DESIGN

เปิดกรุ  OMEGA  5  เรือนเด็ด ที่ผู้หลงใหลในเรือนเวลา และสาวกหนัง  JAMES BOND 007  หมายปอง

By: NTman October 5, 2021

Shaken, Not Stirred คือวลีเด็ดที่ทำให้นึกถึงใครไม่ได้นอกจาก James Bond สายลับมาดเนี้ยบที่มีหมายเลข 007 เป็นโค้ดเนมประจำตัว ผู้ซึ่งมี Vesper Martini สูตรเฉพาะตัวที่ต้องปรุงแบบ ‘เขย่าแต่ไม่คน’ เป็นเครื่องดื่มประจำกาย

แต่นอกเหนือจากมาร์ตินี่สูตรพิเศษ สิ่งสะท้อนตัวตนของจารชนเจ้าเสน่ห์ที่สาวกหนัง James Bond อย่างเรา ๆ เห็นเป็นภาพจำมาตลอด หากไม่นับสาวบอนด์สุดสวยที่มีให้หนุ่ม ๆ ได้ปลื้มในทุกภาค ก็คงหนีไม่พ้นสูทสั่งตัดอย่างดี, รถ Aston Martin คู่ใจ, แกดเจ็ตล้ำ ๆ จาก Q รวมไปถึงนาฬิกาข้อมือ ไอเทมสำคัญที่เพิ่มความภูมิฐานให้สายลับ 007 คนเก่งคนนี้ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว

ซึ่งเราเชื่อเหลือเกินว่า OMEGA Seamaster เรือนงาม ซึ่ง James Bond คนที่ 5 ที่รับบทโดย Pierce Brosnan สวมใส่ในการถ่ายทำตอน GoldenEye น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้หลงใหลในเรือนเวลาทั่วโลกต่างหันมาจับจ้อง และอยากที่จะครอบครองไอเทมประจำข้อมือของสายลับขวัญใจมหาชนคนนี้

และเนื่องในโอกาสที่ No Time To Die มหากาพย์ภาพยนตร์ลำดับที่ 25 ของสายลับนามว่า James Bond กำลังจะได้ฤกษ์ลงโรงฉายในวันที่ 7 ตุลาคม นี้ หลังที่จากต้องเลื่อนหนีไวรัสร้ายมาหลายรอบ เราจึงอาสาทำการรวบรวมเรือนเวลา OMEGA ที่ถูกสวมใส่โดย James Bond ซึ่งคัดมาทั้งหมด 5 เรือนเด็ด ๆ นับตั้งแต่ยุค Pierce Brosnan มาจนถึง Daniel Craig ที่รับรองว่าต้องเคยสะดุดตา สะดุดใจ บรรดาแฟนหนัง และนักสะสมนาฬิกา ที่เติบโตมาในยุค 90s แบบเรา ๆ มาแล้วแทบทุกเรือน


ขอเริ่มต้นด้วยภาคที่เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรหลาย ๆ อย่าง ตามที่ได้เกริ่นไปว่า James Bond ภาคนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้ใครหลายคนเริ่มสนใจในนาฬิกาที่สายลับคนนี้สวมใส่ อีกทั้ง GoldenEye ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เหล่าวัยรุ่นยุค 90s ได้รู้จักกับภาพยนตร์ชุด James Bond แถมยังเป็นภาคแรกที่ Pierce Brosnan  มารับบทเป็นสายลับเจ้าเสน่ห์คนนี้

และที่สำคัญนี่ยังนับเป็นปฐมบทของเรื่องราวระหว่าง James Bond กับ OMEGA กับฉากประทับใจขณะที่จารชนรหัส 007 ติดอยู่ในรถไฟหุ้มเกราะของเหล่าร้าย เวลาก็กำลังนับถอยหลังก่อนการระเบิด สายลับอังกฤษรายนี้ได้ใช้เลเซอร์ที่ติดตั้งบริเวณขอบตัวเรือนนาฬิกาในการยิงตัดแผ่นเหล็กจนเปิดช่องให้เขาหลบหนีออกไปได้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด คือสิ่งที่ทำให้ OMEGA Seamaster Quartz Professional Diver 300M ติดตราตรึงใจทั้งแฟนหนัง และสาวกเรือนเวลา OMEGA มาจนถึงทุกวันนี้


ต่อกันที่ The World Is Not Enough อีกหนึ่งภาคยอดนิยมของแฟรนไชส์หนังจารชน 007  ที่นาฬิกา OMEGA เข้ามามีบทบาทสำคัญในซีนที่  James Bond โดนหิมะถล่ม สิ่งที่ช่วยให้เขารอดชีวิตก็คือสกีแจ็คเก็ตที่สามารถพองออกเป็นบอลชูชีพ ในขณะที่แสงไฟ  LED จาก OMEGA Seamaster Professional Diver 300M ได้ช่วยประคองสติของเขาให้ไม่ดับวูบไปในความมืดมิดที่ปกคลุม และในช่วงที่ Bond ติดอยู่ที่ก้นบ่อตรวจสภาพระเบิดนิวเคลียร์ ก็มี OMEGA Seamaster เรือนนี้ที่พาเขาออกจากสถานการณ์คับขันด้วยตะขอสลิงขนาดจิ๋วที่ทำงานด้วยการกดตรงฮีเลียมวาล์ว


หลังจากหมดยุคพยัคฆ์ร้ายเจ้าสำอางอย่าง Pierce Brosnan  ก็ถึงวาระของ Daniel Craig ที่มารับบท 007 ในลุคโหด ดิบ เถื่อนกว่าที่เคย แต่ที่ไม่เคยขาดหายไปเลยคือความเนี้ยบของเครื่องแต่งกาย ที่แน่นอนว่ายังคงมี OMEGA Seamaster Diver 300M เป็นเรือนเวลาคู่ใจ ที่ James Bond คนล่าสุดสวมใส่ในฉากพบกันครั้งแรกบนรถไฟระหว่าง Bond กับ Vesper Lynd (หญิงอันเป็นที่รักของจารชนคนนี้ ที่มาของชื่อ Vesper Martini เครื่องดื่มที่ Bond โปรดปราน)

โดย OMEGA Seamaster Diver 300M รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงให้มีความสวยงามกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินชวนมองจนสะกดสายตาของ Vesper Lynd ที่ให้คำจำกัดความสั้นแต่กระชับถึงเรือนเวลารุ่นนี้ไว้ว่า “งามจับใจ”


ต้องบอกว่า SkyFall สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ในแง่ของความเป็นหนัง James Bond ที่ระห่ำเดือดสะใจสายบู๊อีกภาคหนึ่งเลยก็ว่าได้ และท่ามกลางฉากต่อสู้ที่อัดแน่นของภาค SkyFall นาฬิกา OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M  ได้เป็นส่วนหนึ่งในหลายฉากที่สร้างความจดได้จำมากที่สุด และเราเชื่อว่าไปฉากการขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่าสุดระทึกบนถนนเมืองอิสตันบูลคือฉากที่สาวก James Bond ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน


แม้นาฬิกา OMEGA  4 เรือน จาก James Bond ทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา จะเป็นที่คุ้นตาแฟนหนัง และนักสะสมนาฬิกากันเป็นอย่างดี แต่สำหรับเรือนที่ 5  ซึ่งเป็นเรือนสุดท้ายที่เราเลือกมา เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของมันมาก่อน เพราะ OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition ยังคงอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเผยโฉมให้ได้เห็นกันในภาค No Time To Die ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 7 ตุลาคม นี้ หลังจากที่ปล่อยให้แฟน ๆ ตั้งตารอชมมาเนิ่นนาน

และหากจะให้พูดถึงความพิเศษของ OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition รือนนี้ คงต้องบอกว่ามันพิเศษในแทบทุกจุด เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบที่เป็นการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างโปรดิวเซอร์หนัง James Bond: No Time To Die และ Daniel Criag  นักแสดงนำของเรื่อง ที่คงไม่มีใครถ่ายทอดจิตวิญญาณจารชน 007 ในปัจจุบัน ออกมาได้ดีเท่าพวกเขาอีกแล้

โดย Daniel Criag เคยให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานร่วมกับ OMEGA ในครั้งนี้ว่า “ในตอนที่ผมได้ทำงานร่วมกับ OMEGA ผมได้เสนอแนวคิดที่ว่านาฬิกาน้ำหนักเบาคือหัวใจหลักสำหรับสายลับอย่าง 007 และอยากให้เพิ่มกลิ่นอายรวมถึงการใช้สีแบบวินเทจในบางจุด ซึ่งจะทำให้นาฬิกาเรือนใหม่ของ Bond มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร จนเมื่อได้เห็นชิ้นงานที่เสร็จสมบูรณ์ผมคิดว่ามันคือนาฬิกาที่เข้ากับ James Bond อย่างลงตัว และที่สำคัญคือมันดูดีอย่างเหลือร้ายเลยทีเดียวเชียว”

จากข้อมูลของโปรดิวเซอร์ และ Daniel Criag ทำให้ OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition รุ่นใหม่นั้นถูกรังสรรค์ขึ้นโดยยึดการใช้งานทางทหารเป็นแนวคิดพื้นฐาน ด้วยตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมเกรด 2 ขนาด 42 มม. ที่มีทั้งความแข็งแกร่งและให้น้ำหนักเบาตอบโจทย์ความต้องการของปฏิบัติการจารชนได้เป็นอย่างดี

เท่านี้อาจยังเบาไม่พอ เพราะยังได้มีการรทอนน้ำหนักโดยรวมของตัวเรือนให้เบาลง ด้วยการเลือกใช้หน้าปัดอลูมิเนียมน้ำหนักเบา และใช้โทนสีเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาวินเทจที่จะดูเข้มขึ้นเมื่อผ่านไปตามกาลเวลา ซึ่งในวงการนักสะสมเรือนเวลาเรียกกันว่าสี Tropical ซึ่งขอบตัวเรือนอลูมิเนียมก็ใช้สีนี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมแบบพิเศษยังช่วยให้นาฬิกาดูมีมิติที่บางลงกว่า Seamaster Diver 300M รุ่นมาตรฐานอีกด้วย

สำหรับฝาหลังของ OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition  ก็มาพร้อมดีเทลต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงการใช้งานทางการทหาร กับชุดตัวเลขตามแบบฉบับนาฬิกาที่ผลิตขึ้นสำหรับใช้งานในกองทัพ “0552” คือเลขรหัสที่กำหนดไว้สำหรับกองทัพเรือ, “923 7697” คือเลขสำหรับนาฬิกาดำน้ำ, ตัวอักษร “A” คือสิ่งที่ระบุถึงนาฬิกาที่ใช้เม็ดมะยมแบบขันเกลียว ส่วนเลข “007” นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือรหัสประจำตัวสุดไอคอนิกของสายลับ James Bond และสุดท้ายคือ “62” ตัวเลขจากปีที่ภาพยนตร์ James Bond ภาคแรกเข้าฉาย

นอกจากนี้ฝาหลังของ OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition ยังถูกออกแบบให้ผนึกด้วยระบบ NAIAD LOCK ซึ่งช่วยยึดโยงตัวอักษรให้อยู่ตรงตามตำแหน่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งภายในถูกติดตั้งด้วยกลไกบอกเวลาคุณภาพสูงอย่าง OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8806 ที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานขั้นสูงสุดของอุตสาหกรรมเวลา ทั้งด้านความเที่ยงตรง, สมรรถนะและคุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็ก 

อ่านมาถึงตรงนี้บอกเลยว่า OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition น่าจะขึ้นแท่นนาฬิกา James Bond ที่สามารถครองใจทั้งแฟนหนัง รวมถึงผู้หลงใหลในเสน่ห์แห่งเรือนเวลาได้ไม่ยาก สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของบอกเลยว่าไม่ต้องรอนาน เพราะมันพร้อมวางจำหน่ายในบูติกของ OMEGA แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถเลือกได้ว่าจะจับคู่กับสายไทเทเนียมถักเรียบหรูสะกดสายตา (ราคา 320,000 บาท) หรือสาย NATO แถบสีน้ำตาลเข้ม, เทาและเบจที่คู่กับห่วงสายสลักหมายเลข 007  ซึ่งให้ทั้งความคลาสสิกควบคู่ไปกับความสมบุกสมบันคล่องตัว (ราคา 282,000 บาท)


OMEGA บูติก สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959

สาขาสยามพารากอน โทร.02-129- 4878

สาขาดิ เอ็มโพเรียม โทร.02-664-9550

หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >>  https://bit.ly/3uEltT9

 

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line