

Style
เพราะแว่นตาคืออวัยวะชิ้นที่ 33 รู้จัก ‘O33 VISION SOLUTION’ แบรนด์สโตร์แว่นตาลักชัวรี ที่ดูแลคนใส่แว่นระดับ Bespoke Eyewear
By: GEESUCH December 25, 2024 233678
“ถ้ามี Glasses Store ที่สามารถดูแลสไตล์ลิ่งของผู้ชายได้แบบ Bespoke Eyewear มันจะดีแค่ไหนกัน”
คำถามเล่น ๆ ปนเอาจริงของคนที่ใส่แว่นมาทั้งชีวิตอย่างเราที่กำลังมองหาร้านแว่นตาเซอร์วิสได้ระดับ Bespoke ก็ถูกเติมช่องว่างให้เต็มทันทีที่ได้มาใช้บริการของ ‘O33 VISION SOLUTION แบรนด์สโตร์แว่นตาลักชัวรี ที่ให้ความสำคัญกับแว่นตาระดับอวัยวะชิ้นที่ 33 ดูแลลงลึกระดับที่ว่าไม่ใช่แค่ได้แว่นตาที่ใช้ดีที่สุด แต่จะเป็นแว่นตาที่คุณภูมิใจพร้อมกับอยากให้โลกมองเห็นคุณอย่างชัดเจนในทุกวันเลยล่ะ
O33 เป็นร้านที่เกิดขึ้นจาก ‘หมออ๊อบบี้ (พญ.ชมพูนุท ภูมิรัตนประพิณ)’ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสายตาที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี กับ ‘หมอตั้ม (นายแพทย์คณพล ภูมิรัตนประพิณ)’ อายุรแพทย์เฉพาะทางดูแลผู้สูงอายุและผู้ก่อตั้ง Health at Home
หมออ๊อบบี้เล่าความตั้งใจของตัวเองให้เราฟังว่า ที่เปิด O33 เพราะอยากให้ทุกคนได้ใส่แว่นแล้วชอบทั้งแว่นตาที่ตัวเองเลือก พร้อมกับชอบตัวเองมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของค่าสายตาที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ว่าบุคลิกภาพที่ทำให้โลกมองมาที่คุณเองก็สำคัญ “เราอยากให้คุณมองโลกชัดเจนขึ้น และให้โลกมองเห็นคุณ” คือสโลแกนของที่หมออ๊อบบี้ใช้บอกกับทุกคนที่เข้ามา เราติดใจประโยค Quotes อันนี้เข้าอย่างจังเพราะไม่คิดว่าจะได้เลือกแว่นใหม่ที่ถูกดูแลใส่ใจตัวเองได้มากเท่านี้มาก่อน
บทความนี้ UNLOCKMEN ได้ไปสัมผัสประสบการณ์แบบ Bespoke Eyewear (คำที่เราเรียกขึ้นเอง) ของ O33 มาแล้ว ด้วยความประทับใจมาก ๆ เป็นพิเศษ เราจึงขอเล่า Step By Step ว่าคุณจะได้เจอกับอะไรบ้างเมื่อตัดสินใจตัดแว่นสักอันกับหมออ๊อบบี้ ขอสปอยล์ล่วงหน้าก่อนเลยละกัน คุณจะชอบตัวเองมากขึ้นเมื่อมาที่นี่เหมือนกับที่เรารู้สึกแบบนั้นกับตัวเองหลังจากได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงที่ O33
สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไม O33 ถึงใช้เวลาในการตัดแว่นต่อครั้งค่อนข้างนานกว่าทั่วไป ตามมาดูขั้นตอนสุดประณีตที่ดูแลทุกขั้นตอนโดยหมออ๊อบบี้และทีมระดับ Specialist ในทุกตำแหน่งไปพร้อม ๆ กัน
เริ่มต้น หมออ๊อบบี้จะคุยกับเราเพื่อหาข้อมูล insight ทั้งการใช้แว่นในชีวิตประจำวัน ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ความชอบในเรื่องต่าง ๆ ไปจนถึงถามความต้องการของเราว่าอยากให้แว่นที่กำลังจะตัดนี้ได้เล่าความเป็นตัวตนในมุมไหนออกมา เพราะไม่ใช่ทุกคนจะอยากเป็น Hot Nerd มันก็ยังมีสไตล์ลิ่งแบบ Quiet Luxury หรือแว่นที่ทำให้รู้สึกเป็น Formal Business Men & Girl และอีกหลายมุมเต็มไปหมด
แล้วจากนั้นหมออ๊อบบี้จะช่วยเราค้นหาตัวตนด้วยกรอบแว่นที่จะเข้ากับตัวเองที่สุดผ่าน Personalized Color โดยมีการใช้เรื่องของโทนสีที่เข้ากับสีผิว ไปจนถึงวิเคราะห์ Costume Fashion Style ของแต่ละคน เพื่อให้ได้แว่นที่มี Visionary DNA ตรงกับผู้สวมใส่โดยเฉพาะ โดยที่ในตอนท้ายสุดของ Process หมออ๊อบบี้จะทำการเลือกกรอบแว่นที่ดีที่สุดมาเป็น Option แล้วให้เราตัดสินใจว่าจะเลือกแว่นตัวไหนดี มันคือประสบการณ์ระดับ Bespoke Eyewear ของจริง และบอกเลยว่าเราพอใจกับแว่นที่ได้ค้นหาร่วมกับ O33 มาก (ถ้าอยากรู้ว่าเป็นแบรนด์อะไรอ่านให้ถึงท้ายของบทความนะ)
สิ่งที่เราชอบมาก ๆ ของขั้นตอนนี้ คือการที่หมออ๊อบบี้ไม่ได้ชี้หรือกำหนด Direction อันใดอันหนึ่งเพื่อให้เราไปตามนั้น แต่หมออ๊อบบี้จะร่วมหาความเป็นไปได้ของความดูดีที่มีหลากหลายในแต่ละคนเมื่อใส่แว่น พร้อม Explore ออกมาเป็นกรอบแว่นที่สุดท้ายแล้ว การเลือกกรอบและเลนส์จาก O33 คือการเลือกสิ่งที่เหมาะที่สุดกับเราในช่วงเวลา ณ ขณะนั้นที่สุด ผ่านแบรนด์แว่นตาที่มีทั้งฟังก์ชันและแฟชั่นให้เลือกแบบเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Lindberg / Monoqool / Sillouette / Mauijim / Orgreen / Vycoz / Cartier / Gucci / Saint Laurent ไปจนถึงแบรนด์ญี่ปุ่นหายาก 999.9 Fournine / Matsuda เป็นต้น
ที่ O33 มีแว่นที่ช่วยชะลอสายตาสั้นของเด็ก ก็เพราะว่านอกจากจะเป็นแบรนด์สโตร์แว่นตาลักชัวรีแล้ว O33 ยังเป็นศูนย์เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาสายตาของเด็ก ซึ่งถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอาจนำไปสู่อันตรายในอนาคตได้ ทั้งหมออ๊อบบี้และหมอตั้มจึงจับมือกันให้ความใส่ใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ดูแลคนใส่แว่นให้กลับมามองโลกได้ชัด ควบคู่ไปกับบูสต์ความมั่นใจในตัวเองแล้ว ที่นี่ก็ยังดูแลสุขภาพตาโดยรวมให้อีกด้วย (โห !) ดูแลตั้งแต่กระจกตา วัดความดันตา จอประสาทตา เพื่อเช็คว่าคุณมีโอกาสเสี่ยง หรือมีต้อกระจก ต้อหิน ต้อเนื้อ เบาหวานขึ้นตา หรือจอประสาทตาเสื่อมรึเปล่า เพราะข้อสำคัญคือโรคเหล่านี้ยิ่งตรวจพบเร็วก็ยิ่งรักษาหายได้ไว เพราะฉะนั้นการตัดแว่นที่นี่ คุณจะได้ Personal Eye Record Report สรุปประวัติทั้งผลตรวจสุขภาพสายตาและค่าสายตาเป็นไฟล์ Digital กลับบ้านไปดูแลตัวเองต่ออีกด้วย และหมออ๊อบบี้บอกกับเราว่าภายในปีหน้า O33 จะยื่นเป็นร้านตัดแว่นที่เป็นคลินิกเพื่อให้สามารถจ่ายยารักษาได้เลย ก็เรียกว่าดูแลสายตาครบจบในที่เดียว
ที่เราบอกไปในตอนต้นว่า O33 นำความ Specialist มาใช้ในทุกจุดบริการ จึงทำให้การวัดค่าสายตาของที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ด้วยการดูแลของนักทัศนมาตรคนเก่งของหมออ๊อบบี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอุปกรณ์วัดสายตาทันสมัยที่สุด เพื่อเข้ามาช่วยในการสร้างความแม่นยำในการเลือกปรับเลนส์สายตาให้สวมใส่สบายมากเท่าที่จะมากได้นั่นเอง
ที่เจ๋งมากก็คือ O33 เลือกใช้เลนส์ของ Zeiss เป็นหลัก นี่คือชื่อของเลนส์แบรนด์เยอรมันอายุกว่า 178 ปี ครองอันดับเบอร์หนึ่งของโลกในอุตสาหกรรมเลนส์ เป็นเลนส์ระดับ Medical Grade ที่ใช้เป็นอุปกรณ์การแพทย์ในทั่วโลก คุณภาพทนทานมีความคมชัดสูง และแน่นอนมีเลนส์ให้เลือกหลากหลายตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งาน ข้อสำคัญก็คือ O33 เป็น Zeiss Vision Expert 1 ใน 4 ของประเทศไทย ทำให้มีอุปกรณ์การวัดสายตาของ Zeiss แบบครบวงจร ใครเป็นแฟนของเลนส์แบรนด์นี้ห้ามพลาดเด็ดขาด
ว่ากันด้วย Decorate ของ O33 ที่นี่ไม่แค่ออกแบบโดยยึดหลัก Comfort Like Home ให้คุณสบายใจเหมือนอยู่บ้าน มี Jazz Music คลอเบา ๆ ในระดับที่กำลังพอดี มี Room Diffuser สร้างความผ่อนคลาย มีสเปซกว้าง ๆ ค่อย ๆ ใช้เวลาเลือกกรอบแว่นของตัวเองอย่างสงบ แต่ที่นี่ยังออกแบบเพื่อที่จะให้ภายในสโตร์รองรับการทดสอบสายตาด้วย ตั้งแต่เพดานไปจนถึงพื้น โดยจะมีโซนสำหรับทดสอบไลฟ์สไตล์ในการมองสิ่งต่าง ๆ การนั่งทำงานผ่านจอคอม นั่งอ่านหนังสือ หรือเดิน ทดสอบจนทำให้มั่นใจได้ว่าแว่นชิ้นนี้จะเป็น Everyday Use ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของตัวเองแน่นอน
ด้วยการบริการระดับนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม O33 ถึงเน้นการ Booking เป็นหลัก มากกว่า Walk In เพราะการดูแลที่ดีที่สุดระดับ Private Service จำเป็นต้องใช้เวลาที่มากขึ้นหน่อย ให้ผู้ที่เข้ามาได้รับประสบการณ์แสนพรีเมียม ก่อนจะรับโลกใบใหม่ที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมในระยะเวลา 10-15 วันหลังจากที่ตัดแว่นไปแล้ว
แถม O33 ก็ดูแลหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะการรับประกันแว่นตาเป็นระยะเวลา 1 ปี (กรณีแว่นตาหักทางร้านมีส่วนลด 50% สำหรับการตัดแว่นอันใหม่ด้วย) ประกันเลนส์สายตาในเรื่อง Coating ระยะเวลา 2 ปี รวมถึงมีบริการที่ดีมากอย่าง Emergency Service ให้บริการรับส่งแว่นตาชำรุด เช่น แว่นงอ แว่นเบี้ยว ภายใน 1 วัน (กรุงเทพและเขตปริมณฑล) ยังไม่หมด ! O33 มาพร้อมกับบริการดูแลใส่ใจพิเศษ ลูกค้าสามารถรับผ้าเช็ดแว่นใหม่ได้ทุก ๆ 6 เดือนตลอดการใช้งาน / Eye and Frame Check ในทุก 1 ปี / เข้ารับการตรวจสุขภาพตาและเลนส์ฟรี / Reglazing Services สามารถเอาแว่นเดิมมาเปลี่ยนเลนส์ได้กรณีที่สายตาเปลี่ยน
สุดท้ายแล้วเราเลือกแว่นตาของแบรนด์ MATSUDA ที่เป็นสไตล์ Double-Bridge ไม่ใช่แค่เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่มี Heritage Story ตั้งแต่ปี 1967 หรือความคราฟต์ของตัวกรอบที่ใช้วัสดุชั้นดีอย่างไทเทเนียม อะซิเตท เซลลูลอยด์ ถึงขนาดเคยได้รางวัล GOOD DESIGN Award จากประเทศญี่ปุ่น และ Silmo d’Or จากงาน Silmo Optical Show ประเทศฝรั่งเศส แต่เราเคยมีปมฝังใจกับแว่นสไตล์ Double-Bridge มาก่อน ใส่ยังไงก็ไม่มั่นใจ แต่หมออ๊อบบี้ช่วยเลือก MATSUDA แบบที่เข้ากับหน้าของเรา ช่วยให้เรามีอีกลุคที่สามารถใส่แว่นแบบ Double-Bridge อีกครั้งหนึ่งได้มั่นใจอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เป็นสิ่งที่เซอร์ไพรส์และเรารู้สึกว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ได้จาก O33 คือการที่หมออ๊อบบี้และทีมทำให้หลังจากนี้เราอยากลองค้นหาตัวตนผ่านแว่นตาในอีกหลาย ๆ มุมต่อไป
ต้องบอกว่าการดูแลแบบ Bespoke Eyewear ของ O33 เป็นอะไรที่มากกว่าการตัดแว่นไปแล้ว เพราะมันคือการที่คน ๆ หนึ่งใส่ใจดูแลสุขภาพตาของเราให้แข็งแรงดี และช่วยสร้างบุคลิกที่เราอยากจะมองตัวเองในทุกวันที่ใส่แว่น การมีแบรนด์สโตร์แว่นตาที่ใส่ใจผู้คนขนาดนี้เป็นอะไรที่ต้องมาสัมผัสสักครั้งจริง ๆ
O33 Vision Solution
LOCATION : AIA East Gateway ชั้น 1 ถนน บางนา-ตราด กม.4
OPEN : วันอังคาร-วันอาทิตย์ (10.00 – 19.00)
สามารถติดตามข่าวสารของ O33 Vision Solution ได้ที่ www.o33vision.com
** ติดต่อนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้ารับบริการ หรือปรึกษาปัญหาทางด้านดวงตาได้ที่ 080-084-3033 / จองคิวผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Line Official : @O33vision **