Business

ทำธุรกิจด้วยแนวคิดจาก PABLO ESCOBAR อัจฉริยะด้านการตลาดผู้สร้างแบรนด์โคเคนจากศูนย์

By: Chaipohn May 6, 2021

ในโลกของยาเสพติดคงไม่มีชื่อไหนโด่งดังไปกว่า ‘Pablo Escobar’ เจ้าพ่อโคเคนแห่งโคลัมเบีย เขาเปรียบเสมือน Michael Jackson แห่งวงการสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องราวของเขาถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์มากมาย แต่ที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็ต้องยกให้ซีรีส์ Narcos จาก Netflix

ยุค 80 เป็นยุคที่ยาเสพติดกำลังเฟื่องฟูถึงขีดสุด มีผู้ค้ารายใหญ่หลายก๊กหลายเหล่า แต่ Pablo Escobar สามารถพาตัวเองไปอยู่บนจุดสูงสุดของพีระมิดได้ แค่ความใจถึงและเหี้ยมเกรียมคงไม่เพียงพอแน่นอน เขาต้องมีกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่ดีด้วย

ถึงแม้ว่าธุรกิจของ Pablo Escobar จะเป็นธุรกิจผิดกฏหมาย แต่ก็ต้องยอมรับในความเด็ดขาดและฉลาดในกลยุทธ์ ดังนั้นเราคิดว่าเคล็ดลับการทำธุรกิจของเขาก็มีประโยชน์และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของทุกคนได้แน่นอน

Escobar ตั้งใจจะทำให้โคเคนของเขาเป็นโคเคนที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก มีความบริสุทธิ์สูงกว่าเจ้าอื่น ๆ จึงเข้มงวดเรื่องคุณภาพการผลิต

เขาไม่เชื่อในกลไกตลาดที่จะต้องตัดราคาแข่งกันเพื่อทำยอดขายให้ได้มากกว่า เพราะถ้าสินค้ามีคุณภาพต่อให้ราคาจะสูง ยังไงลูกค้าก็ยินดีจ่าย โดยเฉพาะในโลกยาเสพติดอย่างโคเคน ที่คุณภาพเป็นสิ่งที่จับต้องได้ไม่ยาก และยิ่งทำให้คนติดงอมแงมมากขึ้นด้วย

และข้อนี้ถือว่า Escobar คิดถูก ส่งผลให้ยอดขายโคเคนของเขาพุ่งสูงว่าแก๊งค้ายาใด ๆ บนโลก โดยเฉพาะการขยายไปตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง


ต่อจากข้อด้านบน Escobar รู้ดีว่ากำลังซื้อของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ในโคลัมเบีย เขาขายโคเคน 1 กรัมได้ราคาแค่ 10 เหรียญ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อของลูกค้าต่ำ

แต่ถ้าเขาลงทุนสร้าง Transportation และ Distribution เพื่อขนสินค้าคุณภาพดีข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งคนอเมริกันซื้อขายโคเคนคุณภาพด้อยกว่าในราคาที่สูงกว่าหลายเท่า

แน่นอนว่าสินค้าของเขาจะมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นมากเนื่องจากกำลังซื้อของชาวอเมริกันนั้นสูง อีกทั้งโคเคนเป็นสิ่งหายากและมีความต้องการสูงในอเมริกาตาหลัก Demand & Supply

รู้ดังนั้น Escobar ก็ไม่รอช้า ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาของออกไปให้ได้ โดยเป้าหมายแรกของเขาคือไมอามี่ เมืองแห่งการปาร์ตี้ และที่นั้นเขาสามารถขายโคเคน 1 กรัมได้ในราคาสูงถึง 500 เหรียญ Escobar รู้ในทันทีว่าต้องทำอะไรต่อ เขาเริ่มขยายอาณาเขตการค้าออกไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดเจ้าผงสีขาวของเขาก็แพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินอเมริกา


ไม่ใช่มีแค่ Escobar คนเดียวที่รู้ว่าอเมริกาคือแหล่งขุมทรัพย์ทำเงินให้โคเคน เจ้าพ่อยาเสพติดคนอื่นก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทำให้ Escobar เหนือกว่าคนอื่น ๆ จนสามารถครอบครองตลาดอเมริกาได้สำเร็จคือการขนส่งและกระจายสินค้าที่ดี

Escobar รวบรวมพรรคพวก ใช้ทุก connection ที่จำเป็น สร้างเส้นทางเดินเรือของตัวเองมุ่งตรงจากโคลัมเบียสู่อเมริกาเหนือ โดยสามารถลบเลี่ยงสายตาตำรวจได้ นอกจากนั้นยังลงทุนซื้อเครื่องบินเพื่อสร้างฝูงบินขนส่งยาเสพติดทางอากาศ ซึ่งเดินทางได้มากกว่า เร็วกว่า ไกลกว่า และปลอดภัยกว่าทางน้ำ

ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถขนส่งและกระจายสินค้าในปริมาณที่มากและเร็วกว่าคู่แข่ง Escobar ลงทุนมหาศาลในการสร้างเส้นทางขนส่งสินค้าของตัวเองขึ้นมา ซึ่งผลตอบแทนนั้นคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม


“ศัตรูของศัตรูคือมิตร” ในเมื่อทำธุรกิจเดียวกัน มีศัตรูเป็นตำรวจเหมือนกัน แล้วจะมัวมาสู้รบกันทำไม? นี่คือความคิดของ Escobar

ดังนั้นเขาจึงรวบรวมแก๊งค้ายาเสพติดทั้งหมดมาทำสัญญาในการแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน  ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างกองกำลังรบให้แข็งแกร่งเพื่อต่อกรกับจำนวนทหารตำรวจจากรัฐบาล หรือการช่วยกันขนส่งสินค้าไปกระจายตามถิ่นของแต่ละแก๊ง ซึ่งเทียบกับโลกการตลาดปัจจุบันก็คือยุคของการ Collaboration ข้ามแบรนด์ หรืออาจจะข้าม Category เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน


หนึ่งในความฝันของ Escobar คือการได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของโคลัมเบีย ดังนั้นว่าตัวเขาจะเป็นพ่อค้ายาเสพติดเลือดเย็น แต่ก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตัวเองให้สาธารณชนเห็นอยู่เสมอ

Escobar เอาจริงเอาจังบนเส้นทางการเมืองเพื่อเข้าสู่สภา ด้วยการใช้เงินที่ได้จากโคเคนมาแจกจ่ายช่วยพัฒนาชุมชนต่าง ๆ ในโคลัมเบียจนได้รับสมญานามว่า ‘Robin Hood of Columbia’ ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่นับถือและศรัทธาในตัวเขา แต่ในอีกมุม Escobar ก็เป็นเพชรฆาตที่เด็ดขาดหากใครมายุ่งกับธุรกิจหรือกระบวนการผลิตคุณภาพโคเคนของเขา

เมื่อรวมภาพลักษณ์ทั้งหมดทุกมุมกับผลิตภัณฑ์โคเคนแห่ง Medellin Cartel จึงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ไม่ว่าจะเพราะหวาดกลัวอิทธิพลของเจ้าพ่อที่มีพลังในการบริหารประเทศ หรือเพราะติดใจในคุณภาพสินค้าก็ตาม


Escobar เริ่มต้นการทำธุรกิจผิดกฎหมายของเขาด้วยการลักลอบขายของเถื่อน ของหนีภาษี ถึงแม้ว่าจะได้กำไรพอสมควร แต่เขารู้ดีว่ามันไม่มากพอจะเปลี่ยนให้พ่อค้ากลายเป็นมหาเศรษฐีอย่างที่ต้องการได้

Escobar จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาผลิตและค้าโคเคนแทนทันทีที่เจอช่องทาง ถึงแม้ความเสี่ยงจะเยอะกว่ามาก แต่กำไรก็เยอะกว่ามากเช่นกัน เงินที่เขาได้จากรถบรรทุกขนส่งโคเคน 1 คันเท่ากับที่ได้จากรถบรรทุกขนเหล้าและบุหรี่ถึง 40 คันเลยทีเดียว แน่นอนว่าเขาไม่รอช้า และตัดสินใจลงมือทำทันที


Escobar เชื่อว่าเขาคือคนที่พระเจ้าเลือก เกิดมาเพื่อความยิ่งใหญ่ ด้วยความทะเยอทะยานเกินคนทั่วไป จึงสามารถพาตัวเองออกมาจากสลัม และมุ่งมั่นทำในสิ่งที่เขาเชื่อได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

เขาไม่เคยคิดว่า DEA (หน่วยปรามปราบยาเสพติด) หรือตำรวจจะทำอะไรเขาได้ เขาพร้อมจะลั่นไกปืนใส่ทุกคนที่คิดขวางทาง และเขาไม่เคยกลัวตาย ความเชื่อมั่นในตัวเองมากมายขนาดนี้จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่พาเขาไปอยู่จนสูงสุดของโลกใบนี้ได้

ทั้งหมดนี้คือหลักการทำธุรกิจของ Pablo Escobar ราชายาเสพติดตลอดกาลของโลก เป็นหลักการที่ไม่ได้เรียนรู้จากมหาวิทยาลัยหรือหลักสูตรไหน แต่ได้มาจากประสบการณ์ชีวิตล้วน ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย แต่ถ้าเลือกเฉพาะส่วนดีมาปรับใช้แล้วล่ะก็ เราเชื่อว่าจะมีประโยชน์บางข้อที่เราสามารถนำมาพัฒนาตัวเองได้อย่างแน่นอน

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line