FASHION

ความรักที่สวมไว้บนข้อมือ คุยกับ “ป๊อก-อุกฤษณ์ วนโกสุม”เรื่องความหลงใหลในนาฬิกา

By: SPLESS October 15, 2019

มีเรื่องราวมากมายและสิ่งของหลายชนิดบนโลกที่ผู้ชายอย่างเราหลงใหล คลั่งไคล้ กล้าทุ่มเททั้งชีวิตให้ ตั้งแต่ของชิ้นใหญ่อย่างบ้านดีไซน์ในฝัน ซูเปอร์คาร์คันงาม หรือไอเทมในชีวิตประจำวันอย่างเสื้อผ้า รวมถึงนาฬิกาข้อมือที่มีมากมายหลายรูปแบบให้เลือกสรรตามรสนิยมเฉพาะตัว

ถ้าพูดถึงนาฬิกาข้อมือ หนุ่ม ๆ หลายคนคงให้ความสำคัญกับไอเทมชิ้นนี้อยู่แล้วไม่มากก็น้อยเพราะคาดเพื่อใช้งานกันเป็นประจำ แต่ด้วยขนาดที่เล็กรัดรอบข้อมืออาจทำให้หลายคนมองข้ามรายละเอียดของมันไป ทว่าสำหรับคุณป๊อก – อุกฤษณ์ วนโกสุม ความหลงใหลด้านการสะสมและสวมใส่นาฬิกาของเขาเทียบได้กับลมหายใจ เพราะไม่มีเวลาไหนที่ชายคนนี้ไม่มีเรื่องของนาฬิกาอยู่ในหัว แต่อะไรจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสนใจค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับนาฬิกาเพื่อให้ตัวเองจดจำได้ไม่รู้เบื่อ มาฟังคำตอบจากเขาไปพร้อมกัน

แนะนำตัวเองหน่อยครับ ตอนนี้ทำอะไรอยู่ครับ ?

สวัสดีครับ ผมป๊อก – อุกฤษณ์ วนโกสุม ตอนนี้เป็นรองกรรมการผู้จัดการ เค.ดับบลิว เม็ททัลเวิร์ค จำกัดมหาชนแล้วก็เป็นเจ้าของบล็อกเกี่ยวกับนาฬิกาที่ชื่อ LWQP ครับผม

เส้นทางความชอบนาฬิกาของคุณป๊อกมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเริ่มต้นได้ยังไง ?

เรียกว่าชอบมาตั้งแต่เด็กเลยก็ได้ครับ ผมคิดว่าตัวเองชอบนาฬิกาผ่านทางกรรมพันธุ์มาเลย เพราะได้รับอิทธิพลจากคนใกล้ตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก คุณแม่เล่าให้ฟังว่าอากงเป็นคนที่มีความชอบเรื่องนาฬิกามาก ๆ เขาจะมีนาฬิกาเรือนที่รักมานั่งปัดเช็ดตลอดเวลา แม้ก่อนที่อากงเสียก็ยังพูดถึงเรื่องนาฬิกาของพี่ชายอยู่เลย จนมันถูกส่งต่อมาถึงผม

คุณพ่อก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผมชอบนาฬิกาเหมือนกัน จำได้เลยว่านาฬิกาเรือนแรกที่ผมใส่เป็นนาฬิกาที่คุณพ่อไปที่เยอรมนีแล้วซื้อมาให้ เรือนนั้นเป็นนาฬิกา Quartz หน้าปัดสีขาวมีธงชาติอยู่ตรงหลักชั่วโมง ผมชอบใส่มาก ใส่จนมันพังเพราะว่าเราไปขี่จักรยานแล้วชนกำแพง แต่ที่น่าประทับใจอีกเรื่องคือ หลังจากนั้นประมาณอีก 10 กว่าปี ผมมีโอกาสไปศึกษาต่อที่เยอรมัน ในปีแรกผมก็เดินเข้าไปซื้อเครื่องคิดเลข มันก็มีนาฬิการูปแบบเดียวกันขายอยู่ที่เยอรมัน ตอนนั้นก็ดีใจที่ได้เจอ แต่เสียใจที่ไม่ได้ซื้อกลับมาเพราะว่ามันน่าจะเป็นความทรงจำที่ดี ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงซื้อกลับมา

เริ่มต้นซื้อเพื่อตอบโจทย์ความชอบของตัวเองตั้งแต่ตอนไหน ?

จริง ๆ ใช้คำว่าเริ่มต้นมาเรื่อย ๆ ครับ ผมเป็นคนที่เวลาไปไหนแล้วจะชอบดูว่าคนที่นั่นใส่นาฬิกาอะไร นาฬิกาเรือนแรกในชีวิตที่ซื้อก็คงเป็นนาฬิกา Swatch ตอนนั้นเราไปศึกษาต่อที่เยอรมนีแล้วก็ได้ไปเห็น Swatch เรือนหนึ่งเลยตัดสินใจซื้อมาใช้ มันเป็นนาฬิกาที่รู้สึกว่าใส่ง่ายสำหรับตอนนั้น แล้วเราก็เริ่มมีความสนใจมากขึ้นและอยากศึกษามากขึ้น

จนไปมีนาฬิกาที่คุณพ่อให้เป็นตัว Breguet ครับ ตอนนั้นเรากลับมาเมืองไทยคุณพ่อก็ถามว่าอยากได้นาฬิกาสักเรือนไหม เพราะท่านรู้ว่าเราชอบ เราก็เริ่มศึกษาว่าจะซื้อนาฬิกาอะไรดี ก็ค้นพบว่าเรือน Breguet Type XXI นั้นมีความสวยงามและมีความเข้ากับข้อมือเรา เรือนนั้นก็จะเป็นเรือนที่เรามีความทรงจำที่ดีว่าเป็นเรือนแรกที่เราใส่มันค่อนข้างนาน หลังจากนั้นก็ใช้เวลาในการศึกษาและสะสมเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาครับ

อะไรที่เป็นสาเหตุของความชอบ ทำไมถึงเริ่มสะสมนาฬิกาเพิ่มมากขึ้น ?

สำหรับผมเริ่มชอบนาฬิกาเพราะว่า ผู้ชายมันไม่ได้มีเครื่องแต่งตัวอะไรมากมาย ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเสื้อผ้า แต่ในเรื่องของนาฬิกากลับให้ความสนใจกันน้อยกว่า ไม่เหมือนท่านสุภาพสตรีที่มีไอเทมเยอะมาก ผมมองว่านาฬิกาเป็นส่วนหนึ่ง จุดหนึ่งที่จะบ่งบอกถึงรสนิยมความชอบของตัวเอง รวมถึงจุดยืนบางอย่างของเรา ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นคนชอบขับรถก็อาจจะเป็นนาฬิกาที่เป็นนาฬิกาจับเวลา หรือว่าถ้าเป็นคนที่ชอบดำน้ำก็อยากได้นาฬิกาที่ถึกทนและดำน้ำได้หรือมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการดำน้ำ ผมว่าจริง ๆ ตรงนี้มันเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจ ที่ทำให้ปัจจุบันมันก็เป็นจุดเด่นของนาฬิกาที่ทำให้คนเลือกสะสม แทนการซื้อมาเพื่อใช้งานดูเวลาเพียงแค่อย่างเดียว

พูดถึงการศึกษาข้อมูล จุดเริ่มต้นตอนที่เริ่มศึกษาแรก ๆ กับตอนนี้มีความยาก ความง่ายต่างกันแค่ไหน ?

สำหรับตัวผมแล้วนาฬิกามันเกิดจากกลไก มันเลยจะเป็นอะไรที่ไม่ได้มีการต่อยอดเรื่องของนวัตกรรมการผลิตที่เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ แต่จะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนวัสดุผลิตมากกว่า ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่เราทำบล็อกก็จะเขียนในเรื่องของกลไกครับ เพราะว่าทุกอย่างมันใหม่สำหรับเรามากตอนที่ทำขึ้นมา ส่วนในปัจจุบันมันจะยากขึ้นเพราะว่าเทคโนโลยีใหม่เป็นเรื่องของวัสดุ แต่ก็เรียกได้ว่าผมยังโชคดีที่ดันเรียนมาตรงสาย เพราะเรียนวิศวกรรมด้านวัสดุศาสตร์โดยเฉพาะ ก็เลยสามารถเขียนอธิบายเรื่องของวัสดุต่าง ๆ  รวมถึงการเลือกซื้อสินค้า เลือกซื้อนาฬิกาที่มีเรื่องราวของวัสดุศาสตร์แทรกเข้าไปได้ด้วยครับ

ทราบมาว่าเขียนบล๊อกนาฬิกาจนแบรนด์ให้ชมการผลิตนาฬิกาถึงโรงงานทั้งที่เป็นข้อมูลความลับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง

โอกาสดีตรงนั้นคงต้องขอบคุณจังหวะชีวิตเราด้วยครับ ที่เกิดความรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรบางอย่าง คิดว่าหยิบเรื่องนาฬิกาขึ้นมาเขียนแล้วก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี ประกอบกับตอนนั้นเราอยู่ที่ยุโรป การไปหาโรงงานมันเป็นแค่ขับรถไปหรือนั่งรถไฟไปไม่นานซึ่งเราก็จะไปเริ่มจากโรงงานเล็ก ๆ ก่อน เพราะถ้าเป็นโรงงานใหญ่ ๆ เขาก็อาจจะถามว่าคุณจะเข้ามาทำไม เข้ามาดูแล้วได้อะไร เพราะว่าบางที่ก็จะมีความลับ มันเริ่มจากมีโรงงานเล็ก ๆ ให้เราไปชมก่อน จนถึงจุดหนึ่งที่เรามีคอนเทนต์มากพอ เรามีคนที่ตามอ่านเรามากพอ เราได้พาร์ทเนอร์ที่มีคุณภาพคอยซัพพอร์ตเรา แล้วก็ได้รับความไว้วางใจจากคนในแบรนด์จนสามารถเข้าไปในโรงงานที่เรียกได้ว่า เป็นโรงงานระดับท็อปของโลกได้ ในมุมมองที่เป็นคนทำคอนเทนต์และนักสะสมนาฬิกา ผมว่ามันเป็นจุดที่ผมต้องขอบคุณคนที่สนับสนุนทุกคนที่อยู่ด้านหลัง ถ้าไม่มีคนเหล่านั้นคอยมั่นใจในตัวของผมมันจะไม่มีโอกาสนี้เลย

ฟังดูเป็นสเตปที่ค่อย ๆ โตขึ้น มันเหมือนง่ายมาก แต่จริง ๆ แล้วมันมีอุปสรรคอะไรบางอย่างระหว่างที่ลงมือทำบ้าง ?

ถ้าฟังอาจมองได้ว่าเรามาถึงจุดนี้ง่าย แต่ที่จริงแล้วมันไม่ง่ายครับ 3 ปีแรกเป็นไรที่ท้าทายมากกับการที่เราจะพิสูจน์ตัวเองขึ้นมา เรื่องการนำเสนอคอนเทนต์เกี่ยวกับนาฬิกา ประสบการณ์ที่แย่ ๆ ก็มี เช่น มีคนเขาไม่ได้เข้าใจจุดประสงค์ของเรา ไม่เห็นด้วย ซึ่งเราก็ได้นำตรงนั้นมาเปลี่ยนเป็นแรกผลักดัน  มัน เส้นทางตรงนี้มันไม่ได้ไต่ขึ้นมาแล้วถึงจุดจุดที่เราพอใจได้เลย แน่นอนต้องมีคนว่าเราว่าทำไปทำไมจะปั่นกระแสตลาดรึเปล่าถ้าจุดประสงค์ของเราไม่ชัดเจน ตลาดไทยอาจรู้ว่ามันมีคนทำคอนเทนต์ตรงนี้อยู่ แต่ผมเชื่อว่าเวลามันก็จะเป็นตัวพิสูจน์เองว่า เราทำสิ่งที่เราชอบและเราก็ให้อะไรกับสังคมกลับไปซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน แต่สำหรับผมการที่เราได้ทำในสิ่งที่รักตลอด มันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก  ถ้าเปรียบกับชีวิตก็คงเรียกว่าเรามีลูกและเลี้ยงเขาจนโต ความสุขตรงนี้มันทำให้คิดว่าเราจะเลี้ยงเขาต่อไปให้โตขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ

ทำคอนเทนต์ทางด้านนี้มานาน มีวิธีแนะนำนาฬิกาให้คนอื่นยังไงบ้าง ?

บางครั้งมันอาจเกิดขึ้นเพราะว่าช่วงนั้นผมกำลังชอบเรือนไหนหรือผมซื้อมา ลองไปอ่านรีวิวของผมได้ มันก็เหมือนให้เขาได้ไปต่อยอดความรู้หาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมครับ จะเป็นอย่างนั้นมากกว่า คืออยู่ดี ๆ เราจะไปแนะนำนาฬิกาที่เราไม่เคยจับเลยหรือไม่เคยครอบครองเลยนี่มันก็อาจจะเป็นไปได้ยาก เราจะไม่โน้มน้าวให้คนต้องมาชอบในสิ่งที่เราชอบ แต่ว่าเราก็นำเสนอในสิ่งที่เราชอบ ส่วนเขาชอบหรือไม่ชอบยังไง ให้การอ่าน การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและความคิดของเขาเป็นตัวตัดสินใจเอง

สะสมมาเป็นระยะเวลากี่ปีแล้วตอนนี้มีนาฬิกาอะไรในคอลเลกชันบ้างครับ ?

ถ้านับปีคงจะบอกได้ยาก จริง ๆ ถ้าเริ่มสะสมน่าจะเป็นหลัก 10 ปีเลยครับ ต้องบอกไว้ก่อนผมไม่ได้สะสมเฉพาะนาฬิกาที่เป็นไฮเอนด์เท่านั้น เพราะผมเลือกสะสมทุกรูปแบบ แต่ช่วงหลังมามันเริ่มสะสมยากขึ้น ตอนนี้เรามาอยู่ในจุดที่ผ่านข้อมูลมาเยอะ และรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่น่าจะมีความยุ่งยากในการเลือกสะสมมากกว่าทั่วไป  เพราะว่าเราพิจารณาจากหลายจุด ในส่วนที่มีในคอลเลกชันทั้งหมดก็ตีประมาณเป็นหลักสิบเรือน อาจจะไม่ได้เทียบเท่านักสะสมระดับกูรูที่มีเป็นร้อยเป็นพันเรือน แต่ก็อย่างที่ว่าเพราะเราอยู่ในจุดที่เลือกมาสะสมยากหน่อยครับ

ยกตัวอย่างนาฬิกาเรือนล่าสุดที่ซื้อมาหน่อยครับ เรามีเหตุผลอะไรที่ใช้เลือกซื้อบ้าง ?

สำหรับกลุ่มล่าสุดของผมจะมี  Omega Speedmaster Speedy Tuesday 2 “Ultraman” เป็นเรือนที่ทำมาพิเศษซึ่งจะเป็นรุ่นที่มีลักษณะคล้ายกับนาฬิกาจับเวลาที่อยู่ในซีรีส์ Ultraman ในอดีตตัวนั้นจะเป็นเรือนที่ค่อนข้างจะหายากเพราะทาง Omega ปล่อยให้จองทางออนไลน์เท่านั้น เรือนที่ 2 ที่ซื้อจะเป็น TUDOR Black Bay GMT เป็นอีกเรือนหนึ่งที่ชอบมาก  ๆ ในเรื่องของราคาและคุณภาพ ส่วนเรือนที่ 3 คือ Swatch Mirror Spot Mickey ซึ่งตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่ประทับใจมากที่สุด เพราะหายากและมีความต้องการทางตลาดสูง จริง ๆ แล้วเรือนนี้ในไทยมีน้อยมาก เพราะถ้าจะซื้อไม่สามารถซื้อผ่าน Online Store ในบ้านเราได้

คนส่วนใหญ่เลือกสะสมนาฬิกาจากความหลงใหลและเรื่องของมูลค่า ช่วยเล่าเรื่องการสะสมนาฬิกาแต่ละรูปแบบของตัวเองให้ฟังหน่อยครับ ?

สำหรับตัวผมแบ่งคอลเลกชันออกเป็นทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน คือกลุ่มที่หนึ่งจะเป็นในเรื่องของ Passion นาฬิกาในกลุ่มนี้จะเป็นนาฬิกาที่ผมชอบเป็นส่วนตัวและเลือกด้วยพื้นฐานด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง กลุ่มต่อมาเป็นกลุ่มของ Investment คือการซื้อมาเพื่อคาดหวังผลกำไรในอนาคต กลุ่มหวังผลกำไรในอนาคตอาจไม่ใช่นาฬิกาที่เราชื่นชอบมากที่สุด กลุ่มต่อมาเรียกง่าย ๆ ว่าเป็น Emotions เป็นนาฬิกาที่เรียกได้ว่า มีความผูกพัน มีประวัติศาสตร์และเรื่องราว อย่างเช่นนาฬิกา Seiko ที่สมัยเด็กคุณพ่อซื้อให้ ตัวนี้เป็นเรือนที่เรียกได้ว่าใช้ทนมาก ถ้าดูก็จะเห็นรอยเต็มไปหมด

หรือจะเป็น Rolex Datejust อันนี้เป็นรุ่นยอดนิยมในสมัยรุ่นคุณพ่อ เพราะมีความเป็น 2 กษัตริย์ในตัว มันไม่ใช่นาฬิกาที่ทำจากวัสดุสเตนเลสเพียงอย่างเดียว เมื่อก่อนคนจะชอบให้มีทองมาผสมอยู่ด้วย เพราะรู้สึกว่าถ้าใส่แล้วมีทองมันจะมีมูลค่า จริง ๆ มันเป็นเรือนที่สองในชีวิตของคุณพ่อเลย ส่วนเรือนแรกที่คุณพ่อซื้อเอาไปขายเพื่อจะเอาไปทำธุรกิจ พอธุรกิจสร้างขึ้นมาก็ค่อยซื้อเรือนนี้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจว่าถึงการประสบความสำเร็จของชีวิตขั้นแรก แล้วคุณพ่อก็ได้ส่งต่อมาให้ผม เรือนนี้สำหรับผมเรียกได้ว่าหาค่าไม่ได้ครับ

ซ้ายสุด : TUDOR Black Bay GMT

ยกตัวอย่างนาฬิกาสำหรับ Investment ในคอลเลกชันให้ชมหน่อยครับ

ถ้าพูดถึง Investment บางคนที่ซื้อ-ขายนาฬิกามักจะเข้าใจว่า การลงทุนนาฬิกาจะต้องลงทุนเฉพาะแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ตลาดเท่านั้น ซึ่งถามว่าผิดไหมไม่ผิดครับ แต่ว่าจริง ๆ การลงทุนกับนาฬิกาเราสามารถลงทุนได้หลายระดับ ยกตัวอย่างกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มท็อปคือพวก Rolex, Patek Philippe และที่อยู่บนข้อมือคือ Audemars Piguet  หรือว่าจะเป็น Swatch “Mickey Mouse” (Swatch Mirror Spot Mickey) ที่มีความพิเศษตรงทำออกมาน้อย ทำให้ราคาพุ่งไปประมาณ 5 เท่าตัวในช่วงระยะเวลาอันสั้น

ถ้าวัดว่านาฬิการุ่นไหนลงทุนแล้วประสบความสำเร็จ ผมอาจไม่ได้พูดถึงเรื่องเม็ดเงิน เพราะว่าการลงทุนมันพูดถึงเรื่องเปอร์เซ็นต์มากกว่า ถ้าอย่างเปอร์เซ็นต์ที่สูงสุดที่เห็นได้ชัดเจนคือ Jaeger LeCoultre รุ่น Grande Reverso ตอนที่ซื้อมามีเพียงแค่ 26 เรือนในโลกเท่านั้น แต่หลังจากผ่านศุลกากรเรียบร้อยแล้วทางแบรนด์ได้ติดต่อขอซื้อคืนเพราะมีลูกค้ารายใหญ่อยากจะซื้อกลับในราคา 5 หมื่นดอลลาร์ ถ้าเปรียบเทียบจากราคาสามแสนกว่าบาทมาเป็นล้านห้า มันก็คือการเพิ่มขึ้นมา 5 เท่าตัว แต่ก็อย่างที่ว่าความรักมันประเมินไม่ได้ เรือนนี้ผมเลยปฏิเสธข้อเสนอนั้นไป

Jaeger LeCoultre : Grande Reverso

ยกตัวอย่างเรือนที่เลือกสะสมด้วย Passion ให้เราชมกันบ้าง

ตัวแรกเลยอย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ครับกับ Jaeger LeCoultre รุ่น Grande Reverso ปี 1931 ที่เป็น London Limited Edition ซึ่งเปิดตัวในปี 2015 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากสมัยก่อนนาฬิการูปแบบนี้ ถูกออกแบบมาสำหรับลดปัญหาของนักโปโลที่ใส่นาฬิกาไปแล้วกระจกแตก โดยสามารถพลิกหน้าปัดกลับมาอีกด้านเพื่อให้ป้องกันไม่ให้หน้าปัดแตกได้ ต่อมาเป็นเรือนที่เรียกได้ว่าน่าจะชอบไม่แพ้กัน เป็นนาฬิกาเยอรมันอย่าง A. Lange & Söhne รุ่น Lange 1 ตัวนี้เป็น 1 ใน 4 รุ่นแรกที่แบรนด์เลือกเปิดตัวปี 1994 เรียกได้ว่าเป็น Iconic ของแบรนด์เลย กลุ่มต่อมาจะเข้าถึงง่ายมากขึ้น อย่างนาฬิกาที่มีความฝังใจแต่เด็กนั่นก็คือ Seiko ซึ่งพอโตขึ้นเราก็ติดตามข่าวสารอยู่เสมอเราเลยเลือกที่จะซื้อ Black Series ของ Seiko ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 เรือนในคอลเลกชันครับ

การมีแบรนด์รอยัลตี้ที่ชัดเจนเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนที่ชอบเล่นหรือสะสมนาฬิกาหรือเปล่า ?

จริง ๆ เรื่องแบรนด์รอยัลตี้ที่ชัดเจนก็มีครับ เช่นสำหรับหลาย ๆ คนก็จะสะสมเป็นกลุ่มประเภทนาฬิกา Chronograph หรือบางคนสะสมแค่แบรนด์เดียวเท่านั้น ซึ่งสำหรับตัวผมคิดว่า สมมุติว่าแบรนด์นั้นมีอายุร้อยปี เราไล่ตามจากปัจจุบันไปร้อยปีก็น่าจะเก็บไม่หมด จริง ๆ การสะสมนาฬิกาเป็นความหลากหลายครับ แต่อย่างที่ผมได้บอกไปว่าเราก็แบ่งตามความหลงใหลหรือในด้านการลงทุนไป เพราะฉะนั้นถ้าเป็นกลุ่ม Investment ความหลากหลายมันจะไม่สูง แต่เรื่อง Passion ความชอบมันมีความหลากหลายสูงกว่า แต่ละเรือนก็ไม่ใช่เรือนที่เราจะซื้อมาเลยในทันที เพราะว่ามันจะต้องศึกษาก่อนซึ่งสำหรับผมมันเป็นความสนุกที่เราได้ศึกษาครับ ถ้าซื้อตามเทรนด์หรือว่าคาดหวังผลกำไรอย่างเดียว ผมว่ามันอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ความรู้สึกของตัวผมเอง

Seiko : Black Series

คิดว่าตัวเองจะมีความสุขไปกับนาฬิกาแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ?

ถ้าเกิดนับมาถึงปัจจุบันตัวบล็อกที่ผมทำก็มีอายุได้จะหกปี ถ้าเป็นเด็กก็น่าจะ ป.1 แล้ว ก็ผ่านอะไรมากมายเหมือนกัน มันผ่านจุดที่เราอยากเลิกไปแล้ว เพราะว่าการทำอะไรที่มันไม่ได้ตอบโจทย์ความรู้สึกตัวเอง สำหรับผมเชื่อเลยว่าสามปีแรกเป็นอะไรที่ยากที่สุด เป็นอะไรที่ท้าทายที่สุด แต่การที่เราก้าวข้ามมาได้แสดงว่ามันเป็นสิ่งที่มันบ่งบอกว่าเราหลงใหลมันจริง ๆ ตัวเราเองดีใจที่ทำมาได้ถึงทุกวันนี้และมั่นใจว่าจะอยู่กับมันไปได้ตลอดแน่นอนครับ

แน่นอนว่าความหลงใหลในเรื่องราวและสิ่งของต่าง ๆ อาจมีผลมาจากสภาพแวดล้อมรอบตัว หรือได้รับอิทธิพลมาจากคนใกล้ชิดในวินาทีแรกที่เริ่มทำความรู้จัก แต่ความหลงใหลเหล่านั้นจะไม่มีพลังอะไรเลย ถ้าหากขาดการต่อยอดในการหาความรู้และไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองรัก ซึ่งคุณป๊อก – อุกฤษณ์ วนโกสุม ก็เข้าใจถึงจุดนี้ดีและไม่เคยหยุดตัวเองในการทำความรู้จักเรื่องราวใหม่ ๆ ของนาฬิกาที่มีมากมายบนโลก และแน่นอนเหมือนกับคำตอบสุดท้ายของเขา ว่าจะอยู่กับสิ่งที่ตัวเองหลงใหลไปตลอดเพราะมันคือสิ่งที่สร้างความสุขให้ชีวิตในทุก ๆ วัน

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line