EVENT

Mido Novelties Presentation 2023 การปรากฎโฉมครั้งแรกของ 7 เรือนเวลาสุดไอคอนิกแห่งปี ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของเหล่าคนรัก Mido

By: GEESUCH March 16, 2023

ถ้าให้ไล่ชื่อของแบรนด์นาฬิกาที่ประทับใจในชีวิต ก็ต้องบอกว่า Mido เป็นแบรนด์ที่ติดโผ และทำให้เราตื่นเต้นได้เสมอไม่ว่าจะมีข่าวอะไรออกมา สมกับที่เป็นแบรนด์สวิสเซอร์แลนด์เก๋าเกมอยู่ในวงการประดับข้อมือของเหล่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกยุคสมัยกว่า 100 ปี

ล่าสุดทาง Mido จัดอีเวนต์ที่ใช้ชื่อว่า MIDO Novelties Presentation 2023 กระตุ้นความไฮป์ของเหล่าผู้หลงใหลในเรือนเวลาด้วยการเปิดตัวเรือนเวลา 7 คอลเลกชั่นน่าสะสมแห่งปี ที่สรุปสั้น ๆ แต่ตรงใจได้ว่า ‘สวยและเหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์’ ที่ The Jim Thompson Art Center แล้วก็เหมือนเดิม UNLOCKMEN ได้รับเชิญไปงานนี้ด้วย เดี๋ยวเราไปดูพร้อมกันอย่างไม่รอช้าว่างานนี้มีไฮไลต์อะไรบ้าง 


เชื่อว่าทุกคนในงาน MIDO Novelties Presentation 2023 จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า The Superprecise Parkour Performance by Anan Anwar เป็นโชว์ที่ตราตรึงใจที่สุดของงาน ใครเล่าจะปฎิเสธภาพของ ‘อนัน อันวา’ เล่าประสิทธิภาพของ Multifort M Chronometer หนึ่งในเรือนเวลาไฮไลต์ของค่ำคืนนี้ ผ่านการโชว์เพอฟอร์แมนซ์ Parkour กีฬาซึ่งเป็นรากของ Freerunning ที่ใช้ทั้งความแรง ดุดัน และยืดหยุ่นของร่างกายทุกส่วน ให้เห็นกันไปเลยว่านี่คือเรือนเวลาที่แฝงจิตวิญญาณของความเอ็กซ์ตรีมให้เหล่าผู้คนในงานได้อย่างใกล้ชิด    

ยังไม่หมด ! นี่เป็นแค่นาฬิกาเรือนเดียวเท่านั้น เดี๋ยวเราพาเดินชมนาฬิกาแต่ละตัวในงานให้ครบทุกเรือนกันเลยดีกว่าว่ามีความพิเศษอะไรบ้าง


Multifort M Chronometer : ต้องเริ่มต้นเล่าอย่างนี้ก่อน ความเป็นแบรนด์ Mido ที่ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานดี มีดีไซน์ที่จัดเจน ถูกประกอบร่างเป็น Multifort M Chronometer หมดแล้ว โดยนาฬิการุ่นนี้ผ่านการรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC และตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Caliber 80 ที่สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง !

Multifort M Chronometer ยังมาพร้อมกับ Silicon Balance Spring แฝงคุณสมบัติด้านความแม่นยำทนทานต่อสนามแม่เหล็ก โดยมีการสลักคำว่า ‘Chronometer’ บนหน้าปัด เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความแม่นยำที่เกินกว่าค่ามาตรฐาน และอย่างที่บอกไปว่านอกเหนือจากฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว ความสวยงามก็เป็นอีกสิ่งที่ Multifort M Chronometer มีอย่างเต็มเปี่ยม โดยนาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและดุดัน ด้วยตัวเรือนและสายจาก Stainless Steel ที่มีความทนทานเป็นพิเศษ และสุดเอกลักษณ์ด้วยหน้าปัดทรงกลมสีเขียวที่มีการไล่ระดับสีเขียวบริเวณตรงกลางกระจายออกไปด้านข้างกระทั่งกลายเป็นสีดำบริเวณรอบหน้าปัด และเทคนิคการขัดลายซาตินในแนวตั้งอย่างประณีต และเปิดเผยโฉมของตัวเองด้วยการดีไซน์ฝาหลังแบบเปลือยที่สามารถมองเห็นกลไกการขับเคลื่อนของนาฬิกาได้อย่างงดงาม พร้อมกันน้ำลึกในระดับ 100 เมตร เหมาะกับทุกไฟล์สไตล์ของสายผจญภัยที่เหนือระดับยิ่งกว่านักผจญภัยคนไหน


Multifort M : เรือนเวลาหน้าปัดขัดซาตินแนวตั้งพร้อมพื้นผิวไล่ระดับจากสีน้ำเงินไปจนถึงสีดำ ที่มาพร้อมพรายน้ำเรืองแสงสีเขียวอมฟ้า และมีช่องแสดงวันและวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ประกอบกับกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่มีการป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน เหมาะสมกับการใช้เป็นเรือนเวลา Everyday Life ที่สุด กลไกของเรือนเวลาตัวนี้ก็ขับเคลื่อนด้วย Caliber 80 ที่สำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมเหมือนกัน แต่จะใช้บาลานซ์สปริงของ Nivachron ที่เป็นสัญลักษณ์ของความทนทานแทน


Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition : สาย Diving พลาดไม่ได้ กับนาฬิกาดำน้ำที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เด่นของหน้าปัดแบบดั้งเดิม ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น GMT และขอบหน้าปัดที่แสดงเวลาจากทั่วโลกผ่าน 2 ดีไซน์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อทุกสภาวะด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงาที่แข็งแรงทนทาน บนหน้าปัดพื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม สลักโลโก้ ‘Mido’ แบบดั้งเดิม โดยนาฬิกาเรือนนี้จะแสดงเวลาการบีบอัดของน้ำที่ระดับความลึก 6 เมตร ซึ่งบ่งบอกจากมาตรวัดวงกลมสีเหลือง สีเขียว สีชมพู และสีน้ำเงิน ที่อยู่บนหน้าปัด พร้อมขอบหน้าปัดแบบหมุนได้จากวงแหวนอะลูมิเนียมสีน้ำเงิน และมีลูกศรสีแดงเพื่อระบุเขตเวลาในการเดินทาง 

ไม่เท่านั้น Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition มาพร้อมกับอีกหนึ่งรุ่นดีไซน์พิเศษที่มีตาราง Decompression Scale ไล่ระดับสีจากสีเหลืองไปสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ของ Mido บนผิวหน้าปัดสีดำที่มาพร้อมวงแหวนอะลูมิเนียมและสายยางที่เข้าคู่กัน     


Baroncelli Chronograph Moonphase : เรือนเวลาที่มาพร้อมความสง่างามสุดคลาสสิกในขนาดหน้าปัด 42 มม. พร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟ มูนเฟส จากเครื่อง Caliber A05.221 ที่สำรองพลังงานสูงสุดได้ 60 ชั่วโมง มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังแบบเปลือย และบาลานซ์สปริง Nivachron แฝงด้วยคุณสมบัติในการต้านทานต่อสนามแม่เหล็กและแรงกระแทก ทั้งหมดนี้ถูกรวมอยู่ใน 2 ดีไซน์อันโดดเด่นบนตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงา หน้าปัดซันเรย์ขัดซาตินสีน้ำเงิน ที่เข้าคู่กับสายยางสีน้ำเงิน และตัวเรือนเคลือบ PVD สีโรสโกล์ด จับคู่มากับสายยางสีดำ พร้อมครอบกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนแบบสองชั้นสองด้าน


อย่างที่เกริ่นเอาไว้ในชื่อของบทความว่า Mido Novelties Presentation 2023 เป็นเรือนเวลาที่เหมาะกับทุกคน และในคอลเลกชั่นนี้ก็มีนาฬิกาที่ทำขึ้นเพื่อสาว ๆ ของ Mido ถึง 2 เรือน   

Ocean Star Nerea : นาฬิกาของผู้หญิงสายสปอร์ตเรือนแรกในคอลเลกชั่น Ocean Star มาพร้อมกับระบบ Caliber 80.611 ซึ่งสามารถสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง บนขนาดหน้าปัด 36.5 มม. โดยมีตำแหน่งบอกเวลาบริเวณ 6 นาฬิกา ที่มาพร้อมขอบเบเซลทรงโดมแบบหมุนได้ ผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี โดยมีทั้งแบบหน้าปัดสีน้ำเงินและสีดำซันเรย์ขัดซาติน พร้อมเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova บริเวณเข็ม ตัวเรือนมีทั้งแบบที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลพร้อมสายสแตนเลสสตีล และตัวเรือนแบบ PVD เคลือบโรสโกลด์ ประดับด้วยเพชรแท้ 11 เม็ด และที่ขาดไม่ได้เลยกับฟังก์ชั่นหลักของตระกูล Ocean Star ที่สามารถกันน้ำได้ 200 เมตร บอกเลยว่าสาว ๆ สายลุยต้องไม่พลาดใช้เรือนนี้


ปิดท้ายกันที่เรือนสุดท้าย Commander Lady : เรือนเวลาสำหรับหญิงสาวที่ชื่นชอบความเฟมินีน ที่มาพร้อมหน้าปัดขนาด 35 มม. ด้วยระบบ Caliber 72 ที่สามารถสำรองพลังงานสูงถึง 72 ชั่วโมง และบาลานซ์สปริง Nivachron ด้วยตัวเรือนเหล็กสแตนเลสขัดซาตินและขอบตัวเรือนขัดเงา ครอบด้วยกระจกแซฟไฟร์แบบเหลี่ยมเพชร บนหน้าปัดสีอ่อนซันเรย์แบบทวิสต์  ที่ประดับด้วยอินเด็กซ์แบบขีดหรือแบบเพชร 11 เม็ด โดยมีอีกหนึ่งไฮไลต์ดีไซน์บนหน้าปัดสีขาวมุก (Mother of Pearl) พร้อมประดับเพชร 11 เม็ด ตัวสายมีทั้งสายเหล็กสแตนเลสอันเป็นเอกลักษณ์และสายหนังสุดคลาสสิก โดยสามารถกันน้ำได้ในระดับความลึก 50 เมตร อีกเรือนเวลาที่ตอบโจทย์กับสาว ๆ ที่หลงใหลในความเป็น Mido ทุกคน  


และนี่ก็คือไฮไลต์ทั้งหมดใน Mido Novelties Presentation 2023 ที่บอกแล้วว่า Mido กลับมาเขย่าเรือนเวลาเก่าบนข้อมือของทุกคน ให้ไม่สามารถละสายตาจากคอลเลกชั่นล่าสุดทั้ง 7 เรือนได้เลย และสำหรับคนที่อยากสัมผัสของจริงกันแล้ว ก็สามารถพบกับทั้ง 7 เรือนเวลา ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ MIDO ของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Central / Robinson / The Mall และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 

ช่องทางออนไลน์ : 

– MIDO Official Store : ใน Shopee และ Lazada 

– Facebook: Mido Watches

– LINE Official Account: @midothailand 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.midowatches.com 

(หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200)

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line