Entertainment

5 หนังย้อนเวลาที่สอนลูกผู้ชายอย่างเราว่า “แกร่งแค่ไหนก็ฝืนกฎธรรมชาติไม่ได้”

By: PSYCAT September 28, 2018

“ย้อนเวลา” พูดถึงประเด็นนี้ทีไรเชื่อว่ามนุษย์ร้อยทั้งร้อยต้องเคยใฝ่ฝันให้ตัวเองย้อนเวลาได้สักครั้งในชีวิต บ้างก็เพื่อกลับไปเจอคนในอดีตที่จากเราไปแล้วไกลแสนไกล บ้างก็หวังว่าถ้ากลับไปเปลี่ยนบางอย่างได้ บางอย่างที่เลวร้ายอาจไม่เกิดตามมา เราล้วนแต่จินตนาการเรื่องการย้อนเวลาไปในรูปแบบของเราไว้มากมาย แต่น้อยครั้งเหลือเกินที่เราจะคิดถึงผลกระทบของการฝืนกฎแห่งกาลเวลา และหนัง 5 เรื่องต่อไปนี้จะทำให้เราเข้าใจว่าทำไมเวลาที่สำคัญที่สุดของมนุษย์อย่างเราอาจเป็น “ปัจจุบัน” ไม่ใช่อดีต หรืออนาคต รวมถึงทำให้เราตระหนักได้ว่าการไหลไปตามกาลเวลาตามปกติแต่รู้เท่าทันมันนั่นแหละคือสิ่งที่ล้ำค่าเท่าที่มนุษย์อย่างเราจะได้รับแล้ว

About Time

จะดีแค่ไหนถ้าเรากลายเป็นผู้ชายที่ได้รับมรดกตกทอดพิเศษจากปู่ สู่พ่อ มาถึงเรา โดยมรดกตกทอดพิเศษที่ว่าก็คือ “การย้อนเวลา” ได้ และแน่นอนว่าทิม เลค ตัวเอกของเรื่องก็เลือกที่จะย้อนกลับไปแก้ไขรายละเอียดที่ผิดพลาดให้ตัวเองและคนที่เขารักเสมอ ๆ บางเรื่องย้อนเพียงรอบเดียวก็แก้ได้หมด ในขณะที่บางเรื่องก็ต้องแก้แล้วแก้อีกกว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบ ชีวิตของการย้อนเวลาดำเนินต่อไปแบบเหมือนจะราบรื่น จนวันหนึ่งเขาเองตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขทุกอย่างเพื่อทุกคนได้ เพราะเมื่อมีสิ่งหนึ่งเปลี่ยนมันสร้างผลกระทบต่ออีกสิ่งหนึ่งเสมอ

ประเด็นดูจะหนักหน่วง แต่ About Time เป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่ชวนอมยิ้มกับทุกความรักสุดละมุน ไม่ใช่แค่ความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่เป็นความรักในครอบครัว จนจะทำให้เราระลึกได้ว่าความสุขเรียบง่ายอย่างการได้เดินเคียงข้างพ่อในวันฟ้าสดใสนั้นมันดีเพียงใด

The Curious Case of Benjamin Button

เราล้วนเติบโตตามหลักการหมุนของเข็มนาฬิกาอย่างปกติสุข เริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นทารกก่อนจะแก่ลง ๆ ร่วงโรยเหี่ยวเฉาตายลงไป แต่กับ Benjamin Button เขากลับมีชีวิตแบบทวนเข็มนาฬิกา เติบโตมาด้วยโรคร้ายบางอย่างที่สาปให้เขาเริ่มต้นชีวิตด้วยความร่วงโรย แก่หงำเหงือก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาจะกลับอ่อนวัยลงเรื่อย ๆ

เหมือนจะเป็นชีวิตที่น่าตื่นเต้นแต่การได้ซึมซาบชีวิตของ Benjamin Button ทำให้เราตระหนักได้ว่าการเกิดขึ้น เติบโต และแก่ตัวลงไปพร้อมกับคนที่เรารัก พร้อมกับสิ่งแวดล้อมและวัยในแบบที่โลกดำเนินไปคือสิ่งที่มีค่าเพียงไหน เวลาที่มีค่าที่สุดอาจเป็นเพียงวันธรรมดาสามัญวันหนึ่งที่เราได้นั่งกินข้าวข้าง ๆ คนที่เรารักนิ่ง ๆ เท่านั้น

The Time Traveler’s Wife

“ความสามารถในการย้อนเวลาได้” แบบที่ผู้ชายอย่างเราจินตนาการถึงมักมาในรูปแบบที่เราคิดว่าเราสามารถกำหนดกดปุ่มได้ตามใจนึกว่าจะย้อนไปที่ไหนและเมื่อไหร่ เพื่อเจอใครหรือทำอะไร แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าพิเศษมันอาจกลายเป็นเหมือนคำสาปหรือโทษทัณฑ์ ไม่ต่างจากเฮนรีตัวเอกจาก The Time Traveler’s Wife ที่ได้รับพรจากฟ้าให้สามารถเดินทางไปในจุดต่าง ๆ ของกาลเวลา แต่โทษทัณฑ์ที่มาพร้อมกันคือเขาไม่อาจเลือกได้เลยว่าเขาจะกระโจนไปอยู่ในห้วงไหน บางครั้งเป็นสักแห่งในอดีตไกลแสนไกล บางคราวเป็นอนาคตข้างหน้าที่ทำให้เขาเห็นการณ์ก่อนคนอื่น รวมถึงการข้ามเวลาที่ไม่อาจเอาอะไรติดตัวไปได้แม้แต่เสื้อผ้า

การข้ามเวลาได้ในบางความหมายจึงไม่อาจเป็นพรจากฟ้า แต่อาจหมายถึงการไม่อาจควบคุมอะไร และเราเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กจ้อยที่ไม่อาจต่อกรกับธรรมชาติได้ แต่ชีวิตก็จะไม่เลวร้ายเกินไปนักเมื่อมีใครสักคนที่เราก็รักเขาและเขาก็รักเราอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าเวลาจะหมุนเล่นตลกกับเราแค่ไหน แต่เราก็อุ่นใจเมื่อเราได้อยู่ตรงหน้าคนที่เรารัก

The Butterfly Effect

เรื่องราวของ Evan Treborn เด็กที่เติบโตมาพร้อมอาการปวดหัวและพบว่าความทรงจำของตัวเองขาด ๆ หาย ๆ ไม่ปะติดปะต่อ ก่อนจะพบว่าเขาสามารถย้อนเวลาได้เมื่อกลับไปอ่านสมุดบันทึกเรื่องราวในอดีตของตัวเอง ด้วยเหตุการณ์ฝังใจทำให้เขาอยากกลับไปแก้ไขรายละเอียดในอดีต แต่เพราะทุก ๆ รายละเอียดในอดีตส่งผลกระทบต่อทุกอณูของชีวิตปัจจุบัน เราถึงได้รู้ว่าการกลับไปแก้ไขอะไรได้มันอาจไม่ใช่ทุกอย่างที่เราควบคุมได้เลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะย้อนเวลาได้แค่ไหน เราก็ไม่อาจฝืนกฎยิบย่อยของธรรมชาติได้อยู่ดี

Click

ผู้ชายบ้างานอย่างเราคงเคยเจอโมเมนต์งานหนักจนไม่เหลือเวลาให้ครอบครัว ให้คนที่เรารัก หรือแม้กระทั่งพักผ่อน จะดีขนาดไหนถ้าเราควบคุมกาลเวลาได้ไม่ต่างจากการกดรีโมตเปลี่ยนช่องทีวี และนี่ก็คือหนังคอมเมดีที่เล่าเรื่องราวของมนุษย์ผู้ชายบ้างานที่พบกับด๊อกเตอร์สติเฟื่องมอบรีโมตคอนโทรลที่ไม่ใช่แค่กดเปลี่ยนช่องทีวี แต่กดคลิ๊กเดียว ก็สามารถควบคุมเวลาได้

เรื่องนี้เฮฮา เพลิดเพลินกว่าทุกเรื่องในลิสต์ แต่ก็รับรองว่าประเด็นเรื่องการควบคุมเวลา แต่ว่าสุดท้ายเวลาก็ย้อนกลับมาทำร้ายเราหนักแน่นไม่แพ้เรื่องไหน ดูไปเพลิน ๆ แต่ก็จุกกับข้อเท็จจริงเรื่องเวลาแบบเพลิน ๆ เช่นกัน

เผลอ ๆ ดู 5 เรื่องนี้จบแล้ว เราอาจจะจินตนาการถึงการย้อนเวลาในรูปแบบที่ต่างออกไป แล้วตระหนักได้ว่าการใช้เวลาแบบปกติสุข และรู้คุณค่าของห้วงเวลาปัจจุบันนี่แหละที่งดงามที่สุดแล้ว

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line