอกาสได้กลับมาทำงานอื่นนอกจากงานออกแบบครับ”

ผลงานการออกแบบคาแรคเตอร์ดีไซน์ของโตสได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Astro Boy การ์ตูนเจ้าหนูหุ่นยนต์สุดคลาสสิคที่ถูกนำมาผสมผสานเข้ากับใบหน้าของหนุมาน จนได้ความแปลกใหม่ขึ้นมา กลายเป็นจุดขายที่ดูเตะตาและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน

“ผมมีหน้าที่แค่ทำมันออกมาให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งบ่งบอกความเป็นคาแรคเตอร์ของเราเองมากขึ้นตามไปด้วยครับ

ผมมีกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจผลงานค่อนข้างกว้าง ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะวันนี้คนเก็บงานศิลปะที่มีเฉพาะกลุ่มมันกว้างขึ้น งานที่ผมทำก็ตอบโจทย์ความเป็นเด็กในตัวลูกค้า งานที่เป็นวัฒนธรรมไทยบางอย่างเองก็ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยเช่นกันครับ”

สิ่งที่โตสบอกไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใด เพราะผลงานของเขาได้กระจายไปอยู่บนแผ่นสเก็ตบอร์ด, บนกำแพง จนกระทั่งกลายมาสู่งานปั้นที่มีมิติมากขึ้น


งานปั้นเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่เปลี่ยนจากรูปแบบ 2 มิติให้กลายเป็น 3 มิติ ที่เราสามารถสัมผัสมันได้จากรายละเอียดในทุก ๆ มุมที่ถูกสร้างสรรค์ออกมา ซึ่งจุดเริ่มต้นของ Geecon เกิดจากการชักชวนของ Boo-X ที่เล็งเห็นเอกลักษณ์และเสน่ห์จากผลงานของโตส จนสุดท้ายทั้ง 2 ก็ได้มาร่วมกันเนรมิตรอีกหนึ่งสุดยอดผลงานออกมา

“ทาง Boo-X ได้มาเชิญชวนให้ผมไปร่วมงานด้วย เราก็รู้สึกว่าที่นี่มันมีความพิเศษอยู่แล้วเพราะเขามีงานปั้นดี ๆ ออกมาเสมอ ซึ่งมันจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้คาแรคเตอร์งานของผมแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมครับ”

หลังจากได้ผ่านการพูดคุยตกลงร่วมงานกันแล้ว โตสจึงได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการทำงานอย่างจริงจัง 

“เริ่มต้นจากการสเก็ตภาพไปหลายต่อหลายครั้ง ผมกับทีมงานก็ได้ Discuss กันตลอดว่ามันควรจะมีความเป็นเรามากกว่านี้ไหม เราก็มาคิดต่อว่าเราจะแอดอะไรเข้าไปได้บ้าง เช่น ความเชื่อ, เรื่องของสี หรือคาแรคเตอร์ เป็นต้นครับ”

ในส่วนชองชื่อ GEECON โตสได้ยกเครดิตให้กับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ช่วยกันตั้งขึ้นมาให้


ไม่ใช่แค่สะท้อนผลงานการออกแบบคาแรคเตอร์อันโดดเด่น แต่ GEECON ยังสะท้อนตัวตนและอุปนิสัยของโตสออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงความชื่นชอบใบหน้าที่มีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกัน

“GEECON มันคือตัวผมเลยครับ ใครที่อยู่รอบตัวผมก็จะเห็นคาแรคเตอร์นี้อยู่บ้าง คาแรคเตอร์นี้มันคือความซน ความแอคทีฟ ท่าทางจึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น ที่มันทำท่าทางแบบนี้เพราะมันลิงค์กับหนุมานด้วย ทำให้มันมีท่าทางที่พิเศษกว่าปกติ แล้วผมเองก็เป็นคนชอบหน้ายิ้มมากมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วครับ รู้สึกมองแล้วสบายใจ ผมว่ามันน่ารักดีครับ

วินาทีที่เห็นผลงานออกมาครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก เรารู้สึกว่ามันสำเร็จแล้ว มันสมบูรณ์แล้ว แถมมันยังมีการใช้เทคนิคอะไรบางอย่างที่ไม่น่าเป็นไปได้ พอออกมาสมบูรณ์ผมก็รู้สึกโล่งครับ

ผมว่าทุกคนจะได้เข้าใจตัวผมมากขึ้น เข้าใจในสิ่งที่ผมนำเสนอมากขึ้น ผมคิดว่าการทำงานศิลปะก็อยากให้คนเข้าใจในพาร์ตที่เราเป็น การเก็บ GEECON ไว้สะสมมันก็เหมือนการเก็บความสุขในวัยเด็กผมไปด้วยครับ”


นอกจากความโดดเด่นของตัวคาแรคเตอร์แล้ว ภายในตัวของ GEECON ยังแอบซ่อนรายละเอียดต่าง ๆ ที่คุณก็อาจจะคาดไม่ถึงมาก่อน ซึ่งมันประกอบไปด้วย

1. หินมูเตลู

บริเวณหน้าผากของ GEECON จะมีหินอยู่ 3 ก้อน ซึ่งมันเต็มไปด้วยความหมายและความเชื่อ ประกอบไปด้วย “หินออบซิเดียน” (ช่วยลดจุดบกพร่องในชีวิต ช่วยให้จิตใจมีความมั่นคง มองโลกในแง่ดี), “หินเทคไทต์” (โดดเด่นเรื่องโชคลาภและการค้าขาย) และ “หินทัวร์มาลีน” (ปรับสมดุลของร่างกาย ปัดเป่าเรื่องโชคร้าย)

เท่านั้นยังไม่พอบริเวณดวงตายังมีหินที่มีลักษณะคล้ายกับดวงตาของมนุษย์จริง ๆ เมื่อถูกขัดอีกด้วย

 

2. จมูกสัญลักษณ์แห่งพระพาย

บริเวณจมูกของ GEECON โตสเล่าว่ามันคือสัญลักษณ์ของลมซึ่งมันคือตัวแทนของ “พระพาย” หรือบิดาของ “หนุมาน” นั่นเอง

3. มือเด็ก

โตสรู้สึกว่ามือของเด็กมีความบริสุทธิ์ เห็นแล้วอยากเข้าไปจับและยังน่าทะนุถนอมด้วยเช่นกัน

4. การเจาะหู

การเจาะหูก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนตัวตนของโตส เพราะเจ้าตัวก็เจาะหูเหมือนกันนั่นเอง

5. กางเกงในเข้าวิน

มองผ่าน ๆ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ทางโตสบอกว่านี่คืออีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความซนของวัยเด็กได้เป็นอย่างดี


GEECON ใช้เวลาการทำงานนานถึง 6 เดือน ตั้งแต่เริ่มต้นจนออกมาเป็นงานปั้นแบบที่เราเห็น ซึ่งในระหว่างทางมันย่อมมีความท้าทายเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นต้นทาง, กลางทาง หรือหลังจบกระบวนการด้วยเช่นกัน

“ความท้าทายสำหรับผมคือการทำงานกับคน ทำงานกับทีม คือมันไม่ใช่งานที่ทำคนเดียว หรือแก้ปัญหาด้วยตัวเราเอง 100% มันเกิดการแชร์กับคนที่ทำงานด้วยกันว่าจะปรับปรุงอะไรให้มันดียิ่งขึ้น มันมีทั้งความกดดันและสนุกปนกันไปครับ

แล้วผมยังมองว่า ทำไมเราจะสร้างงานที่มีความเป็นไทยแล้วทำให้คนสนใจไม่ได้? มันจึงเป็นการสู้กับตัวเองด้วย เราอยากเล่าอะไรที่มีความเป็นไทยให้มันดูมีความทันสมัยมากขึ้น ให้คนเห็นมากขึ้น อยากให้มันไปได้ไกล นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงมีความเป็นไทยเข้ามาในชิ้นงานนี้

ส่วนความยากผมว่าน่าจะเป็นทั้งตัวเลยครับ เพราะท่าทางของมันคงไม่ใช่แบบงานปกติสำหรับงานปั้น มันมีดีเทลค่อนข้างเยอะ ทุกส่วน ทุกรายละเอียดของผลงานชิ้นนี้ ผมมองว่ามันยากและท้าทายหมดเลยครับ”


สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ GEECON สามารถติดต่อได้กับเราโดยตรง ผ่านทางเพจ UNLOCKMEN และทาง Boo-X (www.booxproject.com / Line : @booxproject และ IG : boo_x_project)

แต่อาจจะต้องรีบหน่อย เพราะ BOO X Tos Suntos “GEECON” ผลิตมาจำนวนจำกัดมาก ๆ ช้าอดหมดสิทธิ์สะสมแน่นอน หรือใครอยากดูแบบใกล้ ๆ GEECON จะถูกนำไปจัดแสดงที่งาน Mango Art Festival ณ River City Bangkok วันที่ 3-8 พฤษภาคม 2022 ใครอยากสัมผัส GEECON แบบใกล้ชิดห้ามพลาดเด็ดขาด

ส่วนใครรู้สึกชอบผลงานของโตส สามารถติดตามได้ทาง IG : tos_suntos และ mia.company_

ส่วนติดตามวิดีโอสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ เตรียมรับชมได้ทางแฟนเพจ UNLOCKMEN เร็ว ๆ นี้

 

Photographer : Krittapas Suttikittibut

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line