Life

NIHON STORIES: “IKEE RIKAKO” ดาวรุ่งปาฏิหาริย์ผู้เอาชนะโรคร้าย ก้าวสู่โตเกียวโอลิมปิกอย่างภาคภูมิ

By: TOIISAN April 22, 2021

แม้ญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยดินแดนแห่งโอกาส แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะโดดเด่นและเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศได้ในเวลาไม่นาน

หลายปีที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการดูกีฬาหรืออ่านหนังสือพิมพ์กีฬาอยู่บ่อย ๆ จะต้องเคยได้ยินหรือได้เห็นชื่อของ อิเคเอะ ริคาโกะ (Ikee Rikako) อยู่เสมอ ชื่อของนักว่ายน้ำดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี เธอสามารถพาตัวเองไต่ทะยานไปตามเส้นทางนักกีฬา ควบคู่กับการพาธงชาติญี่ปุ่นไปให้โลกได้รู้จัก ในฐานะประเทศที่มีนักว่ายน้ำหญิงอายุน้อยที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์อันแสนน่าจับตามอง

เส้นทางชีวิตของริคาโกะถูกชาวญี่ปุ่นยกย่องชื่นชม หลายปีก่อน คนใกล้ชิดต่างแนะนำให้เธอลงชื่อเป็นหนึ่งในตัวแทนคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เพราะอยากให้เป็นตัวแทนแข่งขันในปีที่บ้านเกิดของตัวเองเป็นเจ้าภาพ สื่อและนักวิจารณ์ในญี่ปุ่นต่างมั่นใจว่าดาวรุ่งคนนี้จะต้องได้สิทธิเข้าแข่งมาอย่างไม่ยากเย็น

ทว่าชีวิตของนักกีฬาหญิงคนนี้กลับต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเธอไปตรวจร่างกายแล้วพบว่าตัวเองกำลังเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ ‘ลูคีเมีย’
โรคร้ายส่งผลให้เส้นทางชีวิตอันรุ่งโรจน์ของ อิเคเอะ ริคาโกะ หยุดชะงักกลางคัน ฝันที่วางไว้อาจไม่มีวันเป็นจริงอีกต่อไป


คนไทยที่ไม่ได้ตามข่าววงการว่ายน้ำอาจไม่รู้ว่า อิเคเอะ ริคาโกะ ประสบความสำเร็จมากถึงขั้นไหน เธอหัดว่ายน้ำก่อนจะเรียนรู้ตัวอักษรคันจิเสียอีก

เด็กสาวชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ และไม่ใช่แค่การว่ายเล่นเอาสนุก เธอหมั่นฝึกฝนอย่างหนักเป็นประจำ ข้อได้เปรียบใหญ่ที่ทำให้เธอโดดเด่นกว่านักกีฬาว่ายน้ำคนอื่น ๆ คือ ริคาโกะพบความฝันของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 13 ปี และคว้าแชมป์ระดับประเทศในประเภทที่ตัวเองแข่งขัน ถือเป็นใบเบิกทางให้เธอติดหนึ่งในเยาวชนทีมชาติ

เธอเป็นเด็กสาวที่มีความสามารถ เปี่ยมด้วยความมั่นใจ และขยันทำลายสถิติการว่ายน้ำท่าต่าง ๆ อยู่เสมอ แม้จะเต็มไปด้วยพรสวรรค์ที่มาคู่กับความพยายาม แต่คนที่เพอร์เฟกต์ที่สุดย่อมต้องเคยพบกับความผิดหวัง ในการแข่งขันโอลิมปิก 2016 ริคาโกะคว้าอันดับ 6 จากการแข่งขันในท่าผีเสื้อ 100 เมตร การชวดเหรียญโอลิมปิกทำให้เธอเริ่มกลับมามองตัวเองใหม่ เพื่อหาว่าตัวเองมีข้อบกพร่องตรงจุดไหนบ้าง

หลังหายหน้าหายตาไปพักหนึ่ง เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ก่อนจะเข้าแข่งขันแพนแปซิฟิก ในปี 2018 เฉือนชนะประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ก่อนถูกเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมประจำปี 2018 ซึ่งในปีนั้นจัดที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นการแข่งที่ริคาโกะคงจะไม่มีวันลืม เพราะเธอได้สร้างตำนานครั้งใหญ่ไว้ในการแข่งขันนี้

กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 18 ริคาโกะสามารถคว้า 6 เหรียญทอง และ 2 เหรียญเงิน กลับบ้านอย่างภาคภูมิ ทำสถิติใหม่เป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ได้รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม เมื่อกลับมายังบ้านเกิด เธอได้รับรางวัลนักว่ายน้ำยอดเยี่ยมประจำปี 2018 ไปครองเช่นกัน การพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดในสายอาชีพใช้เวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น

ตัวของริคาโกะเองมีความฝันมากมายที่อยากทำให้ได้ ทั้งการทำลายสถิติโลกที่เธอจะต้องแซงเพียงแค่ 1 วินาที การตั้งเป้าคว้าเหรียญทองในงานโตเกียวโอลิมปิกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จนกระทั่งพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายที่อาจทำให้คนที่ชื่นชอบการว่ายน้ำมากที่สุด ไม่อาจว่ายน้ำได้ตลอดไปก็เป็นได้


ช่วงต้นปี 2019 ระหว่างเตรียมตัวแข่งขันว่ายน้ำในประเทศออสเตรเลีย เธอรู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่ค่อยปกติ จึงขอกลับไปยังญี่ปุ่นเพื่อรับการตรวจอย่างจริงจัง เป็นเรื่องปกติของนักกีฬาระดับประเทศที่เมื่อไหร่คิดว่าร่างกายตัวเองไม่เหมือนเดิม พวกเขาจะรีบไปตรวจหาสาเหตุทันที เพราะสิ่งสำคัญของนักกีฬาคือร่างกายที่มีความพร้อมอยู่เสมอ

หลังเข้ารับการตรวจร่างกาย ริคาโกะ วัย 18 ปี ทราบข่าวร้ายครั้งใหญ่ในชีวิตว่ากำลังป่วยเป็นลูคีเมีย จำต้องเตรียมตัวเพื่อเข้ารักษาตัวโดยเร็วที่สุด ความฝันมากมายที่เคยวาดไว้กลับต้องพับเก็บ จากการเดินทางไปยังสระว่ายน้ำแปรเปลี่ยนเป็นแวะเวียนมาโรงพยาบาลแทน

‘ลูคีเมีย’ เมื่อได้ยินต่างก็ต้องคิดว่าเป็นโรคร้ายที่รอความตายอย่างเดียว โดยเฉพาะสื่อภาพยนตร์จำนวนมากที่มักพาตัวละครที่ป่วยเป็นลูคีเมียไปพบกับจุดจบก่อนวัยอันควร ทว่าหากตรวจพบในระยะต้นแล้วเข้ารับการรักษาทันท่วงทีแบบถูกวิธี มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง

ริคาโกะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน เธอรู้สึกเบื่อที่ต้องนั่งเหงา ๆ อยู่บนเตียง เฝ้ามองความเป็นไปผ่านหน้าต่างในห้องแคบ ๆ น้ำหนักของเธอเริ่มลดลงกว่า 15 กิโลกรัม ความเบื่อกับความเครียดที่อาจทำให้เธอเข้าใกล้โรคซึมเศร้า คนใกล้ตัวจึงแนะนำให้เธอเริ่มหาอะไรทำ

ริคาโกะจึงเปิดเว็บไซต์ rikako- ikee.jp เล่าถึงการดูแลรักษาตัวเมื่อป่วยเป็นลูคีเมีย คล้ายบันทึกส่วนตัวแต่เปิดเป็นสาธารณะเพื่อร่วมแบ่งปันสิ่งที่เจอ เรื่องราวของเธอบางครั้งก็น่าสงสาร บางครั้งก็ชวนโศกเศร้า แต่เมื่ออ่านดี ๆ จะพบว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโรคร้ายหรือโชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิต

นักกีฬาดาวรุ่งที่ต้องพักรักษาตัวนานปีกว่าไม่เคยถูกลืมจากสังคมญี่ปุ่น เธอได้รับกำลังใจมากมายจากคุณลุงคุณป้า จากแฟนคลับวัยเรียน ผู้คนต่างบอกว่าอยากจะเห็นเธออีกครั้งในสระว่ายน้ำ โดยเฉพาะการที่เธอจะกลับมาพร้อมกับธงชาติญี่ปุ่นที่อยู่บนอก

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเลิกคาดหวังให้เธอเข้าแข่งขันในโตเกียวโอลิมปิก เพราะการขาดซ้อมมานาน รวมถึงร่างกายที่อยู่ในช่วงป่วย คงไม่มีทางสู้นักกีฬาคนอื่นๆ ที่ฝึกซ้อมอยู่ทุกวันได้แน่ แม้ความฝันในการเป็นส่วนหนึ่งของโตเกียวโอลิมปิก จะเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของริคาโกะก็ตาม


ในการแข่งขันรอบคัดเลือกไปโอลิมปิก ณ ศูนย์กีฬาทางน้ำ กรุงโตเกียว ริคาโกะที่เพิ่งเร่งออกกำลังกายขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การรักษาดีขึ้น ตัดสินใจลงคัดเลือกประเภทเดี่ยว 100 เมตร ก่อนทำเวลาไปได้ 57.77 วินาที

ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้เป็นตัวแทนโอลิมปิกประเภทเดี่ยว แต่เธอมีโอกาสแข่งประเภทว่ายผลัด 4×100 เมตร ทันทีที่รู้ผลว่าได้เป็นตัวแทนโอลิมปิก ริคาโกะถึงกับร้องไห้ด้วยความตื่นตัน โดยไม่รู้ว่าตัวเองได้สร้างความตกตะลึงให้กับชาวญี่ปุ่นอีกครั้ง เนื่องจากนักกีฬาที่ไม่ได้ซ้อมทุกวัน ซ้ำยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน กลับออกมาแข่งขันแล้วได้เป็นตัวแทนโอลิมปิก พรสวรรค์ของเธอยังคงอยู่ไม่มีวันหายไปไหน

“ตอนนั้น (ช่วงที่เพิ่งรู้ตัวว่าป่วย) ฉันขาดความมั่นใจ เคยคิดอยากตาย คิดว่าชัยชนะเป็นสิ่งที่ไกลตัวออกไปเรื่อย ๆ มันเจ็บปวดสาหัส แต่ฉันก็พยายามอย่างมาก พยายามจริง ๆ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะรู้สึกแย่กับตัวเองหรือไม่มั่นใจในตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าคุณยังพยายาม คุณจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน”

โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ทราบเรื่องราวการต่อสู้กับโรคร้ายของริคาโกะ เขาส่งสารแสดงความยินดีกับเธอทางทวิตเตอร์ขององค์กร เนื่องจากผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่น ประเภทว่ายผลัด 4×100 เมตร ใจความสำคัญว่า

“ขอแสดงความยินดีกับ อิเคโกะ ริคาโกะ นักกีฬาโอลิมปิกที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ซ้ำยังสามารถคว้าโควตาร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์แม้จะเจ็บปวดจากโรคลูคีเมีย ผมเฝ้ารอที่จะได้พบเธอที่โตเกียวในช่วงกลางปี 2021”

ส่วนนักกีฬาสาวที่เอาชนะลูคีเมียและความไม่มั่นใจของตัวเอง กล่าวถึงการหวนกลับสู่วงการกีฬาอันแสนน่าประทับใจครั้งนี้สั้น ๆ ก่อนเตรียมฝึกหนักเพื่อรับมือกับนักว่ายน้ำจากหลายประเทศที่พร้อมชิงชัยเหรียญทองร่วมกับเธอว่า

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line