ผู้ชายที่ชอบกรนเสียงดัง มักสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้าง เพราะเสียงกรนที่แสนดังและถี่มักทำให้เพื่อนร่วมห้องหนวกหูอยู่เสมอ บางคนอาจจะทนเสียงกรนได้ในช่วงแรก แต่ความอดทนขอคนก็มีจำกัด พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง การกรนอย่างต่อเนื่องจะสร้างปัญหาการอยู่ร่วมห้องกับคนอื่นได้ หากเราต้องการอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข การหยุดกรนจึงเป็นเรื่องที่เราควรทำกันโดยเร่งด่วน นอกจากนี้การกรนยังสามารถทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้ อาทิ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac Arrhythmia) เราเลยอยากมาแนะนำวิธีการป้องกันการกรนเวลานอน เพื่อให้ทุกคนสามารถนอนหลับสนิทอย่างฟินตลอดคืนได้ ทำไมคนเราถึง ‘กรน’ ก่อนจะเข้าช่วงแนะนำวิธีการป้องกัน เราอยากพาทุกคนไปทำความเข้าใจกลไกที่ทำให้เกิดการกรนก่อน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของเราล้วน ๆ เริ่มจากเวลาเราหลับ และกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากการหลับตื้น (light sleep) ไปยัง การหลับลึก (deep sleep) ส่วนของกล้ามเนื้อเพดานปากที่ชื่อว่า เพดานอ่อน (soft palate) ลิ้น และคอ จะอยู่ในภาวะผ่อนคลายมากกว่าปกติ เมื่อเนื้อเยื่อที่อยู่ในช่องปาก และลำคออยู่ในภาวะผ่อนคลายมาก มันจะไปปิดกั้นทางเดินของอากาศหายใจที่อยู่ในลำคอ ส่งผลให้อากาศเดินทางผ่านช่องทางนั้นได้ยากขึ้น และทำให้เนื้อเยื่อที่อยู่ในลำคอเกิดการสั่นไหวด้วย และพอทางเดินอากาศในช่องคอแคบลงมากเท่าไหร่ การไหลผ่านของอากาศก็จะยิ่งยากขึ้น และทำให้เนื้อเยื่อเกิดการสั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการสั่นไหวของเนื้อเยื่อในช่องคอ เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดเสียงกรนที่ดังหรือเบา ปัญหาที่ทำให้ช่องอากาศของเรเวลานอนมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะของ soft palate ที่ต่ำและหนาเกินไป จนทำให้ทางเดินอากาศแคบ
กลับมาพร้อมความเหนื่อยจากภาระและหน้าที่ต่าง ๆ ที่บังคับให้เราต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน อย่าได้แบกเอาสิ่งเหล่านั้นจากโลกภายนอก เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าขาดเวลาของตัวเอง เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของเราอย่างห้องนอนที่เป็นอีกพื้นที่ที่ทำให้เราได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปลดปล่อยความคิด อยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นระเบียบ ของกระจัดกระจายตามประสาห้องของหนุ่ม ๆ หรือเป็นห้องที่เรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วก็ตาม หากมันเป็นพื้นที่ที่เราแสนจะสบายใจ พร้อมทิ้งตัว มันก็คือพื้นที่ของเราที่เรียกว่าโลกส่วนตัวได้แบบเต็มปากแล้วล่ะ ขึ้นชื่อว่าห้องนอน แต่กลับทำให้เรานอนหลับพักผ่อนไม่เต็มที่ ตื่นกลางดึกบ้าง สิ่งรบกวนภายนอกที่เข้ามาปลุกให้เราสะลึมสะลือก่อนถึงเวลาตื่นตามปกติของเรา ปัญหานี้นอกจากแก้ไขที่ร่างกายเราแล้ว ยังสามารถแก้ได้จากการจัดห้องให้มีสภาพที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างเต็มที่อีกด้วย หากยังไม่มีไอเดียอะไร ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำให้ห้องนอน เป็นห้องที่นอนได้อย่างสนิทจริง ๆ สมกับชื่อของมัน ว่ากันด้วยเรื่องของแสง แสงแดดต้องส่องถึง ตามปกติแล้วห้องนอนคือห้องที่มีหน้าต่าง ไม่ว่าจะอยู่ด้านไหน เราขอแนะนำให้ที่นอนของคุณ ตั้งอยู่ในระยะที่แสงแดดส่องถึง เพื่อให้ที่นอนของคุณไม่มีกลิ่นเหม็นอับ รวมถึงภาพรวมของทั้งห้องด้วย เพราะนอกจากเรื่องของกลิ่นอับแล้วมันยังช่วยให้เราไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันอีกต่างหาก และอย่าลืมเปิดหน้าต่างในบางช่วงเวลา เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อช่วยลดกลิ่นอับได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน แถมได้อากาศสุด Fresh สูดเข้าไปแบบเต็มปอด อุณหภูมิที่เหมาะสม หากวันไหนเหนื่อยล้าจนรู้สึกว่าร่างกายมีอุณหภูมิที่แปลกไป ก็ลองอาบน้ำเย็นหรืออุณหภูมิปกติดู เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิของร่ายกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน แบบที่คุณเคยรู้สึกว่าวันไหนทำงานหนัก ๆ แล้วรู้สึกตัวอุ่น ๆ
ตกกลางคืนทีไร แทนที่ร่างกายจะได้จมดิ่งลงห้วงแห่งการนอน แต่กลับมีเรื่องราวให้นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะข้างห้องกินเหล้า รอดูบอลทีมรัก งานที่ตามหลอกหลอนถึงที่บ้าน หรือแม้แต่นอนไม่หลับเองก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การนอนไม่หลับหรือไม่มีเวลานอน มันช่างบั่นทอนสุขภาพและอารมณ์สำหรับวันต่อไป แต่เมื่อปัจจัยมันบังคับ UNLOCKMEN ขอแนะนำทางลงให้กับคนนอนน้อย ด้วยวิธีง่ายแสนง่ายอย่าง “การหายใจเข้าลึก ๆ” ก็สามารถทำให้เราเข้าสู่ห้วงนิทราได้แบบไม่เปลืองแรง การนอนไม่เต็มอิ่ม มันสามารถสะสมหลาย ๆ คืนจนทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียได้ ผลกระทบที่มันสะสมต่อเนื่อง นานเข้ามันไม่ได้ส่งผลแค่กับร่างกายหรือใต้ตาที่ดำคล้ำเพียงอย่างเดียว มันยังส่งผลกับสมองของเราอีกต่างหาก ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย โฟกัสกับอะไร หรือคิดไอเดียใหม่ ๆ ไม่ราบรื่นเอาซะเลย แม้วิธีการพาเราเข้าสู่ห้วงนิทรามีสารพัดวิธีที่จะขับกล่อมตัวเองยามหัวถึงหมอน ไม่ว่าจะกลิ่นอโรมา การฟังเพลง แต่เรามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น ง่ายและใกล้ตัวจนเราอาจมองข้ามไปอย่าง “การสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ” ปกติแล้วการเลือกสูดลมหายใจลึก ๆ เป็นจังหวะ เรามักจะทำตอนที่อารมณ์ของเราพุ่งไปแบบฉุดไม่อยู่ ไม่ว่าจะโกรธ กลัว ตื่นเต้น เพราะช่วยบรรเทาความรู้สึกนั้น ผ่อนคลายความเครียด ความกังวล และปัดเป่าอารมณ์ขุ่นมัวให้ลดลง แต่วันนี้เราจะใช้ประโยชน์จากมันนำมาช่วยให้เรานอนหลับง่าย หลับได้ลึก จากการหายใจเหมือนกันนี่แหละ โดยผู้วิจัยอย่าง Christophe Andre ได้ทดลองฝึกการหายใจให้ลึกและเป็นจังหวะ จนเป็นเหมือนการออกกำลังกายด้วยลมหายใจ ซึ่งไม่เพียงได้ผลตรงตามที่บอกว่าแค่ช่วยลดความเครียด ทว่ามันช่วยเรื่องการนอนของเราได้
ข่มตานอนตั้งแต่หัวค่ำ รู้ตัวอีกทีก็ข้ามวันเพราะเลยเที่ยงคืนมาแล้วก็ยังหลับไม่ลง พลิกไปพลิกมาก็แล้ว นับแกะจนหมดสวนผึ้งก็แล้ว ยังไม่เข้าใกล้ความง่วงเลยสักนิด อาการนี้แม่งโคตรทรมานเลยจริง ๆ หากมีปัญหาติดต่อกันเป็นเวลานาน เราแนะนำว่าควรไปพบแพทย์จะดีกว่า แต่สำหรับใครที่นอนไม่หลับเป็นครั้งคราวไป UNLOCKMEN มี Playlist ดี ๆ บน Spotify มาแนะนำสำหรับวันไหนที่ตาค้างหลับไม่ลง ซึ่งมีทั้งเสียงธรรมชาติ, เสียงในชีวิตประจำวัน, เสียงคนพูดแบบ Role Play เสียงดนตรีบรรเพลง, เพลง Lo-Fi, White Noise และสารพัดอย่างที่พร้อมจะกล่อมคนตาค้างให้เข้านอนแบบหลับปุ๋ย ให้หนุ่ม ๆ เลือกเอาตามความชอบได้เลย Ambient Nature (Sleep & Mindfulness) ศิลปิน Sleepy Times, The Sleep Specialist, Natural Sound Makers เสียงธรรมชาติอย่างน้ำไหล คลื่นจาง ๆ ที่ซัดเข้าฝั่ง ฝนโปรย บวกกับเสียงดนตรีเนิบช้าที่เป็น Ambient จาง ๆ
ความฝันเป็นเหมือนภาพสะท้อนจิตใต้สำนึก ความคิดในช่วงเวลานั้นของเราไม่ต่างจากดินแดนพิศวงที่ต่างคนต่างมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน บางคนเห็นเป็นภาพสี บางคนเห็นเป็นขาวดำเลือนราง บางคนเห็นเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ก็คือมุมมองของเราเอง เหมือนเราเห็นเหตุการณ์ด้วยตาของเราเอง แต่บางคนกลับเห็นในมุมมองของบุคคลที่ 3 นั่นหมายความว่าเราจะเห็นตัวเองกำลังดำเนินเรื่องราวนั้นอยู่ เรื่องราวในความฝันนั้นเราอาจจะจำได้แค่บางช่วงบ้าง เป็นเรื่องเป็นราวบ้าง แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าเราใช้เวลาในโลกความจริงไปกับความฝันนานเท่าไหร่กันแน่น UNLOCKMEN จะพามาหาคำตอบนี้กัน ปกติเรามักจะจดจำความฝันของเราได้เป็นฉาก ๆ แม้จะพอคลำทางให้เป็นเนื้อเรื่องเดียวกันได้ แต่ก็ไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก แถมส่วนมากก็ยัง Surreal เสียจนอยากจะเอาไปทำหนัง บางครั้งเป็นเพียงความรู้สึกราง ๆ ที่ไม่ชัดเจนทางการจำภาพ เสียง แต่เราจดจำความรู้สึกนั้นได้แม่นยำ ครั้งไหนที่ฝันเป็นเรื่องเป็นราว เราอาจคิดว่าเราใช้เวลากับมันไปทั้งคืนแน่นอน ฝันเป็นมหากาพย์ขนาดนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เรามีความเครียด ความกังวล หรือเรื่องเล็กน้อยกวนใจที่เราอาจจะลืมไป มันมีโอกาสแสดงออกผ่านทางความฝัน ความฝันเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กับสุขภาพของเราโดยตรง เพราะมันคือการทำงานของสมองในขณะที่ร่างกายของเราหลับไปแล้ว เกิดขึ้นในช่วง REM คือช่วงที่เรากลอกตาไปมาอย่างรวดเร็วในขณะที่ตายังปิดอยู่ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นช่วงสั้น ๆ ตลอดคืน กินเวลาประมาณ 20% ของทั้งคืนที่เราหลับไป เรามักจะคิดว่าเรามีความฝันเพียงเรื่องสองเรื่อง หรือเท่าที่จำได้เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ในคืนนึงที่เราหลับไป เราฝันไม่ต่ำกว่า 12 ครั้ง เพียงแค่เราจำมันไม่ได้ทั้งหมดนั่นเอง (หรือบางคนก็จำไม่ได้เลย)
ชีวิตที่วุ่นวายและทุกอย่างรวดเร็วเสียจนบางครั้งตัวเราเองก็ตามไม่ทัน ทำให้เรามีกิจวัตรประจำวันที่ไม่ค่อยแน่นอน เข้านอน ตื่นนอน รวมทั้งการกิน ก็ไม่ได้มีเวลาตายตัว เพราะทั้งหมดอาจเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แล้วแต่ว่าจะมีอะไรเข้ามาแทรกตอนไหน อย่าปล่อยให้เรื่องเหล่านี้ ที่ควรเป็นเวลาสม่ำเสมอในชีวิต ต้องถูกทำลายด้วยความเคยชินของตัวเอง เพราะมันส่งผลกับสุขภาพของเราโดยตรง หนุ่มคนไหนที่รู้ตัวว่านาฬิกาชีวิตรวนไปหมด UNLOCKMEN ชวนมาปรับนาฬิกาชีวิตกับเทคนิคที่เราอยากแนะนำ เพื่อให้ร่างกายกลับมาทำกิจวัตรเหล่านี้ให้สม่ำเสมอในเวลาที่ควรจะเป็น ก่อนที่จะสาย อย่าลืมว่าร่างกายเราไม่อาจซื้ออะไหล่ได้ หากิจกรรมทำในตอนเช้า ออกไปสัมผัสแสงแดดแรกในตอนเช้า ด้วยการลุกขึ้นมาจากเตียง มาทำ Activity ที่เราเองก็ชื่นชอบและเต็มใจจะทำ ไม่ว่าจะเป็นดื่มกาแฟ ไถนิวส์ฟีด ตื่นมาออกกำลังกาย ตื่นมาฟังเพลง ตื่นมาใช้เวลาเสริมหล่อให้กับตัวเอง จะเป็นอะไรก็ช่าง ลองเลือกมาหนึ่งอย่างที่มันมีแรงผลักดันมากพอให้เราลุกขึ้นมาจากเตียงได้แบบไม่อิดออดและกำหนดเวลาตื่นแบบเผื่อเวลาก่อนไปทำงาน นั่นหมายความว่า เราจะตื่นมาแบบสดชื่น เพราะรู้ว่าตัวเองจะได้มาทำในสิ่งที่ชอบ และยังมีเวลาเหลือ ๆ ก่อนไปทำงาน ไม่ต้องวิ่งหน้าตั้งเข้าออฟฟิศอย่างเคยแล้ว พอเราทำเป็นกิจวัตร นาฬิกาชีวิตเข้าที่เข้าทาง เราอาจจะเลิกใช้นาฬิกาปลุกไปเลยก็ได้ งีบสักหน่อยในตอนบ่าย คล้อยบ่ายทีไร ง่วงจนอยากจะหาอะไรมาถ่างตาเอาไว้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกินข้าวจนอิ่ม หนังท้องตึงหนังตาหย่อน หรือเพราะร่างกายเราต้องการจะชาร์จพลังกันแน่ แต่การงีบหลับสัก 10-15 นาที เป็นการรีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดชื่นอีกครั้งในตอนบ่ายได้จริง ๆ และไม่ทำให้ง่วงสะสมไปจนถึงตอนหัวค่ำ ที่พอถึงห้องแล้วพาลให้อยากล้มตัวลงนอน จนบางวันไปตื่นเอาตอนดึก
ตกกลางคืนทีไร แทนที่ร่างกายจะได้จมดิ่งลงห้วงแห่งการนอน แต่กลับมีเรื่องราวให้นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะข้างห้องกินเหล้า รอดูบอลทีมรัก งานที่ตามหลอกหลอนถึงที่บ้าน หรือแม้แต่นอนไม่หลับเองก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การนอนไม่หลับหรือไม่มีเวลานอน มันช่างบั่นทอนสุขภาพและอารมณ์สำหรับวันต่อไป แต่เมื่อปัจจัยมันบังคับ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 ขั้นตอนเจ๋ง ๆ หาทางลงให้กับคนนอนน้อย แต่อย่างน้อยก็ได้นอนแบบมีคุณภาพ มาดูกันว่าจะนอนยังไงให้มีคุณภาพในเวลาอันน้อยนิดกันเถอะ นอนไม่หลับ ไม่หลับไม่นอน ร่างกายของเราจะเคยชินกับเวลานอนประจำของเรา มันจำได้ เชื่อเถอะ ลองนึกถึงเวลาที่เราง่วงเป็นประจำ แม้จะไม่ได้อยู่บนที่นอนก็ตาม นั่นแหละคือเวลาประจำของเรา และอีกอย่างที่ทำให้ร่างกายเราเตือนให้เราง่วง คือชั่วโมงที่เราตื่น เราอาจจะมีเวลาตื่นที่ไม่เท่ากันในแต่ละวัน แต่จำนวนชั่วโมงที่ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตจะใกล้เคียงกันเสมอ เพราะร่างกายง่วงเมื่อไหร่ แสดงว่าหมดเวลาตื่นของเราแล้วไงล่ะ เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็ต้องชดเชยเวลานอนให้กับตัวเอง ด้วย 3 วิธีด้วยกัน หลับใน ร่างกายอยากงีบหลับแบบสั้น ๆ อาจจะเป็นความง่วงในช่วงบ่าย ง่วง/อยากเข้านอนไวขึ้น เรื่องการนอนไม่หลับ นอนน้อย สารพัดปัญหาการนอน คุณไม่ได้เป็นคนเดียวบนโลกนี้หรอก ผู้คนทั่วโลกต่างตระหนักถึงปัญหานี้กันทั้งนั้น ทางแก้มันไม่ใช่การนอนคิด นอนกังวลกับปัญหาเหล่านั้น ทางออกของเรื่องนี้มีสารพัดวิธีที่เราเคยเขียนให้ชาว UNLOCKMEN อ่านกันไปบ้างแล้ว ทางออกของเรื่องการนอนน้อย และการนอนไม่เป็นเวลานี้ ทางออกแบบง่าย