POMODORO TECHNIQUE กฏการเคลียร์งาน 25 นาทีจบ ที่จะช่วยให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล

เป็นสถานการณ์สุดฮิตที่เหล่าคนทำงานอย่างเรา ๆ คุ้นชินเป็นประจำ หรือถ้าว่ากันตามตรงก็เป็นกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลนั่นแหละ

การผัดวันประกันพรุ่งอาจยังไม่เคยส่งผลกระทบกับใครจัง ๆ แรง ๆ เพราะว่ากันว่าคนผัดวันประกันพรุ่งเนื้อแท้ไม่ใช่คนขี้เกียจแต่มีวิธีจัดการเวลาและลำดับความสำคัญในการทำงานตามรูปแบบของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าการทำงานให้ทันเดดไลน์จะราบรื่นไปหมดทุกอย่าง ไหนจะความกดดัน ไหนจะความร้อนรน จะดีแค่ไหนถ้ามีเทคนิคการทำงานเพื่อคนชอบผัดวันประกันพรุ่งโดยเฉพาะ ที่รับรองว่าคุณจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแน่นอน!

‘Pomodoro Technique’ คือชื่อเทคนิคการทำงานทรงประสิทธิภาพที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย Francesco Cirillo นักพัฒนาและผู้ประกอบการ ผู้คิดค้นเทคนิคนี้ขึ้นมาช่วงปี 1980 เนื่องจากเขารู้สึกว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยมันเป็นอะไรที่ยุ่งมาก ทำงานก็ไม่ดี เรียนก็ไม่ได้เรื่อง ชีวิตไม่มีประสิทธิภาพเอาเสียเลย

Pomodoro ก็ไม่ได้มาจากไหน แต่มาจากเครื่องจับเวลาสำหรับการทำอาหารที่ทำเป็นรูปมะเขือเทศของเขานั่นเอง (Pomodoro เป็นภาษาอิตาเลียนที่แปลว่ามะเขือเทศ) แต่อย่าคิดว่านี่เป็นแค่วิธีกิ๊กก๊อกของนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง เพราะช่วงปี 1990 วิธีนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการทำงานที่ทำให้คนทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด

สำหรับคนที่อยากรู้ว่า ‘Pomodoro Technique’ ทำอย่างไร? ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง? จริง ๆ ก็ง่ายแสนง่ายแค่มีนาฬิกาปลุก สมาร์ทโฟน หรืออะไรที่สามารถตั้งเวลาได้ และความตั้งใจของเราก็พอแล้ว วิธีการก็ง่ายแสนง่ายด้วย 6 ขั้นตอนต่อไปนี้

1.เลือกงานที่คุณต้องการจะทำให้เสร็จขึ้นมา

งานแบบไหนก็ได้ งานเล็ก งานใหญ่ งานที่ค้างไว้เป็นอาทิตย์ ๆ ไม่ว่างานแบบไหน ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรกับมันให้เสียเวลา แค่รู้สึกว่า เออ วันนี้จะทำงานนี้ให้เสร็จก็เลือกมันขึ้นมาได้เลย

2.ตั้งนาฬิกาให้ดังเตือนเราในอีก 25 นาที!

ลงมือทำซะ! 25 นาทีนี้ทุ่มเทให้งานที่เลือกมาซะ โดยห้ามแตะต้องสิ่งอื่นใด นอกจากงานที่เราเลือกมา แค่ 25 นาทีเอง ไม่ได้นานขนาดนั้นสักหน่อย คุณทำได้อยู่แล้วน่า

3.ทำงานจนกว่านาฬิกาปลุกจะดัง

ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเรื่อย ๆ จนกว่านาฬิกาปลุกจะดังขึ้นมานั่นแหละ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ถ้าอยู่ ๆ นึกอะไรออกขึ้นมาระหว่าง 25 นาทีนั้นว่ามีงานอื่นต้องทำ หรือมีอะไรที่อยากทำ ก็ให้จดลงกระดาษไว้ซะ

4.จบ POMODORO หนึ่งรอบ ก็จดลงไป

ดีใจด้วย คุณทำงานเต็มที่แบบไม่มีอะไรรบกวนไป 25 นาทีแล้ว จดลงไปว่าทำครบรอบแล้ว เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองต่อ

5.พักสิครับรออะไร

หลังจากหมด POMODORO แต่ละรอบ ปล่อยให้ตัวเองพัก 5-10 นาที ดื่มกาแฟ ลุกไปเข้าห้องน้ำ เดินเล่น เชื่อเถอะว่าทำแบบนี้สมองและร่างกายคุณจะต้องแอบขอบคุณตัวเองทีหลังแน่นอน

6.ทุก ๆ 4 POMODORO พัก 20-30 นาที

หลังจากผ่านการทำงานต่อเนื่อง 25 นาที ครบ 4 รอบแล้ว ก็เชิญให้รางวัลตัวเองด้วยการพักสัก 20-30 นาที จะเล่นเฟซบุ๊ก กินขนม เดินเล่น ทำอะไรก็เชิญทำให้เต็มที่เพื่อเตรียมสมองและร่างกายให้พร้อมสำหรับ POMODORO รอบต่อไป

แม้เจ้า ‘Pomodoro Technique’ จะเป็นวิธีการบ้าน ๆ ฟังดูง่าย ๆ จนไม่น่าเชื่อว่าจะช่วยเราได้จริง แต่วิธีนี้ก็ช่วยให้คนทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมานักต่อนักแล้ว เพราะอะไรล่ะ?

‘Pomodoro Technique’ จะช่วยให้เราจัดการตัวเองได้ดีขึ้น เคยสงสัยไหมว่าเวลาทำงาน 8 ชั่วโมงในออฟฟิศของเราหายไปไหน? นั่นเป็นเพราะว่าบางทีเราก็เผลอปล่อยเวลาไปกับอะไรที่เราไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบไม่รู้ตัว

เราอาจจะเข้าไปเช็คอีเมล์งานที่ลูกค้าส่งมาให้ แต่ก็เผลอเข้าไปเช็คเฟซบุ๊กแป๊ป ๆ แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที เฟซบุ๊กก็ดูดเวลาเราไป 20-30 นาทีแล้ว หรือเดินไปชงกาแฟแต่แวะคุยกับเพื่อนแผนกข้าง ๆ จนใช้เวลามากกว่าที่คิดไว้

เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่ทันคิดเหล่านี้ หมดไปโดยที่เราไม่ทันได้สังเกต ‘Pomodoro Technique’ จะช่วยให้เราจัดการเวลาได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น เราจะรู้ว่าเวลาทำงานของเราได้ทำงานเต็มที่ไปทั้งหมดเท่าไหร่ และรู้ว่าเวลาเราพัก เราใช้เวลาพักไปกับอะไร

นอกจากนั้น ‘Pomodoro Technique’ จะช่วยตัดสิ่งรบกวนได้แบบเด็ดขาด ด้วยเวลา 25 นาทีซึ่งเป็นเวลาที่ไม่นานนัก เมื่อเราตั้งนาฬิกาไว้ 25 นาที เราจึงไม่รู้สึกว่ามันเหนือบ่ากว่าแรงที่จะนั่งทำงานต่อเนื่อง 25 นาที โดยเราจะรู้สึกว่าแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว  ต่างกับการทำงานยาวนานที่เรารู้สึกว่า ก็ต้องทำนาน ๆ อยู่แล้ว แวะพักบ้างจะเป็นไร แล้วเผลอใช้เวลาพักเกินเวลาทำงานแทบทุกที

‘Pomodoro Technique’ ยังช่วยให้เราแบ่งการทำงานอย่างเป็นระบบ เช่น หากเราเลือกว่า Pomodoro เซ็ตแรกเราจะตอบอีเมลลูกค้า ปรากฏว่าเราต้องใช้เวลา 2 Pomodoro กว่าจะจัดการอีเมล์ลูกค้าเสร็จ

เราก็จะเริ่มเข้าใจการทำงานของตัวเองมากขึ้นว่าถ้าตอบอีเมลลูกค้า เราสามารถจัดการได้ภายใน 2 Pomodoro นะ ถ้าต้องเขียนรายงานการประชุมใช้เวลา 3 Pomodoro นะ หรือถ้าต้องเขียน KPI ใช้เวลา 1 Pomodoro นะ เป็นต้น

การรู้ระยะเวลาทำงานที่แน่นอนของสิ่งที่เราทำเป็นประจำจะยิ่งทำให้เราสามารถจัดการได้ว่าในหนึ่งวัน เราสามารถจัดการอะไรเสร็จได้มากน้อยแค่ไหน หรือในหนึ่งวันเราสามารถแบ่งเวลาได้กี่เซ็ต แล้วเราจะใช้แต่ละเซ็ตในการทำอะไรบ้างตามความสำคัญ

อย่างไรก็ตามมนุษย์ล้วนมีวิธีการทำงานเฉพาะตัวที่หลากหลาย ‘Pomodoro Technique’ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนจำนวนมากนำไปใช้กับการทำงานแล้วประสบความสำเร็จ โดยสามารถปรับให้ตรงกับชีวิตประจำวันของเรา เวลาแต่ละเซ็ตอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 25 นาทีก็ได้ ถ้าเรารู้สึกว่า 25 นาทีมันสั้นหรือยาวไปสำหรับเรา

จริง ๆ มันก็ไม่ต่างกับการสร้างเดดไลน์เป็นช่วง ๆ ให้ตัวเองอย่างหนึ่ง หรือจะลองสร้างเซ็ตเดดไลน์ที่ไม่ต้องใช้เวลา เช่น ถ้าคุณเป็นคนชอบหอบหิ้วคอมพิวเตอร์ไปทำงานนอกบ้าน ก็อาจลองชาร์จแบตโน้ตบุ๊กเอาไว้ให้เต็ม แล้วสร้าง Pomodoro ของตัวเองว่าจะทำงานไม่หยุดจนกว่าโน๊ตบุ๊คจะแบตหมดก็ได้ พอแบตหมดก็ถือว่าจบ นั่งพัก ชาร์จแบตจนเต็ม แล้วรอทำงานรอบใหม่ตามวงจรแบตโน๊ตบุ๊ก

‘Pomodoro Technique’ จึงเป็นเทคนิคการตั้งกรอบเวลาของตัวเอง ให้ปั่นงานไม่มีหยุด ไม่มีอะไรรบกวน แต่ไม่หักโหมเกินไป กำหนดเองได้ แถมจัดการเวลาและงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าเทคนิค 25 นาทีมหัศจรรย์นี้จะใช้ได้กับตัวเองไหม ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการลองด้วยตัวเองแล้ว!

SOURCE1, SOURCE2, SOURCE3