รวมภาพบรรยากาศกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย ไซโก (ประเทศไทย) ที่จัดมาอย่างต่อเนื่องก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Seiko ‘Save the Forest to Save Our Elephants’ เมื่อวันที่ 12-14 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ณ จังหวัดกาญจนบุรี ครั้งนี้เป็นการควบรวมทั้งสองโครงการ ทั้งการอนุรักษ์ช้างไทย และป่าไผ่ ที่สอดคล้องกับคอลเลกชันนาฬิกาทั้ง 2 คือ Seiko Prospex Thai Elephant Thailand Limited Edition รหัส SRPK57K และ Seiko Prospex Bamboo Grove Limited Edition รหัส SPB435J กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการศึกษาเรียนรู้การทำงานของสายงานอนุรักษ์ช้าง และสัตว์ป่าที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ด้วยการเยี่ยมชมการทำงานของหน่วย โดยมีคุณหมอแอ้ม อ. สพ.ญ. ดร.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์
ช่วงนี้ใครสัญจรผ่านไปมา ณ จุดแลนมาร์กต่าง ๆ กลางกรุงเทพฯ คงจะมีโอกาสพบเจอกับป้ายโฆษณารณรงค์การรักษ์โลกสุดล้ำ ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด ใครที่แวะมาที่นี่ยังพักชาร์ตแบตโทรศัพท์ผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ได้ฟรีอีกด้วย ซึ่งป้ายเหล่านี้เป็นไอเดียดี ๆ จากทาง กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ที่ต้องการเปิดพื้นที่ส่งต่อความรู้ และสื่อสารให้พวกเราได้ตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานสะอาด ในรูปแบบที่สนุก เข้าใจง่าย ผ่าน Interactive Display แต่ละป้ายบอกเลยว่ามีครบทั้งสาระ และความบันเทิง จัดเต็มคอนเทนต์ให้ความรู้จากเหล่า Change Leaders ที่เป็น Influencers ชื่อดัง พร้อม AR Filter เอาไว้แชร์ชวนเพื่อนมาเล่นเกมสนุกบน Instagram และปิดท้ายด้วยป้าย QR Code หลังดูวิดีโอจบ ให้หยิบมือถือมาสแกนเล่นเกมสะสมแต้มแลกรับรางวัลไอเทมรักษ์โลกเจ๋ง ๆ อีกเพียบ งานนี้จะมีโลเคชันไหนให้แวะไปร่วมสนุก เรารวบรวมข้อมูลเปิดวาร์ปทั้ง 4 ป้าย 4 โลเคชันมาไว้ให้แล้วเรียบร้อย พิกัดแรกไปเจอกันได้ที่ลานใบบัว ทางเชื่อมลอยฟ้าวันสยาม กับป้าย I Can’t Breath
ย้อนรอยภาพบรรยากาศเดือนแห่งความรักที่ “เต็มไปด้วยความหอมอบอวล และบรรยากาศที่แสนอบอุ่น” ภายในงาน “Maurice Lacroix Family Time: Experience the ML spirit with an exclusive cooking class” เมื่อวันที่ 19 และ 20 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยทางคณะผู้บริหาร มอริส ลาครัวซ์ นำโดย Mr. Marcel Gut (คุณมาแซล กู้ด) Global Sales Director of Maurice Lacroix และ คุณรวิศ เหตานุรักษ์ Manager Area Sales Indochina ที่ต้องการมอบประสบการณ์พิเศษแบบใหม่ๆ ให้กับทุกคนได้สัมผัสถึงบรรยากาศอันอบอุ่น สนุกสนาน และเป็นกันเองในสไตล์ “Maurice Lacroix Family Time”
ว่ากันว่า “แรงบันดาลใจ” คือสิ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตของคนเราให้ก้าวไปข้างหน้า แต่ระยะทางที่มุ่งหน้าออกไปจะไกลได้มากน้อยแค่ไหน หรือจะสามารถพิชิตจุดหมายปลายทางได้หรือไม่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับดีกรีของความตั้งใจว่ามันเข้มข้นสักเพียงใด และสำหรับชีวิตในวัยหนุ่มของ ‘อาจารย์อินสนธิ์ วงค์สาม’ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) พ.ศ.2542 คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่ถ่ายทอดตัวอย่างของแรงบันดาลใจอันแรงกล้าได้อย่างชัดเจน กับ “แลม… บันดาลใจ” ในการควบสกู๊ตเตอร์ Lambretta ข้ามโลกสู่อิตาลี เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ พร้อมแสดงผลงาน และตอบสนองแรงผลักดันส่วนลึกในใจ กับเป้าหมายในการไปเยือนนครแห่งศิลปะอย่างเมืองฟลอเรนซ์ ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาด้านศิลปะให้กับเขา แน่นอนว่าหากย้อนไปในปี พ.ศ. 2504 แผนการพิชิตเส้นทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ไม่ใช่เรื่องง่าย ความตั้งใจของ ‘อาจารย์อินสนธิ์ ’ หลังสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ ตอนนั้น มีแต่คำว่าเป็นไปไม่ได้ปรากฎอยู่ในทุกมิติ ทั้งเรื่องของรถยนต์ส่วนตัวที่มีปัญหาจนไม่พร้อมใช้งานเดินทางไกล ยังไม่นับรวมถึงอุปสรรคอีกมากมายที่รออยู่ตลอดเส้นทางข้างหน้า แต่ด้วยอุดมการณ์ทางศิลปะอันเข้มข้น บวกกับความบ้าระห่ำในวัยหนุ่ม ทำให้ ‘อาจารย์อินสนธิ์ วงค์สาม’ ยังคงเดินหน้าทำตามความฝัน ตัดสินใจทำหนังสือขอความสนับสนุนจากตัวแทนจำหน่ายสกู๊ตเตอร์ Lambretta ในไทย เพราะอยากได้ราชรถคู่ใจเป็นสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี ที่นอกจากจะลงตัวกับการออกทริปสู่ดินแดนมักกะโรนี แล้วยังตอบโจทย์เรื่องความคล่องตัว, ความทนทาน,
หากจะบอกว่านี่คือเรือนเวลาสำหรับใครที่หลงใหลในความ Modern Classic และชื่นชอบในสิ่งที่เป็น Timeless Design ก็คงจะไม่ผิดนัก กับ Longines Conquest Heritage Central Power Reserve รุ่นฉลองครบรอบ 70 ปีของคอลเลกชัน Conquest ที่มี Story มายาวนานนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 1954 โดยเรือนนี้จะได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นที่ 2 ในคอลเลกชัน คือ Longines Conquest Power Reserve ปี 1959 ที่นำมาปรับเพิ่มเติมรายละเอียดให้มีความคลาสสิกร่วมสมัยลงตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมนำเอาจุดเด่นอย่างดิสเพลย์บอกสถานะพลังงานสำรองบนจานหมุนกลางหน้าปัดจากในรุ่นเดิมมาให้ได้สัมผัสในยุคปัจจุบัน ซึ่งถ้าย้อนไปในปี 1959 มันคืองานดีไซน์และเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่ทาง Longines ได้คิดค้นขึ้นมาได้อย่างล้ำหน้ามาก ๆ เรียกได้ว่างานออกแบบของ Longines Conquest Heritage Central Power Reserve เรือนนี้ เป็นการเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานกับงานดีไซน์ได้อย่างสวยงาม เป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่บาลานซ์ความคลาสสิกและให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติในการสำรองพลังงานได้สูงสุดประมาณ 72 ชั่วโมง ถึงจะถอดทิ้งไว้วันสองวัน ก็หยิบมาใส่ต่อเนื่องได้ทันที
Vespa 946 Dragon Limited Edition เผยโฉมความเท่ต้อนรับศักราชใหม่ เฉลิมฉลองการเริ่มต้นของปีแห่งโชคลาภ และความมั่งคั่ง ผ่านการผสานนวัตกรรมและไลฟ์สไตล์จากอิตาลี เข้ากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามปฏิทินในจันทรคติของจีนอย่าง ‘มังกร’ ในปาร์ตี้เปิดตัว Vespa 946 Dragon ณ PMQ ศูนย์กลางศิลปะ และการออกแบบสุดล้ำ บนเกาะฮ่องกง พร้อมเสื้อแจ็คเก็ต Dragon Varsity Jacket สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา งานนี้เลือกใช้สีเขียวมรกตเฉดเดียวกับลายมังกรบน Vespa 946 Dragon เป็นธีมสีหลักของปาร์ตี้ เริ่มจากอุโมงค์นีออนบริเวณทางเข้าที่ได้รับการออกแบบประหนึ่งประตูมิติที่พาแขกทุกท่านเข้าสู่โลกของ Vespa โดยเมื่อผ่านเข้ามาจะพบพระเอกของงานอย่าง Vespa 946 Dragon อวดโฉมอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์สีเขียว ที่ตัดด้วยไฟนีออนสุดเท่ ภายใต้เสียงเพลงจากไลฟ์ดีเจสุดชิค DJ Xiaolin ผู้ทำหน้าที่คัดสรรบีทสนุก ๆ เติมเต็มช่วงเวลาอันแสนพิเศษตลอดค่ำคืน นอกจากนี้ในงานยังเต็มไปด้วยศิลปินและนักแสดงแถวหน้าของไทย และฮ่องกง มาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งแต่ละคนต่างแชร์ DNA ในด้านสไตล์และจิตวิญญาณอิสระแบบ Vespa
ไม่ว่าเทรนด์แฟชั่นจะหมุนไวขนาดไหน แต่คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ‘ความคลาสสิก’ ยังคงเป็นเทรนด์ที่อยู่ในกระแสมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่หวือหวา แต่ทว่าเรายังพบเจอกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวแบบคลาสสิกสไตล์อยู่เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือนาฬิกาที่สวมใส่ และในปี 2024 นี้ SEIKO 5 SPORTS ยังคงตอบโจทย์ชาวคลาสสิกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเล่าเรื่องผ่านความคลาสสิกระดับตำนานผ่าน 2 รุ่นใหม่อย่าง SEIKO 5 SPORTS “Retro Color” Special Edition ที่มาพร้อมสีหน้าปัดสุดเรโทร และขอบหน้าปัดลวดลาย Rally จากยุค 60s-70s มาให้สาวกทั้งหลายได้หายคิดถึง เพราะแฟนพันธุ์แท้ Seiko 5 Sports คงจะทราบกันดีว่า ขอบ Rally นี้ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นดังในอดีตอย่าง Seiko 5 Sports Rally Diver 70 ที่ขึ้นหิ้งเป็นหนึ่งใน Rare item ที่หลายคนตามหา เรียกได้ว่าการมาของ SEIKO 5 SPORTS “Retro Color” Special
รวมภาพบรรยากาศค่ำคืนแสนพิเศษ จากงาน Seiko Presage Cocktail Time : The Beautiful Sunset of Tokyo เนรมิตพื้นที่ 2463 Speakeasy ค็อกเทลบาร์ Vibe ดี ย่านเอกมัย ให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของ STAR BAR บาร์ชื่อดัง ณ กรุงโตเกียว พร้อม Mixology Workshop ชวนผู้เข้าร่วมงานเปิดประสบการณ์ทำค็อกเทลแก้วพิเศษอย่างใกล้ชิด เมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญกับการรวมตัวของ Seiko Presage หลากรุ่นที่แมทช์กับค็อกเทลหลากสี พร้อมเผยโฉม Seiko Presage STAR BAR Limited Edition เรือนเวลา 2 รุ่นใหม่ในคอลเลกชัน Presage ที่รังสรรค์โดย Hisashi Kishi หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ของ STAR BAR บุคคลแรกที่ได้รับรางวัล
จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่เริ่มมาจากความหลงใหลในกีฬาขี่ม้าโปโลของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่มีความตั้งใจในการจะพัฒนากีฬาขี่ม้าโปโลของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับต่างชาติ พร้อมสนับสนุนการแข่งขันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลของเอเชีย จวบจนปัจจุบัน ซึ่งตลอดการจัดตั้งสมาคมฯ กีฬาขี่ม้าโปโลในประเทศไทยก็ได้พัฒนา และผ่านเรื่องราวมากมายมาตลอด 20 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบสำคัญแบบนี้ ทางสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยได้จัดงานแถลงข่าวครบรอบ 20 ปี แห่งความสำเร็จผ่านนิทรรศการ 2 ทศวรรษบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาและเหตุการณ์สำคัญอันเปี่ยมคุณค่า พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งสมาคมฯ ที่หมายยกระดับกีฬาขี่ม้าโปโลไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมี คุณกนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย นำโดย คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา, คุณพลอย ปิ่นแสง และคุณชนม์นฤทธ์ โตมงคล นักกีฬาขี่ม้าโปโลดาวรุ่ง ร่วมพูดคุย ณ โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ คุณกนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมขี่ม้าโปโลในไทย ก่อตั้งขึ้นจากความชอบ
ผ่านเวลามา 50 ปี ความคลาสสิกจากงานดีไซน์เรือนเวลารูปทรง TV ที่ผสานรูปร่างสี่เหลี่ยมเข้าไว้กับความโค้งมนได้อย่างกลมกล่อม พร้อมคืนชีพอีกครั้งกับ MIDO Multifort TV Big Date ตัวแทนความเก๋าด้านงานออกแบบที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน หลังจากที่ Mido เคยเผยโฉมนาฬิกาทรง TV สุดคลาสสิกมาแล้วเมื่อปี 1973, 1980 และ 2000 ล่าสุดตำนานเรือนเวลาหน้า TV ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งบน MIDO Multifort TV Big Date ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบที่คลาสสิกร่วมสมัย เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหน้าปัดสะท้อนแสงโชว์เอฟเฟกต์การไล่เฉดแสงสีที่น่าหลงใหลจากโทนสีหลักกลางหน้าปัดไปจนสุดขอบสีดำ ตัวเรือนสเตนเลสของ MIDO Multifort TV Big Date ดูลงตัวมีมิติด้วยการขัดเงาแนวนอนอย่างเด่นชัด ขาดไม่ได้กับความโดดเด่นของ ‘BIG DATE’ หน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา นอกจากนี้ภายใต้กระจกแซฟไฟร์ด้านหลังตัวเรือนยังเผยให้เห็นความงามของกลไก Caliber 80 สุดแม่นยำ พร้อมรองรับการสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง เหมาะมากสำหรับเป็น Every Day