Entertainment

NIHON STORIES: “ONE OK ROCK” หนึ่งในตำนานบทใหม่ของวงการ J-ROCK

By: TOIISAN September 21, 2020

หลายครั้งหลายหนที่มักได้ยินวลีที่ว่า “ดนตรีคือภาษาสากล” ด้วยท่วงทำนอง จังหวะการเข้ากันของดนตรีหลากชนิด อารมณ์เพลง ทุก ๆ อย่างมักทำให้คนที่พูดต่างภาษาหรือต่างเชื้อชาติสามารถฟังแล้วรู้สึกมีความสุขหรือทุกข์ระทมได้ไม่ยาก แม้บางครั้งไม่รู้ความหมายของเพลงเหล่านั้นเลยก็ตาม

วัฒนธรรม ‘เจร็อก’ หรือ Japanese Rock เป็นอีกหนึ่งแนวดนตรีจากญี่ปุ่นที่สามารถครองใจผู้ฟังได้ทั่วโลก แม้เจร็อกแรกเริ่มรับวัฒนธรรมดนตรีร็อกมาจากฝั่งอังกฤษและอเมริกา พวกเขาไม่ได้ลอกมาทั้งหมด แต่ปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง ทุกอย่างที่สื่อออกมาผ่านเพลง แฟชั่นบนเวที การแสดงโชว์น่าประทับใจ ล้วนเป็นตัวของตัวเองจนทำให้เจป๊อปโด่งดังไปทั่วโลกได้ง่าย ๆ เพราะคนรุ่นก่อนยังไงก็ต้องเคยได้ยินชื่อของ L’arc en Ciel (ลาร์ค ออง เซียล) X-Japan (เอกซ์เจแปน) รวมถึงวงร็อกรุ่นใหม่อย่าง One Ok Rock (วัน โอเค ร็อก หรือ วันโอคุ ตามการเรียกของชาวญี่ปุ่น)

ช่วงเวลาหนึ่งเจร็อกกลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสนใจในแนวเพลงของผู้คนก็เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา กระแสของเจร็อกเริ่มซา พร้อมกับถูกแทนที่ด้วยเจป๊อปที่ส่งให้วงไอดอลทั้งชายและหญิงเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่กระแสป๊อปกำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลังก็เกิดวงร็อก One Ok Rock ในปี 2005 ที่คงไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีให้กับโลกได้ขนาดนี้

ก่อนมารวมตัวกันจริงจังพร้อมมีต้นสังกัดในปี 2007 พวกเขาเคยทำเพลงเองโดยไม่มีค่ายเพลง ไม่มีการตลาด ทำเองขายเองได้แค่ 200 แผ่น แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อเส้นทางชาวร็อก โดยสมาชิกแรกเริ่มมี ยามาชิตะ โทรุ (Yamashita Toru) ควบตำแหน่งหัวหน้าวงและมือกีตาร์ โมริอุจิ ทากาฮิโระ (Moriuchi Takahiro) นักร้องนำ โคฮามะ เรียวตะ (Kohama Ryota) มือเบส โคยานางิ ยู (Koyanagi Yu) มือกลอง และ โอนิซาวะ อเล็กซานเดอร์ เรมอน (Onizawa Alexander Reimon) มือกีตาร์

ยอดขายเปิดตัวซิงเกิลอัลบั้มแรกของวงมีชื่อว่า ‘Zeitakubyo’ เพลงร็อกจัดจ้านจังหวะหนักหน่วง ที่มียอดขายแรกเริ่ม 15,000 แผ่น ขายได้เรื่อย ๆ จนถึง 30,799 แผ่น ติด 1 ใน 50 เพลงยอดนิยมของออริกอนชาร์ตได้ แม้ยอดขายอัลบั้มของพวกเขาจะเทียบไม่ได้กับยอดขายของวงไอดอลเพลงป๊อป แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นไม่มีสิทธิได้ไปต่อ จนกระทั่งปีถัดมาโคยานางิ ยู มือกลองของวง ตัดสินใจออกจากวงเพื่อเดินหน้าต่อในสายงานแสดง

ในปี 2008 สมาชิกที่เหลือปล่อยซิลเกิ้ลสองชุดโดยเริ่มจาก ‘Beam of Light’ ต่อด้วย ‘Kanjo Effect’ และได้ คังกิ โทโมยะ (Kanki Tomoka) มานั่งตำแหน่งมือกลองแทนยู แต่ยอดขายอัลบั้มกลับแย่ลงกว่าเดิม เพราะกระแสร้อนแรงกรณีของอเล็กซานเดอร์ เมื่อเขาโดนแจ้งความข้อหากระทำอนาจาร จนทำให้ปีถัดมาต้องออกจากวงไปในที่สุด

แม้เริ่มต้นมาดีสุดท้ายเจอกับข่าวดราม่า อย่างไรก็ตาม สมาชิกที่เหลือยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาตั้งใจทำผลงานกับจริง ๆ ในปี 2010 พวกเขาออกอัลบั้ม ‘Niche Syndrome’ ที่สามารถกู้หน้ายอดขายช่วงปี 2008 ที่สองซิงเกิลรวมกันยังไม่ถึง 5 หมื่นก๊อบปี้ ด้วยการสร้างสถิติใหม่กับยอดขายกว่า 244,000 แผ่น พลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างน่าประทับใจ แถมเพลงต่าง ๆ ในอัลบั้มนี้ก็กวาดคำชมจากนักวิจารณ์ไปล้นหลาม

 

ดนตรีร็อกน้องใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากแฟนเพลงทางฝั่งยุโรปและอเมริกา เหตุผลหลักที่ทำให้ One Ok Rock ไปไกลถึงต่างแดนได้เร็ว แถมยังสามารถมัดใจคนฟังมาจากทักษะภาษาอังกฤษของ ‘ทากะ’ ที่เริ่มเห็นชัดตั้งแต่อัลบั้มช่วงปี 2008 มีหลายเพลงในอัลบั้มมีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษปนอยู่เยอะพอสมควร แถมเมื่อใครได้ลองฟังแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าสำเนียงของเขาก็ดีมากเหมือนกับเป็นเนทีฟสปีกเกอร์

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าชาตินิยมเข้มข้น คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่สนใจภาษาอังกฤษ ไม่สนใจคนร่วมงานที่เป็นต่างชาติเท่าไหร่ ถึงขนาดรายการวาไรตี้ญี่ปุ่นเคยลงไปถ่ายทำบนถนนเพื่อหาคนที่ใส่เสื้อสกรีนภาษาอังกฤษ แล้วลองถามว่ารู้ความหมายของเสื้อที่ใส่อยู่ไหม ผลที่ออกมาคือไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น คนทำงาน หรือวัยเก๋า แทบไม่มีใครตอบได้เลย

แม้ไอดอลและศิลปินญี่ปุ่นหลายคนนำภาษาอังกฤษมาเป็นส่วนหนึ่งของเพลง แต่สำเนียงส่วนใหญ่ที่ร้องออกมามักแปร่งหู ไม่ชัดเจนมากนัก แต่ทากะกลับใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม ประกอบกับการทำเพลงของสมาชิกในวงที่สอดแทรกภาษาอังกฤษมาใส่ในเพลงร็อกสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ฟังแล้วไม่สะดุดหรือรู้สึกประดักประเดิด สัมผัสได้ถึงแนวเพลงที่เป็นสากล จึงไม่แปลกใจที่พวกเขาจะได้รับความนิยมจากแฟนเพลงต่างประเทศ

พวกเขาสั่งสมชื่อเสียงมาเรื่อย ๆ คนส่วนใหญ่มักมองว่าฐานแฟนของวันโอคุมักอยู่ต่างแดนมากกว่าบ้านเกิดตัวเอง จนกระทั่งพวกเขาได้ถูกจับจ้องจากชาวญี่ปุ่นมากขึ้นไปขั้นเมื่อซิงเกิล ‘The Beginning’ ถูกเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่สร้างจากมังงะในตำนานเรื่อง ‘Ruroni Kenshin’ หรือ ‘ซามูไรพเนจร’ ในปี 2012

 

The Beginning ทะยานขึ้นสู่อันดับ 2 ใน Billboard Japan Hot 100 วนเวียนอยู่ในอันดับเพลงยอดฮิตต่อเนื่องนานถึง 45 สัปดาห์ ต่อมาในปี 2013 ณ งานประกาศรางวัล MTV Video Music Awards Japan พวกเขาได้รับรางวัล Best Rock Video รางวัล Best Video from a Film และ Best Your Choice ที่จะช่วยการันตีว่าพวกเขาโด่งดังมาไกลขึ้นจากครั้งแรกเริ่มแล้วจริง ๆ และแฟนเพลงญี่ปุ่นของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแล้วด้วย

One Ok Rock ยังคงสร้างสรรค์งานเพลงต่อเนื่อง โดยอัลบั้ม ‘JinseixBiku’ ถูกปล่อยออกในปี 2013 พร้อมกับแนวเพลงที่เปลี่ยนไปจากเดิม นอกจากนี้ The Beginning อันโด่งก็อยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจของอัลบั้มนี้อยู่ที่คำวิจารณ์ของแฟนเพลงที่แตกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝ่ายหนึ่งบอกว่าแนวเพลงของพวกเขาเปลี่ยนไปมาก และรู้สึกใจหายมากที่ดนตรีอันหนักแน่นมีความเป็นป๊อปมากขึ้น

ส่วนอีกฝั่งมองต่างออกไป พวกเขารู้สึกชื่นชอบกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ถึงจะเป็นเพลงร็อก แต่ One Ok Rock กลับสร้างความรู้สึกฟังง่าย มีท่อนฮุกติดหูอยู่ในทุกเพลง คนทั่วไปสามารถเริ่มต้นฟังเพลงที่มีกลิ่นอายป๊อป-ร็อก ได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก คำวิจารณ์หลายทางก็มีส่วนช่วยส่งให้อัลบั้มของพวกเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนทำยอดขายได้กว่า 3 แสนแผ่น

 

One Ok Rock เริ่มมีบทบาทมากในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2014-ปัจจุบัน หลายครั้งหลายคราที่พวกเขาออกอัลบั้มใหม่ควบคู่กับโชว์สดตามคลับต่างในประเทศ ต่อมาในปี 2017 ได้ออกอัลบั้ม ‘Ambitions’ ที่มีทั้งเวอร์ชันภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น จากนั้นจึงค่อย ๆ ไต่ระดับจากปิดคลับเล่นดนตรีเก็บค่าบัตรราคาถูก จนได้จัดแสดงคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ในสนามกีฬาที่จุคนได้หลายหมื่น (ควบคู่มากับการก็โดนแฟนเพลงที่ตามตั้งแต่แรกเริ่มไล่ว่าพวกมึงควรไปทำเพลงป๊อปเถอะ)

One Ok Rock เดินหน้าแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก ส่งให้เสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องความสนุกฮึกเหิมเวลาพวกเขาเล่นสด ท้าทายให้ใคร ๆ ต่างตีตั๋วเข้าไปชมด้วยตาตัวเอง ในเวลาหนึ่งปี One Ok Rock เคยจัดคอนเสิร์ตทัวร์ในอเมริกามากกว่า 26 รอบ จัดทัวร์ทั่วโลกมากกว่า 100 รอบ เข้าร่วมเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Summer Sonic และ Rock in Japan รวมถึงเวทีใหญ่หลายแห่งติดต่อกันหลายปี

แม้สไตล์ของเพลงจากแตกต่างจากอัลบั้มแรกมากพอดู ตัวของสมาชิกเองก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของแฟนเพลงรุ่นเก่า พวกเขาจึงได้แต่บอกว่าการทำเพลงแนวใหม่ถือเป็นก้าวสำคัญของการเติบโต แต่ถึงแนวเพลงจะเปลี่ยนไปเป็นป๊อปมากขึ้น การเล่นสดของพวกเขาก็ยังคงโคตรมัน ดุเดือดชวนคลั่งเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน เพราะ One Ok Rock ถือเป็นวงร็อกจากญี่ปุ่นที่สื่อน้อยใหญ่ คอเพลงร็อกตัวพ่อต่างลงความเห็นตรงกันว่า “มึงต้องมาดูวงนี้เล่นสดสักครั้ง”

แม้ One Ok Rock ในมุมมองของหลายคนอาจไม่ใช่วงเจร็อกที่ดังที่สุดของญี่ปุ่น แต่สำหรับการเป็นวงร็อกรุ่นใหม่ที่เติบโตได้อย่างน่าประทับใจ พวกเขาทำให้เห็นว่าการเดินตามเส้นทางฝันอาจมีอุปสรรคบ้าง ถ้าหากตั้งใจจริง พวกเขาก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น มีพัฒนาการมากขึ้น และการได้ริลองสิ่งใหม่จะช่วยให้วงสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ สื่อสารผ่านผู้คนหลากสัญชาติด้วยบทเพลงที่เรารัก เพราะดนตรีคือภาษาสากลอย่างที่เคยได้ยินมาจริง ๆ

UNLOCKMEN ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบแนวเพลงสไตล์เจร็อก และมองว่า One Ok Rock เป็นวงดนตรีที่น่าสนใจไม่แพ้วงอื่น ๆ แล้วในมุมมองของผู้อ่านคนอื่น ๆ วงร็อกญี่ปุ่นในดวงใจตั้งแต่เด็กจนโตมีวงอะไรกันบ้างที่ฟังแล้วทำให้เราต้องเผลอโยกหัวตาม ?

Source : 1 / 2 / 3
Source Photo : 1 / 2 / 3

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line