World

NIHON STORIES: HATTORI HANZO ยอดนินจาที่ถูกขนานนามว่า “ปีศาจสีดำ”

By: unlockmen July 1, 2020

ฮัตโตริ ฮันโซ (Hattori Hanzo) ถูกพบในบันทึกทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นว่ามีตัวตนจริงในอดีต บ้างก็มาในรูปแบบตำนานเล่าขานที่ถูกส่งต่อกันแบบปากต่อปาก เอื้อนเอ่ยถึงความเก่งกาจยากจะหาใครเทียบได้ของเขา เพราะชายคนนี้เชี่ยวชาญเรื่องการเคลื่อนไหวในที่มืด รวดเร็วดั่งสายลม และถูกบรรจุชื่ออยู่ในกลุ่มขุนนางคนสำคัญของ อิเอยาสึ โทกุงาวะ (Ieyasu Tokugawa) โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ในยุคสมัยเลื่องชื่ออย่าง “เซนโงกุ”

ประวัติการเกิดของเขาไม่แน่นอนนัก ว่ากันว่าก่อนจะใช้ชื่อฮัตโตริ ฮันโซ เขามีชื่อจริง ๆ ว่า ฮัตโตริ มาซานะริ (Hattori Masanari) เกิดในปี 1542 เป็นบุตรชายของตระกูลหัวหน้ากลุ่มนินจาอิงะในเมืองอิงะ (Iga) ในจังหวัดมิเอะ (Mie) ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชื่อดังของญี่ปุ่น เมื่อหลายร้อยปีก่อนอิงะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกฝนเหล่านินจา ทำให้เขาเชี่ยวชาญศาสตร์การป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็ก

เด็กชายฮันโซสามารถชนะการประลองข้างถนนเมื่ออายุได้ 8 ขวบ ด้วยการใช้หอกยาว 4 เมตร ที่เด็กตัวเล็ก ๆ ไม่น่าจะควบคุมทิศทางของอาวุธได้ อย่างไรก็ตามเรื่องราวในวัยเด็กของเขายังไม่เคยได้รับการยืนยันแน่ชัด จากนั้นเข้าร่วมกองทัพของฝั่งโทกุงาวะตั้งแต่อายุ 16 ปี เนื่องด้วยบิดาของเขาเป็นขุนนางของปู่ของโชกุนอิเอยาสึ โทกุงาวะ เขาจึงได้รับราชการอย่างง่ายดาย

ความสามารถอันโดดเด่นทำให้ฮันโซได้เลื่อนตำแหน่งในเวลารวดเร็ว มีบันทึกระบุว่าเราแทบจะหาข้อบกพร่องของชายคนนี้ไม่ได้เลย เขาเชี่ยวชาญทั้งการใช้ทวน เป็นนักวางแผนกลยุทธ์ให้กองทัพได้ เคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนเหมือนกับเขาสามารถหายตัวได้ชั่วขณะหนึ่ง นอกจากนี้เมื่ออายุได้ 20 ปี ฮันโซกับกลุ่มนินจาคนสนิทของเขาสามารถลอบเข้าไปยังปราสาทคามิโนโกะเพื่อลอบนำบุตรสาวของโชกุนอิเอยาสึที่ถูกจับตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

เรื่องเล่าของเขามีมากมายแถมบางครั้งก็แสนจะเหลือเชื่อ มีคนเคยได้ยินว่าฮันโซสามารถยืนบนพัดที่คนถืออยู่ได้เพราะเขาใช้วิชาตัวเบา บ้างก็บอกว่าเขาสามารถหายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในเวลาอันรวดเร็ว มีตำนานที่เวอร์ขึ้นไปอีกคือการพิสูจน์ความสามารถต่อหน้าโชกุนโทกุงาวะผู้ยิ่งใหญ่ โชกุนลากคอของนินจาหนุ่มมาอยู่ตรงหน้าแม่น้ำลึก ถามเขาว่านินจาอยู่ในน้ำได้นานแค่ไหน ฮันโซตอบกลับโชกุนไปว่า “นานเท่าที่ท่านต้องการ” จากนั้นสูดหายใจลึกแล้วดำลงน้ำหายไปหลายชั่วโมง

แท้จริงแล้วนินจาไม่ได้มีพลังเหนือมนุษย์ดั่งซูเปอร์ฮีโร่ ทว่าชาญฉลาดและมากด้วยไหวพริบ ฮันโซได้เฉลยถึงเหตุผลที่เขาสามารถดำน้ำได้เป็นชั่วโมงเนื่องจากเขาแอบดำน้ำแล้วว่ายไปให้ไกล ว่ายไปให้พ้นสายตาของโชกุน จากนั้นขึ้นจากน้ำแล้วซ่อนตัวรอให้ทหารและโชกุนแตกตื่นว่าเขาสามารถอยู่ในนานได้นานมาก ๆ แล้วค่อยลอบลงน้ำว่ายกลับมาโผล่ที่เดิม

ส่วนการไปไหนมาไหนได้ตามใจก็เกิดจากการที่พวกเขาฝึกหนักจนสามารถเดินโดยลงน้ำหนักที่ปลายเท้า เงียบจนแทบไม่มีเสียง คนจึงเอาไปเล่าต่อ ๆ ว่านินจาหายตัวได้ แถมนินจาส่วนใหญ่จะเป็นคนตัวเล็ก รูปร่างผอม มีน้ำหนักไม่มากเพราะต้องลอบเข้าไปในที่ต่าง ๆ เวลาเดียวกันก็ต้องซ่อนตัวบนฝ้า ในพุ่มไม้ ห้อยโหนด้วยเชือก วิ่งไปมาบนหลังคา ทำให้พวกเขาจะไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามแบบในจินตนาการ แถมยังเป็นกลุ่มคนเจ้าสำอางที่ระมัดระวังเรื่องกลิ่นตัวอยู่เสมอ (หากตัวเหม็นหรือมีกลิ่นตัวแรงคงไม่สามารถลอบเข้าไปในที่ต่าง ๆ แล้วไม่โดนจับได้เป็นแน่)

หากจะให้เทียบฮันโซกับนินจาคนอื่น ๆ เขาคงเป็นชายที่มีความสามารถมากกว่าคนอื่น ๆ ในยุคเดียวกัน กล้าได้กล้าเสีย กล้าแสดงออกและทำงานที่ได้รับอย่างทุ่มเท จึงทำให้เขาได้ถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ ฮัตโตริอยู่กับการสู้รบมาแทบทั้งชีวิต บ้างก็เป็นแนวหน้า บางครั้งก็ลอบเข้าไปสืบข้อมูลของศัตรูแบบงานของสายลับในปัจจุบัน แถมเขาผิดแปลกไปจากนินจาคนอื่น ๆ เพราะนินจาส่วนใหญ่มักนิยมทำงานในเงามืด ไม่ปรากฏตัวออกมาให้เป็นที่รู้จักมากนัก

หลายคนมองว่าฮันโซเป็นนักรบมากกว่าเป็นนินจา แต่เขาก็ถูกเรียกว่านินจาไปตลอดชีวิต เป็นยอดนักรบเงาที่ได้รับฉายาว่าปีศาจสีดำ อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งมีข่าวว่าลูกชายคนโตของโชกุนอิเอยาสึเป็นกบฏสมคบคิดกับศัตรูคู่แค้นตลอดกาลของบิดาอย่าง โอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga)

โชกุนตัดสินใจสั่งให้ฮันโซตัดหัวลูกคนโตที่จะต้องทำการอัตวินิบาตกรรมด้วยการเซมปุกุ (หรือที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ ฮาราคีรี) แต่ฮันโซกับนั่งคุกเข่าอยู่กับที่และหลั่งตาออกมา กล่าวกับโชกุนว่าเขาไม่สามารถทำลายเลือดเนื้อของโชกุนอิเอยาสึผู้ยิ่งใหญ่ที่เขาจะรับใช้สืบไปได้ลง ทำให้โชกุนประทับใจมากจนเอ่ยปากว่า “แม้แต่ปีศาจอย่างเจ้าก็มีหัวใจ”

การรบหลายครั้งสร้างรายได้จำนวนมากแก่ฮันโซ โชกุนโปรดปรานจนมอบเงินทองให้เขาไว้ใช้มากมาย ส่วนช่วงบั้นปลายของชีวิตเขาละทิ้งสงครามแสนวุ่นวาย หันเข้าสู่ความสงบด้วยการไปบวชเป็นพระนามว่าไซเน็น (Sainen) หลังจากนั้นไม่นาน ฮัตโตริ ฮันโซ จากโลกนี้ไปด้วยวัย 55 ปี (ค.ศ. 1596) ส่วนลูกชายของเขาใช้ชื่อเดียวกับเขา เป็น ฮันโตริ ฮันโซ มาซานาริ ทว่าเขากลับเป็นเด็กชายที่ไม่เอาไหน ต่างจากบิดาที่เข้าสู่สงครามหลายสมรภูมิและมีความสามารถสูงจนเป็นที่ยอมรับของโชกุน

ตระกูลฮัตโตริหลังการจากไปของยอดนินจาตกต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะขาดซ้อม หละหลวมอยู่กับกองเงินมหาศาลที่ฮันโซทิ้งไว้ ว่ากันว่ามีคนในตระกูลหลายคนหันไปเป็นซามูไรแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และหากเป็นเช่นนั้นจริง ถือว่าโชคดีมากที่นินจาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่นไม่ได้อยู่เห็นภาพที่น่าบาดใจเช่นนี้

เรื่องราวของเขาถูกคนรุ่นหลังค้นพบและให้การยกย่องว่าเป็นนินจาที่เก่งกาจ ชื่อของเขาปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมกระแสหลักอยู่บ่อยครั้งทั้งการ์ตูนเรื่อง นินจาฮาโตริ (Ninja Hattori-kun) ถูกเอ่ยชื่อถึงบ่อย ๆ ในเกมซามูไรและเกมต่อสู้ที่มีตัวละครเป็นนินจา หรือในเกม Overwatch ก็มีตัวละครชื่อฮันโซ รวมถึงช่างตีดาบสุดแกร่งคุณภาพสูง ฮัตโตริ ฮันโซ ในเรื่อง Kill Bill: Vol.1 (2003) แม้ในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจะมีนินจาใช้ชื่อว่า ฮัตโตริ ฮันโซ ไม่ต่ำกว่า 15 คน ทว่าเรื่องราวของฮันโซคนนี้ก็โดดเด่นที่สุดอยู่ดี

SOURCE: 1 / 2 / 3
SOURCE PHOTO: 1 / 2 / 3 / 4 / 5

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line