Business

NIHON STORIES: หนุ่มหัวใสเปิดบริการ ‘ปล่อยเช่าตัวเอง’ ที่มีงานหลักคือการไม่ทำอะไรเลย

By: TOIISAN February 20, 2021

เคยเหงาจนลองคิดว่าจะจ้างคนแปลกหน้าให้มานั่งเฉยๆ อยู่ข้างๆ บ้างไหม? ถ้าไม่ แสดงว่าคุณอาจยังรู้สึกสบายใจกับการแบ่งปันเรื่องราวกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรัก แต่มีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่สบายใจจะเล่าบางเรื่องให้คนรู้จักฟัง ‘ธุรกิจเช่าคน’ ที่คิดว่าไม่ทำได้จึงได้รับความนิยมมากในแดนอาทิตย์อุทัย

โมริโมโตะ โชจิ (Morimoto Shoji) ชายหนุ่มธรรมดาที่มีอะไรไม่แปลกแตกต่างไปจากชาวโตเกียวคนอื่น ทว่าตอนนี้กลายเป็นคนที่มีเรื่องเล่าไม่ธรรมดาเสียอย่างนั้น ชายวัย 37 ปี จบการศึกษาด้านฟิสิกส์ในระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยโอซาก้า ทำงานด้านสื่อสารมวลชน และเคยเป็นบรรณาธิการให้กับสำนักพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการเรียนการสอน โปรไฟล์ชีวิตของโชจิถือว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม ที่ลองถามเพื่อนเขาคนไหนก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเบนเข็มมาไกลได้ถึงขนาดนี้

หลังเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานได้ไม่นาน โชจิเกิดความรู้สึกเบื่อกับความจำเจของการทำงานเดิม ๆ อยากมีเวลาว่างให้พักหายใจมากขึ้น อยากลองทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน เขานั่งใคร่ครวญแล้วพบว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นหรือเก่งมากกว่าใครเลย แต่เรียนจบปริญญาโทเพราะสังคมที่เขาอยู่พากันเรียนต่อ เขาจึงเรียนต่อเหมือนกับเพื่อนในวงสังคม พานคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับอะไรสักอย่าง และสิ่งที่ใช่ที่สุดอาจหมายถึงการอยู่เฉย ๆ ก็ได้นั่งครุ่นคิดกับตัวเองอยู่พักใหญ่ว่างานแบบไหนที่จะตอบทุกโจทย์ที่ตั้งไว้

สุดท้ายโชจิลองโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียเมื่อเดือนมิถุนายน 2018 เสนอใครก็ตามที่เลื่อนฟีดมาเห็นว่าสามารถจ้างเขาให้อยู่เฉย ๆ เป็นเพื่อนได้ สำหรับใครที่เหงาหรือต้องการใครสักคนให้จ้างเขาได้เลย

ใครจะคิดว่าการโพสต์ข้อความแบบไม่จริงจังนักทำนองจ้างผมทำงานได้ จ้างผมอยู่เป็นเพื่อนได้ หรือจ้างเราไว้รับฟังเรื่องปวดหัวของคุณสิ จะมีคนให้ความสนใจมากกว่าที่คิด รายการคำสั่งที่เขาได้รับมีทั้งนัดเจอเพื่อพูดคุย (หรือถ้าพูดกันตรง ๆ คือจ้างให้ไปนั่งฟังคนอื่นระบายปัญหาชีวิต) จ้างไปกินข้าวกลางวันเป็นเพื่อน จ้างไปนั่งดื่มเบียร์เย็น ๆ แก้วโต หรือจิบสาเกเคล้าเนื้อย่างในร้าน อิซากายะ นั่งชมดอกซากุระด้วยกัน หรือไปเดินเป็นเพื่อนผู้ว่าจ้างในเวลาที่ต้องจูงหมาเดินเล่นในสวน

ตอนแรกโชจิคิดว่าเขาสามารถทำงานทั้งหมดให้กับผู้ว่าจ้างแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ เนื่องจากงานส่วนใหญ่เป็นงานกินข้าว เขาก็ได้กินฟรีอยู่แล้ว เรื่องค่าเดินทางก็ให้ผู้ว่าจ้างออกให้ ทว่าคนในโลกโซเชียลที่สนใจจ้างกลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เขาเริ่มมองสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่เป็นอาชีพที่จริงจังขึ้นกว่าเดิมด้วยการตั้งราคาค่าบริการครั้งละ 10,000 เยน (ราว 3,000 บาท) ที่ผู้ว่างจ้างจะต้องจ่ายแยกไม่รวมกับค่าข้าวค่าเครื่องดื่ม ค่าเดินทาง และค่าที่พักหากต้องค้างคืนหรือไปต่างเมือง

 

 

การเจรจาตกลงร่วมแลกเปลี่ยนผลประโยชน์จากผู้จ้างวานกับผู้ให้บริการไม่มีขั้นตอนอะไรมากมาย แค่แจกแจงว่าโชจิจะต้องทำอะไรบ้าง หากเป็นการจ้างกินข้าวนั่งฟังปัญหาชีวิต ตอบรับแค่ว่า “ครับ” “อย่างนั้นเหรอครับ” “นั่นสินะครับ” เขาจะนั่งฟังด้วยท่าทางสุภาพ ไม่แสดงความคิดเห็นจนกว่าจะถูกถาม และความเห็นส่วนใหญ่ของเขาที่ตอบกลับไปมักเป็นเชิงบวก แต่ก็ไม่อวยจนน่าเกลียด เพราะคงไม่มีใครอยากจ้างคนมานั่งฟังเรื่องปวดหัวแล้วเถียงเราให้ปวดหัวขึ้นกว่าเก่าอยู่แล้ว

งานที่ฟังดูไร้สาระกลับสร้างรายได้จำนวนมากให้กับโมริโมโตะ โชจิ เขาเล่าว่าเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งจ้างเขามากกว่า 10 ครั้ง เพื่อนั่งฟังปัญหาต่าง ๆ บางครั้งก็ให้ไปอยู่เป็นเพื่อนระหว่างเธอนัดบอดกับผู้ชายอีกคน เนื่องจากหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจ หลายเรื่องเธอไม่สะดวกใจที่จะเล่าให้ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรู้จักฟัง ทว่าเก็บไว้คนเดียวก็รู้สึกทุกข์ การหาใครสักคนที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์รู้จักมักจี่กันมาก่อน เพื่อให้เขาหรือเธอนั่งฟังปัญหาหนักในใจ ก็ถือเป็นทางเลือกที่หลายคนยอมทุ่มเงินเพื่อได้มา

บางวันมีคนจ้างเขามากกว่าสี่คน สามปีมีลูกค้ากว่าสามพันคน การเช่าโชจิหนึ่งครั้งมักมีเวลาเฉลี่ยที่ 2-3 ชั่วโมง ตอนเช้าเขาอาจไปเดินเล่นกับผู้หญิงคนหนึ่งในดิสนีย์แลนด์ พอบ่ายเดินทางไปศาลกับผู้หญิงที่ฟ้องหย่าสามีและต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ตกเย็นก็เหินฟ้านั่งเฮลิคอปเตอร์ชมเมืองกับนักธุรกิจหนุ่ม ส่วนช่วงค่ำถูกจ้างให้ไปนั่งอยู่เคียงค้างกับผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เพิ่งถูกช่วยจากการพยายามฆ่าตัวตาย

โชจิทำงานแนวนี้มาเกือบ 3 ปี หน้าที่ส่วนใหญ่คือการอยู่เฉย ๆ ยืนดูเฉย ๆ นั่งอยู่ข้าง ๆ แบบเงียบเชียบ ทว่ากลับทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ชื่อเสียงของเขาเริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ทวิตเตอร์ของเขามีผู้ติดตามราว 270,000 คน เริ่มมีสื่อเล็กใหญ่ให้ความสนใจจนนัดสัมภาษณ์ คำถามก็ไม่แตกต่างกันมากว่าทำไมถึงคิดทำงานแบบนี้ มีรายได้เท่าไหร่ การจ้างที่ชอบที่สุดคืออะไร ลามไปถึงการถูกเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ญี่ปุ่น หนักสุดคือเรื่องราวของเขากลายเป็นแรงบันดาลใจในละครเรื่อง ‘Rent-a-Person Who Does Nothing’

ในญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่โชจิเท่านั้นที่เปิดบริการเช่าตัวเอง เราจะเป็นว่างานบริการของญี่ปุ่นเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีทั้งโฮสต์หนุ่มหน้าตาดี มีเด็กนั่งดริ๊งตามคาเฟ่ มี สาว JK ที่เราเคยเล่าไปแล้ว ใน ‘JK BUSINESS ธุรกิจสีเท่าของเหล่าเด็กสาวมัธยมปลาย’ การรับจ้างกินข้าวนอกรอบ แต่การเริ่มต้นของโชจิที่เกิดจากความต้องการรับงานแบบฟรีๆ ดึงดูดให้ผู้คนสนใจในตัวของเขา

 

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line