Business
พันล้าน สร้างเองได้ “ป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา”
By: Lady P. April 13, 2015 4219
ถ้าหากพูดถึงเงินพันล้าน หลายคนคงคิดว่าชาตินี้ ไม่มีวันจะหาได้ ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์ พี่ป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา CEO แห่งสำนักพิมพ์ Stock2Morrow และ You2Morrow เจ้าของเพจ Piyaphan Make Billion จึงทำให้ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะพันล้านสร้างเองได้ และต้องเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักพี่ป้อมกันก่อน สำหรับใครที่อาจยังไม่เคยได้ยินชื่อพี่ป้อม หรือ Stock2Morrow เรารับรองว่าบทสัมภาษณ์สุด Exclusive นี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดและสร้างแรงบันดาลใจได้มากมาย โดยเฉพาะคนที่กำลังคิดอยากจะลงทุนทำอะไรของตัวเอง มนุษย์เงินเดือนที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ผู้ชายคนนี้จะปลดล๊อคและดึงความกล้าของคุณออกมาจาก Comfort Zone
– พูดถึง Stock2morrow คิดว่ามีหลายคนที่รู้จักอยู่แล้ว แต่อาจมีบางคนยังไม่รู้จักเลยอยากให้พี่ป้อมเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ ว่า Stock2morrow เกิดมาได้อย่างไร
เริ่มแรกพี่ป้อม มีอาชีพเป็นวิศวกร ที่เริ่มสนใจเรื่องการลงทุน และมีเป้าหมายอยากเกษียณตนเองก่อนอายุ 50 -60 ปี เลยหันมาเริ่มเล่นหุ้น ตอนแรกมีได้ มีเสียเยอะ จนเสียเป็นล้าน แต่สุดท้ายจากการศึกษาหาความรู้ด้านการลงทุนอย่างหนัก และมีแนวทางการลงทุนของตัวเองที่ชัดเจน จึงทำให้เงินที่ขาดทุนรีเทิร์นกลับมาได้
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เห็นในสังคมในขณะนั้น คือ สังคมนักลงทุนที่มีคุณภาพ มาพบปะ คุยแลกเปลี่ยน ความรู้เรื่องลงทุนกัน และมองว่าการมีแหล่งศูนย์กลางที่รวมนักลงทุนไว้ด้วยกันเป็นสิ่งที่ดี จึงสร้าง Stock2Morrow ขึ้นมาโดยมีคอนเซ็ปที่ว่า Stock2morrow ศูนย์กลางนักลงทุนรายย่อย
– ตอนแรกที่เปิด Stock2morrow เข้าใจว่าเริ่มจากการเปิดเว็บไซด์ใช่มั้ยค่ะ แรกเริ่มมองว่า Stock2morrow จะเติบโตมาได้ขนาดนี้หรือไม่
ณ วันแรกที่ทำคือ คิดอย่างเดียวว่าอยากจะทำ platform ที่ตอบโจทย์ตัวเอง คือ สร้างสังคม โดยในเว็บไซด์ต้องมีลิงค์ที่รวมช้อมูล หรือโยงเราไปสู่ข้อมูลความรู้ต่างๆ ได้ และเป็น platform ที่เราสามารถเข้ามาดูข้อมูลได้ทุกที่ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน โดยตอนแรกเว็บไซด์ Stock2morrow (S2M) ถือเป็น เว็บบอร์ด และ เว็บท่าสู่การลงทุนต่างๆ
ในตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะโตขนาดนี้ คิดว่าแค่อยากสร้าง platform แต่พอทำไปสักปีหนึ่ง สิ่งที่ได้เป็นฟิตแบคที่ดี คือ เริ่มมีคนมาโพสต์ให้ความรู้ต่างๆมากมายในเว็บบอร์ด และในปีที่สองจึงคิดว่าน่าจะเป็นการดี ถ้ามีทั้ง online-offline ที่เป็นศูนย์กลางช่วยนักลงทุนให้ชนะตลาดได้ (พี่ป้อม ยิ้ม ^^)
– พูดได้ว่า Stock2morrow เป็นจุดรวม Connection ได้เป็นอย่างดี และเคยได้ยินพี่ป้อมพูดว่า การจะทำธุรกิจที่ดีได้นั้น ต้องมี Connection ที่ดีด้วย พี่ป้อมมีการ manage connection อย่างไรบ้างให้ Win Win ค่ะ
(ฮ่าๆ พี่ป้อมหัวเราะ) ก็ชื่อบอกแล้วว่า Win Win จริงๆ ต้องบอกว่าของพี่ป้อมต้อง Win Win Win ด้วยซ้ำ งานที่พี่ดูแลก็จะมีทั้ง Stock2morrow และ You2morrow ใช่มั้ยครับ ที่นี้เราจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนเก่งที่ต้องการถ่ายทอด และ ผู้ที่ต้องการความรู้ และการที่ต้อง WIN WIN WIN ก็คือ
ต้อง WIN ในตัวองค์กรของเราเอง คือถ้าให้พูด S2M ตอนนี้เป็น Social Enterprise แบบ 100% ก่อนหน้านี้มีคนถามว่า S2M เป็นมูลนิธิหรืออะไร ผมบอกว่า ไม่ใช่ เราเป็นองค์กรธุรกิจ และแนวทางของเราต้องการสร้างประโยชน์แก่สังคม โดยที่คนที่ไม่รู้เรื่องอะไร สามารถมาเรียนรู้ได้ คนที่ลงทุนไม่สำเร็จ สามารถมาเรียนรู้และอยู่ในตลาดหุ้นได้ ในสามปีที่ผ่านมาเรามักได้ยินคำว่า Social Enterprise เราก็เข้าใจแล้วว่า อ๋อ เราทำอย่างนี้มานานแล้ว
เราเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ใน S2M ได้ โดยเฉพาะคนที่เก่งๆ นะครับ โดยคำว่า WIN มันมีทั้งในเรื่อง ธุรกิจ และมีทั้งในเรื่อง Target ที่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่เรามีคนเก่งๆ ไม่ใช่ว่าคนเก่งทุกคนจะเข้ามาเป็นผู้ถ่ายทอดใน S2M ได้ แต่ต้องเป็นคนเก่งที่เป็นคนดีด้วย และมี Vision ที่คล้ายกัน หรือเหมือนกันกับองค์กร คือมีแนวทางการเป็นผู้ให้ และมองประโยชน์ของการให้มาก่อน และส่วนอื่นๆ ไม่ได้ติดว่ามันเป็นธุรกิจไม่ได้ เพราะจริงๆ การให้ความรู้ ก็สมควรไม่ใช่หรือครับ กับการที่คนหนึ่งคนมีความเจ๋ง ความดี ความเก่ง เขาให้ไป และสุดท้ายเขาจะได้ค่าตอบแทนที่คนให้รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับเขา ถ้าให้มองภาพตอนนี้ S2M ก็เหมือนกันค่ายเพลง ค่ายแกรมมี่ที่สร้างศิลปินมาออกคอนเสริต ส่วน S2M ก็สร้างไอดอล สร้างผลงานหนังสือ สัมมนา คล้ายๆคอนเสิร์ตเหมือนกัน (ยิ้ม)
เพราะฉะนั้นตรงนี้ ภาพมันชัดขึ้นมาก คือ ถ้าใครมีของ ก็เดินมาหา S2M เค้าก็จะมีความสุขกับการเป็นผู้ให้ พอมาถึงตรงนี้เห็นมั้ยครับมันก็แทบไม่มีปัญหาเลยที่มันจะไปกันไม่ได้ เพราะ S2M ก็เป็นเหมือนที่รวมคนเจ๋งๆ ที่เรามีเวทีให้ เรามีสนามปล่อยของ เราดูแลเค้าตลอด เราไกด์ให้ด้วย จะเขียนหนังสืออย่างไร จะทำสัมมนาอย่างไร
ที่ภูมิใจมากๆนะ (ยิ้ม) คือเราจะไม่มีการ sign contract เพราะฉะนั้นถือความว่าความเจ๋งของเราคือ เราสามารถรวมคนเก่งได้ และเขาก็ไม่ไปไหน เขาอยู่ด้วยใจ โดยที่เราเองก็ open เพราะก็มีบ้างที่บางคนเขียนดังจากสำนักพิมพ์เราแล้วไปเขียนให้สำนักพิมพ์อื่นบ้าง เรา open เพราะเราก็ถือว่าเราเป็นจุดเริ่มต้นของเขาต่างๆเหล่านั้น พอถึงจุดหนึ่งถ้าเขาจะสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มคนที่กว้างกว่า หรือ partner เรา คืออย่างสำนักพิมพ์เรามองว่า แต่ละสำนักพิมพ์มีความท้าทายคือจะทำอย่างไรให้คนอ่านหนังสือให้มากขึ้น เราไม่ได้มองว่าแต่ละสำนักพิมพ์จะต้องแข่งกัน เพราะฉะนั้นมันเป็นการช่วยกัน และนักเขียนเราประสบความสำเร็จจากเรา ไปเขียนบทความอื่น ลงหนังสือพิมพ์ และมีการไปจับรวมเล่ม เราก็ยังเห็นว่าเขาก็เป็นนักเขียนของ S2M อยู่เหมือนกัน และเราก็ยัง WIN ในเชิงที่ผู้อ่านและผู้สัมมนาได้ความรู้ไปต่อยอดอีกครับ
– ขอกลับมาถามเกี่ยวกับด้านลงทุน เข้าใจว่าแต่ก่อนพี่ป้อมทำทั้งงานประจำ กิจการตัวเอง และลงทุนในหุ้นด้วย ดังนั้นก่อนที่พี่ป้อมจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ต้องเจออุปสรรค ความล้มเหลวอย่างไรบ้าง และผ่านมันมาอย่างไร
ตอนแรกต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกมากเลย ที่ทำ 3 อย่างพร้อมกันในตอนนั้น พี่ป้อมมีความเชื่อว่า คนเรามีศักยภาพที่มี 100% แต่คนที่เอามันมาใช้ มีแค่ส่วนน้อย คือแค่ 5%-10% ของศักยภาพทั้งหมดเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าคนไม่มีแรงกดดัน มีความอิสระ มีความสบาย อยู่ใน Comfort Zone เรื่อยๆ มันก็จะไม่มีการนำเอาศักยภาพต่างๆมาใช้ ดังนั้นการทำสามอย่างพร้อมกันของพี่ป้อม มันเป็นการดึงศักยภาพของตัวเองมาทำอะไรให้ได้มากขึ้น
ที่นี้ถามว่า ถ้าคุณทำ 3 อย่างพร้อมกัน แต่คุณไม่ได้วาง inflastructure อะไรให้ตัวคุณเอง มันก็ตายเหมือนกันนะ ตอนนั้นก็เลยมีการตัดสินใจครั้งใหญ่ คือ ซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้ออฟฟิศ เพราะฉะนั้นตอนเช้าก็ใช้เวลาเดินทางแค่ห้า ถึง สิบนาทีไปทำงาน วิธีนี้เรียกว่าเป็นเรื่องของการ จัดการบริหารเวลา เพื่อให้ได้เวลาเพิ่มเป็น 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งบางคนอาจไม่มีและต้องเสียเวลากับรถติด
เพราะฉะนั้น ตอนเช้าเราก็จะทำธุรกิจของตัวเองได้ ก็คือ การทำเว็บไซด์ Stock2Morrow คือคนอื่นอาจตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันรีบไปทำงาน ส่วนพี่ป้อมตื่นมาลงจากเตียง เปิดคอมดูเว็บไซด์ทำคอนเท้นซ์ แต่แปรงฟันนะครับหลังจากนั้น (ยิ้ม ฮาา)
พอไปถึงออฟฟิศ ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ก็ทำงานสร้างผลงานให้องค์กรเขายอมรับ ตอนเที่ยง คนอื่นอาจจะ เฮ้ย กินข้าวกัน พี่ป้อมก็เดินกลับคอนโด กลับมาดูเว็บไซด์ของตัวเอง ส่วนตอนเย็น ถ้าไม่มีอะไรก็เปิดคอม ดูเว็บไซด์ของตัวเองเช่นกัน
– อ้าว แล้วตอนนั้นพี่ป้อมมีทีมมั้ยคะ
ทำคนเดียวเลยครับ ทำคนเดียวมาเกือบห้าปี และไม่มีรีเทิร์นเท่าไร ก็ทำด้วยความมันส์ ซึ่งสุดท้ายมีคนถามว่าเราทำได้ไง ต้องบอกเลยว่ามันเป็น PASSION เป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ไม่ได้อะไรก็ทำเพราะมีความสุข
– แล้วตอนที่ทำมา 5 ปี แล้วไม่ค่อยได้ฟิตแบคอะไร ต้องถามว่ามีช่วงที่ท้อมั้ยค่ะ แล้วทำอย่างไรบ้าง
คือ มันมีปัญหาเข้ามาตลอด อย่างเช่น ปีแรก ชื่อก็ไม่ใช่ชื่อนี้ แต่ไม่ขอบอก (hahah) แล้วตอนนั้นเว็บไซด์ ดันมีชื่อที่ไปติดลิขสิทธิ์กับชื่ออื่นจนสุดท้ายทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็น Stock2morrow อย่างทุกวันนี้ แต่นับว่ากลับเป็นชื่อที่ดีเลยทีเดียว
ส่วนท้อมันอาจจะมีบ้าง ในวันที่งานประจำเครียด กิจการตัวเองเครียด หุ้นก็ตก แต่ก็ไม่เคย ท้อไม่ทำแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่มีครับ
– จุดพลิกผันที่สุดในชีวิตของพี่ป้อม
ให้เครดิตคุณแม่กับพี่สาว อย่างที่เขียนในหนังสือพันล้านสร้างเองได้ คือคุณแม่เสียด้วยโรคหัวใจที่กระทันหันมาก ผมคิดว่าถ้าใครเคยผ่านฟิลนี้ มันคือที่สุดของที่สุด ยังมีอะไรที่ต้องคุยกับแม่อีกมากมาย แต่ไม่มีอีกแล้ว ตัวผมเองก็เป็นคนบ้างาน ต้องบอกว่าที่ทำงานทุกอย่างก็เพื่อแม่ แต่ตอนนั้นไม่มีแม่อีกแล้วเหมือนชีวิตโดนถอดปลั๊ก
คนเรามักคิดอะไรไกลๆ ว่าอีกห้าปีนะ เดี่ยวจะซื้อบ้านให้แม่ อีกห้าปีนะ เดี่ยวจะซื้อบ้านใหญ่ๆ เราไปวางอนาคตไว้ไกลมาก และมาถึงวันที่แม่เสียไป แล้วไงอะครับ (หน้าเศร้า) เพราฉะนั้น จึงเป็นความเชื่อที่เราจะต้องไปเจอแม่บนสวรรค์ เป็นความเชื่อว่าแม่เป็นคนดีนะ จึงทำให้เป็นแนวความคิดหลังจากนั้นมากว่า เราต้องเป็นคนดี
การเป็นคนดี ไม่จำเป็นต้องเป็นการทำบุญกับวัด อย่างหล่อพระอย่างเดียว แต่พี่คิดว่าการทำดี เป็นการทำบุญกับคนก็ได้ พอเราคิดว่าเราอยากทำบุญกับคน วิถีชีวิตมันเปลี่ยนทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการให้โอกาสคน การช่วยเหลือคน การดูแลบริวาร การดูแลพนักงาน การทำธุรกิจ
ปัญหาของคนเราส่วนหนึ่งคือ ฉันไม่อยากเสียเปรียบใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนกับเพื่อน เจ้านายลูกน้อง บริษัทและบริษัท แต่พอเรานึกถึงเรื่องบุญปุ๊ป เราก็จะ ไม่เป็นไร เราทำบุญ เรื่องนี้มันเลยกลายเป็นจุดเปลี่ยน พอเราคิดว่าเราทำบุญปั๊ป ความสำเร็จมันมาเอง
– มาพูดถึงหนังสือเล่มล่าสุดบ้าง สำหรับหนังสือ พันล้าน สร้างเองได้ ที่พูดถึง Self Made และกล่องพันล้าน มันมาจากอะไรคะ
พูดถึง Self Made ก็คือ คนที่เกิดมาไม่ได้รวย ไม่มีต้นทุน แต่มันคือต้นทุนชีวิตของคุณ เพราะ Self Made จะไม่มีคำว่า เกิดมา ต้นทุนไม่ดี แต่มันคือความโชคดี ที่คุณไม่มีอะไร เพราะต่อไปคุณจะสร้างมันเอง และความสำเร็จหลังจากนี้ คือความสำเร็จของคุณที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
ส่วนตัวกล่องพันล้าน พี่ป้อมคิดขึ้นมาโดยให้ความสัมพันธ์ระหว่างอาชีพและการลงทุน เราจะเก่งยังไงก็ตาม เราก็สามารถทำอาชีพตามความเก่งของเรา แต่ถ้าเราต่อยอดเข้าใจในการลงทุนด้วย เงินจะทำงานให้เรา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น คอนโด หรือ Start up นอกจากอาชีพที่คุณทำแล้ว อยากให้สนใจการลงทุนต่อยอดเพื่ออิสรภาพทางการเงินด้วย
– ไหนๆก็พูดถึงการลงทุนแล้ว ในทุกปีจะมีนักลงทุนมือใหม่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นมากมาย อยากให้พี่ป้อมฝากอะไรกับนักลงทุนหน่อยค่ะ
สำหรับมือใหม่ที่พี่ป้อมเห็น จะมีอยู่ 2 กรณี หนึ่งคือมองว่าตลาดหุ้นยากมากจนไม่อยากเข้ามาศึกษา กับอีกกลุ่มที่มองว่าตลาดหุ้นง่ายมาก หมูมากและรวยง่าย
ก็เอาอย่างนี้ดีกว่า คืออยากบอกว่าการเล่นหุ้น มันไม่ง่ายหรอก ไม่งั้นเขาก็รวยกันหมดแล้ว แต่มันก็ไม่ยากเกินศึกษา ถ้าเราพร้อมที่จะศึกษา ถึงวันหนึ่งที่คุณเข้าใจมันและเข้าใจตนเองคุณก็จะมั่งคั่งได้
ส่วนคนที่คิดว่าเล่นหุ้นง่าย ลองให้อยู่ในตลาดให้ได้สัก 2-3 ปีก่อนดีกว่ามั้ย ก่อนที่จะสรุปว่าหุ้นเป็นเรื่องง่าย การลงทุนหุ้นมันไม่ได้วัดที่ผลกำไรวันต่อวัน เดือนต่อเดือน มันวัดกันที่ว่าพอร์ตการลงทุน สองสามปี อีกสิบปีมันโตเท่าไร
ก็อยากให้คนที่มองทั้งยากและง่าย อย่าพึ่งตัดสินแต่อยากให้เริ่มศึกษามากๆตั้งแต่วันนี้
– คำถามที่ UNLOCKMEN ไม่พลาดเลย คือประสบการณ์ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงของพี่ป้อมเป็นไงค่ะ
(โอ้โห้ โฮ่ๆๆๆๆ ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง พี่ป้อมฮาา) ที่สุดในชีวิตหรือ ฮื้ออ คงต้องย้อนไปช่วงจบใหม่ๆ สาย engineering คือเค้ากินดื่มกันหนัก ข้ามวันข้ามคืนสามวันติด แต่ตอนนั้นยังหนุ่มๆไง เลยกินดึก ตื่นเช้ามายังไหวคือใช้ชีวิตแบบนั้นมาเป็นปี ก็น่าจะประมาณนั้นครับ (ยิ้ม)
– อยากถามเรื่องความรักด้วยค่ะ อย่างพี่ป้อมเป็น CEO ย่อมต้องมีสาวๆ อยากเข้าหาเยอะ มีวิธีบริหารสเน่ห์อย่างไร
(ฮ่าๆๆๆๆ) ต้องบอกว่า ความสำเร็จส่วนหนึ่งคือได้มาจากเมีย บอกเลยว่าไม่มีการบริหารสเน่ห์ครับ เพราะส่วนตัวรักเมียมาก พอรักเมียมากก็จะไม่ว๊อกแว๊ก คือมันเป็นเรื่องดีนะครับ ถ้าเราโฟกัสกับสิ่งที่คุณต้องโฟกัสแล้วเนี้ยะ เอาสมองไปคิดเรื่องอื่นมันจะเกิดประโยชน์อีกมาก เพราะฉะนั้น ถ้าหลังบ้านนิ่งแล้ว เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือ พาเมียไปเที่ยว ไปซื้อกระเป๋า (ยิ้ม อิอิ) ชีวิตมันสนุกกว่าที่ได้หาอะไรอย่างอื่นทำครับ
– ท้ายนี้ อยากให้พี่ป้อมแนะนำข้อคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยคะ
ผมอยากให้เชื่อว่า ศักยภาพ ของทุกคนมีมากกว่าที่คุณกำลังใช้อยู่ พยายามเอาออกมาเหอะ อย่าเอาตัวเองไปอยู่ใน comfort zone โดยอย่าลืมและให้เข้าใจความหมายของคำว่า “Balance” และคำว่า “รวย” ให้ชัดเจน
ใช้ศักยภาพ ใช้ชีวิต และ Balanceให้เป็น –> ส่วนถ้ารวยแล้ว ก็ต้องใช้ชีวิตให้เป็น รู้จักใช้เงินให้มีความสุขบ้างไม่ใช่เก็บอยากเดียว ไม่กล้าใช้เงิน และที่สำคัญ การจ่าย ก็ต้องจ่ายให้น้อยกว่ารายรับ ถึงจะรวย
WORK HARD PLAY HARDER ครับ
บทสัมภาษณ์โดย งงหุ้น