World

หมด PASSION ต้องทำไง? ลองเติมไฟให้ชีวิตด้วยการอ่านแนวคิดและวิถีชีวิต 5 ผู้นำของโลก

By: TOIISAN November 23, 2018

ในจำนวนประชากรหลายร้อยล้านคน ทำไมมีบางคนเป็นกลุ่มผู้นำ ในจำนวนหลายร้อยคนในบริษัท ทำไมมีผู้บริหารแค่ไม่กี่คน หลายคนน่าจะสงสัยว่าพวกเขาทำอย่างไรถึงได้ก้าวไปอยู่บนจุดที่ยิ่งใหญ่ได้ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปสัมผัสถึงมุมมองและชีวิตของผู้นำโลกทั้ง 5 คนที่เลือกมาแล้ว ว่าพวกเขาเหล่านั้นคิดอะไร ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเองมากแค่ไหน และทำอย่างไรถึงได้มี passion ที่ผลักดันชีวิตจนประสบความสำเร็จ

 

1.นโปเลียน โบนาปาร์ต

จากทหารปลายแถวสู่จักรพรรดิฝรั่งเศสผู้โด่งดัง

amazing.zone

เด็กหนุ่มร่างเล็กสุดธรรมดาที่ไร้เสน่ห์ พูดสำเนียงแปร่ง ๆ จนถูกเพื่อนล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นตัวผลักดันให้นโปเลียนเป็นคนมีความอดทนสูงและมุ่งมั่น นโปเลียนเป็นชายผู้ยึดมั่นในหน้าที่ของตัวเอง เมื่อเป็นทหารเขาก็ทุ่มสุดตัวในทุกสมรภูมิรบ พกความห้าวหาญติดตัวไม่กลัวใครหน้าไหน ทำให้กลายเป็นวีรบุรุษของฝรั่งเศสในหน้าประวัติศาสตร์ และเป็นผู้กล่าวประโยคดังที่ถูกพูดถึงมาจนปัจจุบันว่า

 “เป็นไปไม่ได้ คือคำศัพท์ที่พบในพจนานุกรมของคนโง่เท่านั้น”

เพราะจากเด็กชายที่เกิดในครอบครัวสามัญชนและก้าวสู่การเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสที่เมื่อพูดชื่อแล้วก็ต้องรู้จัก ถ้าโง่คงทำไม่ได้แน่ ๆ

บางคนอาจบอกว่าจุดจบของนโปเลียนนั้นช่างน่าเศร้าและแสนอับอาย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาได้ทำมา ความพยายามที่น่านับถือ และความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงกับการสร้างชื่อให้ฝรั่งเศสที่ไม่สามารถทำตามกันได้ง่าย ๆ ก็พิสูจน์ได้ว่านโปเลียนคือผู้นำที่มีความสามารถไม่น้อยกว่าใคร

 

2.วินสตัน เชอร์ชิล

นายกรัฐมนตรีเมืองผู้ดี ผู้ซึ่งถูกนำไปสร้างหนังนับครั้งไม่ถ้วน

dcourier

ภาพยนตร์กว่า 70 เรื่อง ที่นำเสนอเกี่ยวกับวินสตัน เชอร์ชิล เด็กหนุ่มที่ผู้คนกล้าเรียกได้ว่าค่อนข้าง “ฉลาดน้อย” เพราะนอกจากวิชาภาษาอังกฤษกับประวัติศาสตร์ เขาก็ไม่เก่งอะไรเลย พอเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารก็ได้เป็นทหารม้าที่ยศต่ำเตี้ย และเมื่อมีโอกาสได้นำทัพอังกฤษเข้าร่วมสงครามในปี 1915 การนำของเขาทำให้มีทหารบาดเจ็บนับแสนคนจากการต่อสู้ที่ยาวนาน ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้เชอร์ชิลสูญเสียตำแหน่งในกองทัพและต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการกอบกู้ชื่อเสียงคืนมา

“คุณจะไม่มีทางไปยังจุดหมายได้ หากมัวแต่หยุดแล้วปาก้อนหินใส่หมาทุกตัวที่คอยเห่าคุณ”

นี่คือคำพูดเตือนตัวเองของเชอร์ชิล สิ่งที่พลาดไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ เขาจำมันเป็นบทเรียนแล้วก้าวต่อไป จนในที่สุดเชอร์ชิลก็สามารถไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมวาทะแรกที่กินใจประชาชนว่า “ไม่มีอะไรจะให้ได้นอกจากเลือด การทำงานหนัก หยาดเหงื่อและน้ำตา” แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและอุดมการณ์ที่แน่วแน่ว่าจะไม่ยอมแพ้จนถึงที่สุด

 

3.เนลสัน แมนเดลา

รัฐบุรุษผู้นำสันติภาพมาสู่แอฟริกาใต้

bbc

ชายผู้ใช้ทั้งชีวิตในการวิ่งตามอุดมการณ์ของตัวเอง เรียนกฎหมายเพื่อให้คำแนะนำแก่ชาวผิวสีที่ต้องการความช่วยเหลือ ในช่วงที่รัฐบาลแอฟริกาใต้มีนโยบายการแบ่งแยกสีผิวอย่างรุนแรง แมนเดลามักเข้าร่วมการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิวอยู่เสมอ พยายามเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมของมนุษย์และต่อสู้กับรัฐบาล ทำให้ถูกจับกุมและจำคุกนานถึง 18 ปี

เขาได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนด้วยการปฏิเสธข้อเสนอปล่อยตัวแลกกับการที่แมนเดลาต้องยุติบทบาทการเรียกร้องเรื่องการเหยียดผิว จนในที่สุดเมื่อเรื่องราวได้ถูกเล่าขานไปทั่วโลก แมนเดลาได้รับการนิรโทษกรรม และได้เป็นหัวหน้าพรรค ANC จนก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ในวัย 75 ปี เรียกได้ว่าชายคนนี้คือผู้ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเองอย่างแท้จริง และคำพูดที่โด่งดังของเขาคือ

“ความรุ่งโรจน์ที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่การที่เราไม่เคยพลาด แต่เป็นการที่เราลุกขึ้นได้ทุกครั้งเมื่อเราล้มลง” 

ยิ่งตอกย้ำว่าแม้จะต้องเจอกับอุปสรรคยากลำบากแค่ไหน แมนเดลาก็พร้อมสู้เพื่อยืดหยัดขึ้นอีกครั้งเสมอ

 

4.วลาดิเมียร์ ปูติน

อดีตสายลับสู่ผู้นำที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องเกรงใจ

sky news

ช่วงชีวิตวัยเด็กของผู้ชายที่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่ได้สร้างชีวประวัติสุดมันส์และน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าหนังฮอลลีวูดบางเรื่องเสียอีก ปูตินในวัยเด็กได้อาชีพในฝันของตัวเองจากหนังสายลับเรื่อง Shield and Sword เขาเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์และทำงานกับคณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ หรือที่รู้จักกันในนาม KGB เขาเป็นสายลับที่มีความสามารถ ได้ทำอาชีพตามที่ฝันไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก แต่หลังจากโซเวียตล่มสลาย ปูตินได้ลาออกจาก KGB และเข้าสู่โลกของการเมือง

ปูตินเป็นชายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสามัญสำนึก และยึดมั่นความเป็นไปได้บนพื้นฐานของความจริงมากกว่าอุดมการณ์สวยหรูที่ดูเป็นไปได้ยาก ด้วยบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ดุดัน และเด็ดขาด เขาได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ก่อนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียในปี 2000 ความเด็ดเดี่ยวของปูตินทำให้เขาสามารถควบคุมทิศทางเศรษฐกิจของรัสเซียให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ระส่ำระส่ายมานานกว่า 10 ปี จากการล่มสลายของโซเวียต และเมื่อถึงคราวที่ความคิดแตกเป็นสองเสียง ปูตินจะกล่าวเสมอว่า

“บางครั้งเราก็จำต้องโดดเดี่ยว เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้อง”

ถึงแม้ว่าในชีวิตของเราอาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้นแบบปูติน แต่ประสบการณ์ของเขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ ทั้งเรื่องของความทะเยอทะยาน (ในทางที่ถูกต้อง) การก้าวตามความฝัน และการไม่ยอมแพ้ ถ้าเรามีความเชื่อแบบไหน ก็ลองยึดถือมันไปให้สุดทางดูสักที

 

5.สี จิ้นผิง

ผู้นำจีนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 100  ปี

the national

เด็กหนุ่มที่ชีวิตเหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเป็นถึงลูกชายของรองนายกรัฐมนตรีที่มีความใกล้ชิดกับ เหมา เจ๋อตง แต่ชีวิตของจิ้นผิงก็พลิกผันเมื่อพ่อของเขาโดนปลดจากตำแหน่งรองนายกฯ กลายเป็นกรรมกร เพราะดันไปอนุญาตให้ตีพิมพ์หนังสือที่วิจารณ์เหมา เจ๋อตง ด้วยชื่อเสียงที่ย่ำแย่ของบิดา จึงทำให้สี จิ้นผิง และพี่สาวมักถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมชั้นบ่อยครั้ง เมื่อพี่สาวของเขาเสียชีวิต ผู้คนก็ยังลือกันว่าเป็นเพราะ “ถูกกลั่นแกล้งจนต้องฆ่าตัวตาย”

ด้วยวัยเด็กที่รัดทดยิ่งกว่าหนังดราม่า สี จิ้นผิง ก็ยังไม่ยอมแพ้กับชีวิต เขามีความมุ่นมั่นที่จะเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน จิ้นผิงเขียนจดหมายสมัครถึง 9 ครั้ง และถูกปฏิเสธมาตลอด แต่ก็ไม่ยอมแพ้ที่จะเดินตามสิ่งที่ตั้งใจไว้ เขาพยายามผลักดันตัวเองจนในที่สุดก็ได้กลายมาเป็นประธานาธิบดีจีนที่มีวิสัยทัศน์และภาพลักษณ์ที่ชัดเจน เป็นผู้นำที่จริงจัง ใจดีแต่แข็งแกร่ง ใส่ใจประชาชนแต่ก็ดุดันเฉียบขาด และเป็นผู้นำที่โดดเด่นในเวทีโลกไม่แพ้ ปูติน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ และเมื่อวันปีใหม่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็ได้สร้างคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นด้วยวลีที่กินใจว่า

“รางวัลไม่ได้ร่วงหล่นมาจากฟ้า แต่เป็นความวิริยะอุตสาหะต่างหากที่ทำให้ฝันกลายเป็นจริง”

ซึ่งชาวจีนได้ยกย่องว่านี่คือคำกล่าวอวยพรปีใหม่ที่ตราตรึงและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยออกมาจากปากผู้นำจีนเลยก็ว่าได้

ความสู้ชีวิตของจิ้นผิงในการผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบาก เป็นสิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่าประโยคที่เขาพูดออกมานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเท่ ๆ เท่านั้น แต่เขาได้ลงมือทำตามที่พูดจริง ๆ

 

เหล่าผู้นำโลกที่ยิ่งใหญ่ต่างก็เริ่มต้นจากการเป็นชายธรรมดาคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาเหล่านี้มีเหมือนกันคือคติประจำใจ ความมั่นใจในตัวเอง และการไม่ยอมแพ้ เพราะทุกคนบนโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนเคยผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น และเขาเหล่านี้พร้อมที่จะเรียนรู้ความผิดพลาด เพื่อสร้างฝันที่ดูธรรมดาให้เป็นกลายเป็นสิ่งที่พิเศษ ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะช่วยสร้าง passion ให้แก่ชาว UNLOCKMEN ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

 

 

SOURCE1 SOURCE2 SOURCE3 SOURCE4 SOURCE5

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line