เหนื่อยนักพักเสียหน่อย! ชวนหนุ่ม ๆ มาปรับนาฬิกาชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง อย่างที่มันควรจะเป็น

ชีวิตที่วุ่นวายและทุกอย่างรวดเร็วเสียจนบางครั้งตัวเราเองก็ตามไม่ทัน ทำให้เรามีกิจวัตรประจำวันที่ไม่ค่อยแน่นอน เข้านอน ตื่นนอน รวมทั้งการกิน ก็ไม่ได้มีเวลาตายตัว เพราะทั้งหมดอาจเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แล้วแต่ว่าจะมีอะไรเข้ามาแทรกตอนไหน อย่าปล่อยให้เรื่องเหล่านี้ ที่ควรเป็นเวลาสม่ำเสมอในชีวิต ต้องถูกทำลายด้วยความเคยชินของตัวเอง เพราะมันส่งผลกับสุขภาพของเราโดยตรง หนุ่มคนไหนที่รู้ตัวว่านาฬิกาชีวิตรวนไปหมด UNLOCKMEN ชวนมาปรับนาฬิกาชีวิตกับเทคนิคที่เราอยากแนะนำ เพื่อให้ร่างกายกลับมาทำกิจวัตรเหล่านี้ให้สม่ำเสมอในเวลาที่ควรจะเป็น ก่อนที่จะสาย อย่าลืมว่าร่างกายเราไม่อาจซื้ออะไหล่ได้

หากิจกรรมทำในตอนเช้า

ออกไปสัมผัสแสงแดดแรกในตอนเช้า ด้วยการลุกขึ้นมาจากเตียง มาทำ Activity ที่เราเองก็ชื่นชอบและเต็มใจจะทำ ไม่ว่าจะเป็นดื่มกาแฟ ไถนิวส์ฟีด ตื่นมาออกกำลังกาย ตื่นมาฟังเพลง ตื่นมาใช้เวลาเสริมหล่อให้กับตัวเอง จะเป็นอะไรก็ช่าง ลองเลือกมาหนึ่งอย่างที่มันมีแรงผลักดันมากพอให้เราลุกขึ้นมาจากเตียงได้แบบไม่อิดออดและกำหนดเวลาตื่นแบบเผื่อเวลาก่อนไปทำงาน นั่นหมายความว่า เราจะตื่นมาแบบสดชื่น เพราะรู้ว่าตัวเองจะได้มาทำในสิ่งที่ชอบ และยังมีเวลาเหลือ ๆ ก่อนไปทำงาน ไม่ต้องวิ่งหน้าตั้งเข้าออฟฟิศอย่างเคยแล้ว พอเราทำเป็นกิจวัตร นาฬิกาชีวิตเข้าที่เข้าทาง เราอาจจะเลิกใช้นาฬิกาปลุกไปเลยก็ได้

งีบสักหน่อยในตอนบ่าย

คล้อยบ่ายทีไร ง่วงจนอยากจะหาอะไรมาถ่างตาเอาไว้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกินข้าวจนอิ่ม หนังท้องตึงหนังตาหย่อน หรือเพราะร่างกายเราต้องการจะชาร์จพลังกันแน่ แต่การงีบหลับสัก 10-15 นาที เป็นการรีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดชื่นอีกครั้งในตอนบ่ายได้จริง ๆ และไม่ทำให้ง่วงสะสมไปจนถึงตอนหัวค่ำ ที่พอถึงห้องแล้วพาลให้อยากล้มตัวลงนอน จนบางวันไปตื่นเอาตอนดึก ทั้งที่ยังใส่ชุดทำงานก็มี เพราะฉะนั้น อย่าฝืนตัวเองเลย งีบสักเล็กน้อยในเวลาที่แนะนำคือ 10-15 นาที ถ้านานเกินไป ตื่นมามันจะเพลียยิ่งกว่าเดิม เพราะร่างกายกำลังเข้าสู่ Sleep Mode แบบเต็มที่ พอถูกปลุกกลางทาง มันก็มีแต่งัวเงียซะเปล่า ๆ

เลิกเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน

จะนอนแล้วก็ขอจับโทรศัพท์เสียหน่อยจนเป็นนิสัย จนลืมว่าแสงจากหน้าจอทำให้เราหลับยากขึ้นกว่าเดิม เหตุผลเดียวกับที่เราเปิดทีวี เปิดไฟนอนแล้วหลับไปไม่ค่อยสนิทนั่นแหละ ก็เพราะมันมีแสงรบกวนตาเราอยู่ตลอด แต่ถ้าหากมีเหตุจำเป็นจริง ๆ หรือมันขาดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้อง Text บอกสาวก่อนนอนด้วยคำหวาน ๆ หรืออะไรก็ตาม แนะนำให้รีบทำก่อนเวลาเข้านอนจริงสักครึ่งชั่วโมง สมมติว่าปกติรู้ว่าเราง่วงตอนสี่ทุ่ม ก็ควรจัดการธุระทุกอย่างให้เสร็จตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง และปล่อยให้ร่างกายเปิด Sleep Mode ไปเองตามเวลาที่เราเคยชิน

นอกจากแสงจากจอโทรศัพท์แล้ว ควรจัดการกับแสงจากระเบียง หรือแสงจากด้านนอกห้องที่จะรบกวนการนอนของเราด้วย เพื่อให้เราหลับได้สนิทมากพอ

นอนให้ตรงเวลา

การเข้านอนให้เป็นเวลา มีผลกับร่างกายของเรามาก ๆ ไม่ใช่เพียงการนอนให้เพียงพอเฉย ๆ เท่านั้น อย่างที่เรารู้สึกเองได้คือ การนอนดึกแล้วตื่นสาย มันไม่ได้สดชื่นเท่ากับการเข้านอนไวแล้วตื่นเช้าเลยสักนิด ลองมาปรับการนอนให้เข้าที่ หาเวลานอน เวลาตื่น ที่เหมาะสมตามกิจวัตรประจำวันของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ทำจนชิน จนร่างกายจำได้ว่าถึงเวลานี้แล้วเราจะเริ่มง่วงได้แล้ว เพราะมันถึงเวลาเข้านอน รักษากิจวัตรของเราในส่วนของการพักผ่อนนี้ให้ได้ เพราะการพักผ่อนของเรา ส่งผลกับการหลั่งฮอร์โมนในตอนหลับแบบโดยตรงเลยล่ะ 

ไปแคมป์ปิ้ง

ฟังดูเหมือนการไปพักผ่อนมากกว่าการจัดการนาฬิกาชีวิต แต่ความหมายจริง ๆ ของมันคือ การที่เราได้ออกไปใกล้ชิดธรรมชาติ มันทำให้เราผ่อนคลาย และห่างไกลจากสิ่งรบกวนอย่างอื่น โฟกัสกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของตัวเองจริง ๆ มากกว่าการนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่บ้านอย่างเคย ได้รับแสงอาทิตย์แรกทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น พอฟ้ามืดจนเห็นดาว ร่างกายรับรู้แล้วว่าถึงเวลานอน เราจะรู้สึกง่วงไปตามเวลาที่มันควรจะเป็น ลองออกไปแคมป์ปิ้งในช่วงวันหยุดกันดู แล้วเราอาจจะเริ่มต้นการพักผ่อน ตื่นนอนมาใช้ชีวิตในตอนกลางวัน ได้เข้าที่เข้าทางมากขึ้นจากการแคมป์ปิ้งนี้ก็ได้

SOURCE