รู้จัก”P7″ศิลปินสตรีทอาร์ตกับโปรเจกต์ปลดล็อกพลังสร้างสรรค์ชิ้นล่าสุดที่ IDEO RAMA9-ASOKE

“ศิลปะไม่ควรสูงส่ง แต่ควรจะอยู่ระดับเดียวกับผู้คน” คำพูดเพียงประโยคสั้น ๆ แต่ปล่อยหมัดตรงจนเราแทบน็อคจากศิลปินสตรีทอาร์ตนามว่า P7 ประโยคนี้ UNLOCKMEN ว่ามันคือใจความสำคัญทั้งหมดของบทสนทนาวันนี้ เพียงแต่ P7 ไม่ได้พูดลอย ๆ เท่านั้น แต่เขาปลดล็อกพลังสร้างสรรค์ของตัวเองเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้อย่างน่าทึ่งด้วยการร่วมมือกับ Ananda Development สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในคอนโดมิเนียม “Ideo RAMA9 – ASOKE” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live Work Play” ซึ่งช่วยตอกย้ำให้ผู้ชายอย่างเราเห็นว่าศิลปะในแบบ P7 ไม่ต้องแหงนคอมอง ไม่ต้องปีนบันไดขึ้นไปดู แต่ศิลปะสามารถส่งต่อพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และศิลปะสามารถกลมกลืนอยู่ในระดับเดียวกับชีวิตผู้ชายในเมืองใหญ่อย่างเราได้อย่างลงตัว

“P7 – พีระพงศ์ ลิ้มธรรมรงค์” จึงไม่ใช่แค่ศิลปินสตรีทอาร์ตที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ แต่เป็นทั้งแรงบันดาลใจ ความลงตัว และเป็นขุมพลังงานล้นเหลือหาตัวจับยากที่เราต้องรีบทำความรู้จักเขา รวมถึงรู้จักผลงานล่าสุดของเขาที่จะพาเราเข้าสู่โลกแห่งการสร้างสรรค์ศิลปะครั้งใหม่ที่ผสมผสานการใช้ชีวิตในเมืองไว้ด้วยกันแบบที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

P7’s LEGACY : ศิลปินไม่ใช่แค่รับจ้าง แต่ทุกอย่างต้องเป็นศิลปะ

“ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็วาดมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน” P7 เริ่มต้นพูดถึงชีวิตตัวเองที่คลุกคลีอยู่กับศิลปะมาตั้งแต่เด็ก แม้งานล่าสุดของเขาจะเป็นสตรีทอาร์ต แต่การเป็นศิลปินเบอร์ต้น ๆ ของประเทศและเป็นที่รู้จักในต่างประเทศทำให้เขาสร้างสรรค์ทั้งงานเพนท์ติ้ง สเปรย์อาร์ต ประติมากรรม รวมถึงงานออกแบบ แต่นิยามคำว่าจุดเริ่มต้นจริง ๆ ของเขาคงหนีไม่พ้นประโยคที่ว่า”ส่วนมากชีวิตก็ทำงานศิลปะมาตลอด ตั้งแต่ปี 1998″ เพราะความตั้งใจระดับทุ่มทุกลมหายใจไปกับงานสร้างสรรค์ทำให้เขามีโอกาสแสดงนิทรรศการศิลปะของตัวเองเป็นครั้งแรกในปี 1998 และความเจ๋งของผลงานก็ทำให้เขาได้แสดงนิทรรศการเดี่ยวของตัวเองในหลายประเทศมาแล้ว “ตัวตนเราก็เริ่มจากตรงนั้น” เขาย้ำกับเราอย่างหนักแน่น

เราปล่อยให้เขาทบทวนอะไรกับตัวเองสั้น ๆ ก่อนจะถามเขาต่อว่าด้วยความเชี่ยวกรากในวงการศิลปะขนาดนี้ ทำงานมาแล้วกี่ชิ้น ? เป็นพันชิ้นถึงไหม ? คำตอบจากปาก P7 ทำให้เราถูกกระแทกเข้าอย่างจังเพราะมันระบุไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาทำงานศิลปะจำนวนมหาศาลนับไม่ถ้วน แต่ที่ P7 ตอบเราอย่างมั่นคงว่าทำไมเขาถึงไม่เคยนับผลงานของตัวเอง และคำตอบยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คือศิลปินตัวจริง “ทุกอย่างมันเป็นศิลปะหมด คือเราไม่ได้ทำงานตอบโจทย์ ไม่ใช่แค่รับจ้าง เราเป็นอาร์ทติสพรีเซนต์ เราเอาความเป็นศิลปะของเราใส่เข้าไปในที่ต่าง ๆ หรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่เราทำ”

P7’s SELF : ตัวตนคือความหลากหลายและการเคลื่อนไปตลอดเวลา

แม้ก่อนการกระโจนลงมาเป็นศิลปินสตรีทอาร์ตเต็มตัว ชื่อเสียงของพีระพงศ์ ลิ้มธรรมรงค์จะถูกพูดถึงในวงการไฟน์อาร์ตอยู่แล้ว แต่เมื่อเขาต้องการลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ชื่อ P7 ก็ถูกนำมาใช้โดยตัว P มาจากอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของชื่อจริง ส่วน 7 เป็นเลขที่ลงตัวในทางดีไซน์ที่สุด เราถามเขาด้วยความแปลกใจว่าการใช้ชื่อเดิมที่มีคนในวงการศิลปะรู้จักดีอยู่แล้วไม่เป็นผลดีกับผลงานมากกว่าหรือ ? เขายังคงตอบเราด้วยแววตามั่นคงเช่นเดิมว่า “การเปลี่ยนมาเป็น P7 ไม่ได้เอาผลงานมาเท้าความว่า P7 เอามาจากพีระพงศ์ ผมอยากเป็นอีกคนเลย ไม่ติดยึด”

เพราะความเชื่อที่ว่าพลังงานล้นเหลือนี้จะอยู่ภายใต้ชื่อไหนก็ยังฉายแสงออกมาอยู่วันยังค่ำ การไม่ยึดติดกับตัวตนเดิมของเขาไม่ใช่แค่เรื่องชื่อเท่านั้น กับเรื่องผลงานก็เช่นกัน “ผมจะทำแปลกกว่าคนอื่น คนอื่นเขาจะทำงานศิลปะที่เป็นรูปแบบให้คนจดจำได้ แต่ของผมจะไม่ซ้ำกัน คือทำงานศิลปะไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่ปี 1998 จนถึงปัจจุบัน วาดไม่เคยซ้ำเลย” เขาตอบอย่างมั่นใจเมื่อเราถามถึงผลงานของเขาว่ามีลักษณะอะไรที่คนจะจำได้บ้าง “เราเต็มที่ 100% ดีไม่ดี เราไม่รู้ คนชอบไม่ชอบ เราไม่รู้ แต่ว่าเราทำ 100% ในแต่ละชุดมันก็บอกไม่ได้ว่าชุดไหนดีกว่ากัน เพราะมันต่างกันหมด” 

“ผมไม่ได้ยึดติดเลยตั้งแต่แรก เพราะว่าเราต้องการความท้าท้ายให้ตัวเรา เป็นศิลปินต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ไม่อยู่กับที่ ทักษะต้องเพิ่มไปเรื่อย ๆ  ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ก็พัฒนาไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ยึดติดว่าคนต้องจำได้ แค่ผมคิดว่าแต่ละงานที่ทำไป ให้มีความเป็นตัวเรา ไม่ลอกใคร ไม่ตามเทรนด์และคิดค้นอะไรใหม่ ๆ ไม่ให้เหมือนใคร

ส่วนคนจะชอบหรือจำได้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องภายนอก แต่ภายในเราต้องมั่นคงไว้ก่อน บางทีคนก็นึกว่า เฮ้ย P7 มันมีงานหลักอะไรบ้าง เป็นกลุ่มคนหรือเปล่าวะ กลุ่มศิลปินหรือเปล่า ไม่ใช่ มันเป็นตัวผมคนเดียว เพราะตัวผมคือความหลากหลายของงาน”

ทันทีที่เขาพูดจบเรายิ่งมั่นใจว่าพลังงานสร้างสรรค์ภายในที่เดือดพล่านแต่หนักแน่นมั่นคงของเขา จะส่งต่อมาให้เราได้อย่างล้นเหลือแน่นอน

P7’s WAY OF WORKING : ความสร้างสรรค์ต้องอยู่ในวิถีชีวิต

การทำงานสร้างสรรค์มามากกว่า 30 ปีคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะคิดอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลาโดยเฉพาะการต้องทำงานศิลปะไม่ให้ซ้ำเดิมอยู่ตลอดสไตล์ P7 ยิ่งเป็นเรื่องท้าทาย จนเราอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีวิธีทำงานอย่างไรกันแน่ ? P7 ยืนยันว่าความพยายามฝึกฝนและอยากจะทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ คือสิ่งสำคัญ แต่สำหรับเขาการวาดรูปมันคือปฏิกิริยาธรรมชาติของตัวเขาเองตั้งแต่เขายังเด็ก จนกระทั่งกลายเป็นความรักและความมุ่งมั่น

แต่ถ้าถามว่าทุกวันนี้เอาพลังงานสร้างสรรค์มาจากไหน เขาก็ตอบให้แบบไม่มีกั๊กว่า “ยังวาดอยู่เพราะว่ามันเป็นเหมือนวิถีชีวิตที่ชอบ” ยิ่งถ้าเราใช้ชีวิตอยู่กับศิลปะและพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เราสร้างสรรค์ได้เต็มที่ P7 ก็เชื่อว่ามันจะเติบโตในตัวเราจนพลังสร้างสรรค์กลายเป็นส่วนหนึ่งของเราไปในที่สุด “ถ้าเรามีความคิดแบบธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก เราชอบตกแต่งเราชอบอยู่แบบนี้ เราชอบแบบนี้ มันก็จะติดตัวเรามาโดยที่เราไม่ต้องปรุงแต่งเลย” 

นอกเหนือจากเอาความสร้างสรรค์มาอยู่ในทุกอณูของชีวิต ดูเหมือนว่าการรัก การมีความสุขกับสิ่งที่ทำและการพัฒนาอยู่ตลอดก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งในการทำงานศิลปะที่ไม่เหมือนใครของ P7

“วาดให้มีความสุข วาดไม่ Copy ไม่ตามเทรนด์ วาดตามใจปรารถนาที่เราอยากจะทำ แล้วก็มีศักดิ์ศรีในการทำงาน คือไม่ทำงานแบบ คิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว แล้วก็หากินต่อมันไม่ใช่ มันต้องลืมความสำเร็จตรงนั้นไป แล้วก็คิดค้นใหม่ เริ่มต้นศูนย์ใหม่ นี่คือสิ่งที่ผมทำจนถึงปัจจุบันนี้ มันทำให้เรารู้สึกทำงานไม่เบื่อ ไม่ย่ำอยู่กับที่ ไม่ลอกตัวเอง เริ่มศูนย์ใหม่ เหมือนเราเริ่มท้าทายอะไรใหม่ ๆ ทุกวัน มันก็ทำงานสนุกทุกวัน”

“ถ้าเรารักและทำในสิ่งที่เราชอบ มันจะตัดเรื่องของความอยากดังหรืออยากมีเงินไป มันจะหมกหมุ่นอยู่กับการฝึกฝนแล้วก็มีความสุขที่จะวาด ผมเริ่มจากอย่างนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าปัจจุบันเราจะมาถึงตรงนี้ ศิลปะมันก็ไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จ เพราะมันไม่มีทางสำเร็จ มันจะต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ “

P7 x IDEO RAMA9-ASOKE : โปรเจกต์ล่าสุดที่ P7 ได้ระเบิดความสร้างสรรค์แบบไร้กรอบ

“Ideo เขาเห็นความเป็นตัวเรา ให้เราแสดงศักยภาพงานศิลปะให้ออกมาเต็มที่” ประโยคเดียวก็มากพอที่จะบรรยายโปรเจกต์ล่าสุดของ P7 กับ Ananda Development ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในคอนโดมิเนียม “Ideo RAMA9 – ASOKE” ภายใต้คอนเซปต์ “Live Work Play” ได้ทั้งหมด

จึงไม่แปลกใจเลยว่าบรรยากาศของ Ideo RAMA9 – ASOKE ภายใต้การวาดลวดลายจาก P7 จะให้กลิ่นอายแห่งความสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น และการผนวกรวมไลฟ์สไตล์เข้ากับการทำงานด้วยความสนุกตามวิถีชีวิตคนเมือง อย่างที่ P7 พูดถึงโปรเจกต์นี้ด้วยความภูมิใจว่า “เขาก็อยากให้ผมมาเป็นตัวผมนี้แหละ” การได้ทำโปรเจกต์ใหญ่ควบคู่ไปกับการได้แสดงความเป็นตัวเอง จึงทำให้เขาได้คอนเซ็ปต์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่าง Live Work Play

“เราคิดไอเดีย Live Work Play เป็นคอนเซ็ปต์ของโครงการ เพราะมีทั้งวิถีชีวิตของคนปัจจุบันในเมืองคือ Live การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยการทำงาน คือ Work และมีทั้งความสนุกของการใช้ชีวิต คือ Play  แล้วเอา 3 คำนี้มาหลอมเป็นคอนเซ็ปต์งานอาร์ต” P7 อธิบายคอนเซ็ปต์งานศิลปะของเขาที่ Ideo RAMA9 – ASOKE ด้วยแววตาสนุกสนาน

เขาเล่าต่อถึงรายละเอียดว่า กระต่ายเป็นตัวแทนของพาร์ต Live โดยเขามองว่ากระต่ายคือการใช้ชีวิต ด้วยความที่มันกระโดดไปข้างหน้าไม่หยุดไม่ต่างจากไลฟสไตล์คนเมืองที่ไม่อยู่นิ่ง ในขณะที่พาร์ต Work เขาวางภาพแทนเป็นกวางซึ่งหากินตลอดเวลา ภาพการเล็มใบไม้ใบหญ้าอย่างละเมียดละไมให้ความรู้สึกถึงการทำมาหากินอย่างมีสุนทรียะ สุดท้ายเขาเลือกลิงเป็นสัญลักษณ์ของพาร์ต Play เพราะลิงคือความสนุกสนาน มี Movement เป็นตัวแทนการเคลื่อนไหวไม่อยู่นิ่ง  โดยทั้งหมดคือคอนเซ็ปต์ของสัตว์นำมาผสมกับงานดีไซน์สไตล์ P7 ที่ไม่มีกรอบ

P7 x IDEO RAMA9-ASOKE : Ideo โปรเจกต์ศิลปะในชีวิตที่จับต้องได้และเหมาะกับคนเมือง

ภาพความเป็นศิลปินสายสตรีทอาร์ตทำให้หลายคนเกิดคำถามขึ้นในใจว่าความนอกกรอบของกราฟฟิตี้จะสามารถมาอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยได้จริงหรือไม่ P7 ไขข้อข้องใจให้เราเสร็จสรรพว่าเขาได้แสดงความเป็นตัวเองเต็มที่กับโปรเจ็กต์นี้ ไม่มีการลดทอนความเดือดพล่านในผลงานของเขาลงแต่อย่างใด แต่เป็นการร่วมงานกันอย่างลงตัวที่สุด

ที่สำคัญศิลปะในสายตา P7 ต้องเป็นศิลปะที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังและคนเข้าถึงได้ ศิลปะไม่ใช่ความสูงส่งแต่เข้าไม่ถึง “ผมคิดว่าศิลปะมันควรเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่า เป็นเรื่องที่ง่าย ผมว่าความรู้สึกของคนมันมีคุณค่ากว่าศิลปะ  ฉะนั้นศิลปะมันควรจะช่วยสัมผัสความรู้สึกคน ไม่ใช่ให้คนต้องแหงนหน้ามองศิลปะ เพราะฉะนั้น ผมถึงทำงานศิลปะที่เป็นศิลปะ ตอนแรกก็ทำศิลปะที่เป็นไฟน์อาร์ต เข้าใจยาก แต่ผมก็อยากจะเอาศิลปะที่มันสัมผัสง่าย เข้ามาผสมผสานด้วย ดังนั้นศิลปะไม่ควรสูงส่ง แต่ควรจะอยู่ระดับเดียวกับผู้คน”

ในแง่นี้จึงไม่แปลกใจเลยที่ Ideo RAMA9 – ASOKE จะตอบโจทย์ทุกประการของการควบรวมศิลปะ พลังงานสร้างสรรค์ ความสนุก การทำงาน และการใช้ชีวิตมาอยู่ด้วยกัน

“Ideo RAMA9 – ASOKE นี่น่าจะเป็นชีวิตที่จับต้องได้นะ คือมันมีทั้งศิลปะและการใช้ชีวิต รวมถึงความโมเดิร์นที่อยู่ในตัวของคนเมือง ผมว่าเป็นศิลปะที่ง่าย พอสัมผัสก็เข้าใจเลย ผมมาทำงานให้ Ideo RAMA9 – ASOKE ไม่ต้องปรับอะไรเลย คือวิถีชีวิตมันสัมผัสได้อยู่แล้วเพราะผมก็คนกรุงเทพฯ เราก็เลยเข้าใจว่าโครงสร้างหรือโปรเจ็กต์ของ Ideo RAMA9 – ASOKE นี่มันสำหรับคนใช้ชีวิตในเมืองจริง ๆ “

“ผมว่าที่นี่เป็นพื้นที่ที่สบาย ๆ นะ ไม่ซับซ้อนมาก ลักษณะของวิถีชีวิตที่ครอบคลุมบรรยากาศของ Ideo RAMA9 – ASOKE มันทำให้มีความร่วมสมัย ว่าคนที่ใช้ชีวิต สามารถอยู่ได้ครบทุกอารมณ์ของชีวิต ทั้ง Live Work Play มันไม่ได้หนักไปทางใดทางหนึ่งมันอยู่ตรงกลาง  โปรเจกต์นี้คนซึมซับได้ง่าย และเหมาะกับคนในเมืองด้วย”

P7 x IDEO RAMA9-ASOKE : การส่งต่อพลังงานสร้างสรรค์ผ่านพื้นที่อยู่อาศัย

การได้อยู่ท่ามกลางพื้นที่อยู่อาศัยที่อบอวลไปด้วยความลงตัวระหว่างการใช้ชีวิต การทำงานอย่างสร้างสรรค์ และการพักผ่อนได้อย่างสนุกเต็มที่จึงไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป P7 เองก็เชื่อแบบนั้น

“ใช่ มันมีจริง สมมุติผมจะไปอยู่ที่ไหนสักที่ ผมก็ต้องเลือกใช่ไหมว่ามันเวิร์ค มันไม่เวิร์คเพราะอะไร มันก็ขึ้นอยู่ที่รสนิยมเรา เราชอบแบบนี้ อยากได้แบบนี้ มันเป็นรสนิยมของคนนะ ฉะนั้นเราจะไปอยู่ที่ไหนเราก็ตกแต่งที่นั่นไป ใช้ชีวิตที่แบบนั้น ทำงานในที่แบบนั้นมันก็ทำให้เราอิน มีอินเนอร์ไปกับมัน” P7 พูดถึงบรรยากาศของที่เราเลือกอยู่ว่ามีผลต่อการใช้ชีวิตของเราได้จริง

“ด้วยความเป็นธรรมชาติของเราที่สื่อสารออกไป เราเป็นคนกรุงเทพฯ ด้วย ก็จะชอบอะไรที่มันมีชีวิตชีวา มีสีสันในชีวิต เพราะฉะนั้นที่ผมทำดีไซน์ออกไปให้ Ideo RAMA9 – ASOKE มันจะเต็มไปด้วยสีสันและ ฟิลลิ่งของความทันสมัย ความสนุกสนานด้วย คนสามารถที่จะเห็นแล้วผ่อนคลายไปกับมัน รู้สึกว่าไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมที่เป็นคอนโดเฉย ๆ แต่มีการตกแต่ง เอาศิลปะเข้ามา มีงานดีไซน์เข้ามา  ให้คนรู้สึกมีชีวิตชีวาไปกับมัน ผมว่า Ideo RAMA9 – ASOKE เป็นโครงการที่ดีที่จะสอดแทรกศิลปะเข้าไปในชีวิตประจำวันของคน  ซึ่งทำให้คนถูกหลอมศิลปะเข้าไปในตัว”

P7 x IDEO RAMA9-ASOKE : พื้นที่ปลดล็อกพลังงานสร้างสรรค์แห่งการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่

ไม่ใช่แค่การถูกรายล้อมด้วยงานออกแบบของ P7 ที่อวลไปด้วยคอนเซ็ปต์ Live Work Play ซึ่งเป็นขุมพลังของคนรุ่นใหม่เท่านั้น ในวันที่ไอเดียพุ่งกระฉูดที่ Ideo RAMA9 – ASOKE ยังมี Co-working space ไว้รองรับพลังสร้างสรรค์ไม่จำกัดของเรา จึงเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดของพื้นที่อยู่อาศัยที่แต่เดิมมีไว้เพื่ออยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ที่นี่ตอบโจทย์ทุกวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง แต่ถ้ายังจุใจไม่พอที่ Ideo RAMA9 – ASOKE มีการออกแบบพื้นที่และส่วนกลางที่ฉีกกฎคอนโดมิเนียมแบบเดิมโดยทั้ง Facilities มีพื้นที่กว่า 3,600 ตารางเมตร ให้ใช้พลังไปกับไลฟ์ สไตล์ของคุณได้เต็มที่ในทุกมิติชีวิต

ปลดล็อกให้อิสระในการใช้ชีวิตไปอีกขั้นด้วยระยะทางห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 เพียง 450 เมตรเท่านั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางที่ไม่เคยหยุดนิ่งของผู้ชายในเมืองที่ต้องออกไปทำงานในวันธรรมดาโดย Ideo RAMA9 – ASOKE ใกล้สำนักงาน เช่น G Tower, AIA, SET, CW Tower, Uniliver และ The Nine Tower และหากต้องการพบปะสังสรรค์ในวันพักผ่อนที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า Central Rama 9, Fortune Town, Big C Extra, The street Ratchada และ Esplanade Ratchada

บทสนทนาปลดล็อกพลังสร้างสรรค์กับ P7 ครั้งนี้ทำให้เห็นมิติการใช้ชีวิตของคนทำงานศิลปะว่าสามารถขยายไปได้ไม่มีสิ้นสุดและเขาจะยังก้าวต่อไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะการนำความสร้างสรรค์และศิลปะที่จับต้องได้มาผสมผสานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แบบ Live Work Play ได้อย่างลงตัว ยิ่งทำให้เห็นว่าพื้นที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นแค่ที่พักผ่อนเฉย ๆ เท่านั้น แต่ต้องรองรับและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างชาญฉลาดได้ด้วย ผลงานดีไซน์ของ P7 ใน Ideo RAMA9 – ASOKE ครั้งนี้จึงเป็นมิติใหม่แห่งขุมพลังสร้างสรรค์ที่ให้คำตอบได้ครบจบในที่เดียว

เหมือนอย่างที่ P7 พูดไว้แล้วว่า “วิถีชีวิตมันสัมผัสได้อยู่แล้วเพราะผมก็คนกรุงเทพฯ เราก็เลยเข้าใจว่าโครงสร้างหรือโปรเจ็กต์ของ Ideo RAMA9 – ASOKE นี่มันสำหรับคนใช้ชีวิตในเมืองจริง ๆ“

สำหรับผู้ที่สนใจไลฟ์สไตล์สร้างสรรค์แบบลงตัวในโครงการ Ideo RAMA9 – ASOKE สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sale Gallery Ideo RAMA9 – ASOKE  สามารถรับสิทธิพิเศษ จองก่อน พร้อมรับส่วนลดที่มากกว่า ด้วยการจองผ่าน Online Booking สมัครสมาชิกเตรียมจองพร้อมกันในวันที่ 12 มิ.ย. เวลา 12.00 – 16 .00 น. ได้ที่: ananda.co.th  Presales 16 มิถุนายน และ Public Presales 17 มิถุนายน 2561

ชมห้องตัวอย่างและรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: http://bit.ly/IDEOR9Asoke , https://bit.ly/2LAhwru