FASHION

ราชาก็ใช่ว่าจะไม่เคยแพ้ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ Nike พ่ายแพ้ทางการตลาดให้กับคู่แข่ง

By: Thada August 16, 2016

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการกีฬาที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nike ต้องเสียตำแหน่งแชมป์ในเรื่องตัวนักกีฬา รวมถึงเสียการเป็นพันธมิตรสนับสนุนทีมกีฬาจากชาติต่างๆ ในมหกรรมการแข่งขันระดับนานาชาติ และแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจด้วย

160816-nikedrop-5

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้หากบอกว่าจะมีใครสามารถแซง Nike ขึ้นมาเป็นเจ้าผลิตภัณฑ์กีฬาได้ คงเป็นเรื่องน่าตลก ขบขัน เพราะตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ที่ Nike ครองตลาดนี้แบบเบ็ดเสร็จอยู่เพียงผู้เดียว สามารถทำกำไรได้มหาศาล รวมถึงยังเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับมหกรรมกีฬาระดับชาติ นักกีฬาระดับท็อปของแต่ละวงการ และยิ่งเมื่อ London Olympic 2012 ที่พวกเขานำเสนอเทคโนโลยี Flynit หรือผ้าถักที่สวมใส่กระชับราวกับใส่ถุงเท้า ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และครองใจเหล่านักกีฬาชื่อดังในทันที

160816-nikedrop-6

แต่โมเมนตัมได้มีการเปลี่ยนแปลงเรียบร้อย เราก็แทบจะไม่เชื่อเหมือนกันว่าวงการแฟชั่นกับกีฬาจะสามารถช่วยส่งเสริมกันได้ถึงเพียงนี้ เพราะช่วงสองปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า Adidas นั้นมาแรงจริงๆ โดยเฉพาะในไลน์ของ  Lifestyle product  ที่พัฒนาออกมาสร้างกระแสได้อย่างต่อเนื่อง นี่ยังไม่นับรวม Under Armour ที่พัฒนาไลน์กีฬาออกมาได้น่าสนใจ และด้านการตลาดก็วิ่งสู้สีกับ Nike มาเรื่อยๆ

160816-nikedrop-7

160816-nikedrop-10

160816-nikedrop-12

ทั้งหมดย่อมมีผลกระทบกับ  Nike  แน่นอน โดยใน Rio Olympic 2016  ครั้งนี้หุ้นของ Nike มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1% เท่านั้น ขณะที่ Adidas เติบโตต่อเนื่องอย่างรวดเร็วถึง 5.9 % และ Under Armour ก็เติบโตสูงขึ้น 2.3% ทั้งที่ Adidas และ Under Armour ก็ไม่ได้เป็น Official Sponsor ในกีฬา  Olympic  ครั้งนี้แต่อย่างใด

160816-nikedrop-4

160816-nikedrop-1

ถ้ามองลึกลงไปในภาพรวม Under Armour ได้เป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬาที่ลงแข่งขันในครั้งนี้ถึง 250 คน และมีนักกีฬาระดับแม่เหล็กอย่าง Michael Phelps หรือจะเป็น Stephen Curry รวมไปถึงชุดแข่งขันของทัพนักกีฬาทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่เป็นบ้านเกิดของ Nike  ก็ถูก Under Armour แย่งตำแหน่งไปครอง ทำให้ Nike ควรต้องรู้ตัวเสียทีว่าเขาไม่ได้มีศัตรูจากยุโรปเพียงแค่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะ  Under Armour  แบรนด์ชาติเดียวกัน ก็เริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมาได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีพลังทางการเงินมากพอที่พร้อมจะต่อกรกับ Nike แล้วเช่นกัน

160816-nikedrop-3

ทางฝั่งของ Adidas แม้ว่าจะไม่ได้มีนักกีฬาที่ใช้ผลิตภัณฑ์กีฬาของพวกเขามากมายนัก แต่ก็ค่อยๆ ขยับไปโฟกัสกับการออกแบบสินค้า Lifestyle ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับกีฬา Olympic ครั้งนี้มากขึ้น อย่างเช่นการออก  Capsule Collection ต่างๆ หรือจะเป็นการมอบรองเท้ารุ่นพิเศษ  Ultraboost Gold, Silver, Bronze  ให้นักกีฬาขึ้นรับเหรียญรางวัล ก็เรียกกระแสความสนใจได้มากเช่นกัน

จากนี้ไปอาจจะถึงจุดเปลี่ยนของวงการ  Sportswear  แล้วหรือไม่ จากนี้ไปการทำตลาดของแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เคยชินกับการอยู่อันดับหัวแถวจะเป็นอย่างไร? แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาไม่ได้ยืนเด่นเป็นผู้นำอย่างปลอดภัยอย่างที่เคยเป็นในอดีตอีกต่อไปแล้ว

 

Source: Highsnobiety / Fortune

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line