คำพูดลูกผู้ชาย? วิธีพูดแก้ปัญหา ‘สไตล์นายกฯ ไทย’ ที่ผู้ชายเลือกไปใช้ (หรือไม่ใช้ก็ได้)

เมื่อปัญหาพุ่งดิ่งมาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว นอกเหนือจากการคิดวิเคราะห์แยกแยะเสาะหาหนทางแก้ปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็วแล้ว การรับมืออย่างฉับพลันและง่ายที่สุดที่ผู้ชายอย่างเราต้องเผชิญหน้าก็คือการรับมือด้วยปากของเรานั่นเอง UNLOCKMEN ไม่ได้บอกให้คุณยื่นปากไปรับปัญหา แต่เรากำลังหมายถึงคำพูดที่เราสามารถพูดออกไปเพื่อรับมือก่อนได้

แต่ถ้ากลัวคำพูดที่เราพูดออกไปจะไม่แกร่งพอ วันนี้ UNLOCKMEN รวบรวมวลีเด็ดจากนายกรัฐมนตรีไทยที่เป็นวลีสุดดังที่ใคร ๆ ก็พูดถึง หรือวลีติดปากที่อดีตนายกฯ พูดเป็นประจำ คำพูดไหนเห็นว่าดีเราก็เลือกไปใช้ คำไหนที่เราอ่านแล้วต้องส่ายหัวก็ปัดทิ้งไป จะได้รู้ว่านักการเมืองสไตล์เขาแก้ปัญหาด้วยคำพูดกันแบบไหน และแบบไหนที่เวิร์คแบบไหนที่แหวะกันแน่?

พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ: “โน พลอมแพลม (No Problem)”

พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของประเทศ ที่ได้ฉายาขณะดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีว่า “น้าชาติมาดนักซิ่ง” เพราะขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่โตไม่เข้ากับการเป็นนายกรัฐมนตรีเอาเสียเลย แต่ UNLOCKMEN อยากจะบอกว่าความเท่ไม่เข้าใครออกใครเสียหน่อย เป็นนายกขี่มอเตอรไซค์คันใหญ่ สำหรับเรานี่โคตรเท่สมกับฉายามาดนักซิ่งสุด ๆ

วลีที่พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ใช้ตอบกับนักข่าว เมื่อถูกถามถึงสิ่งต่าง ๆ ก็เท่ ๆ สบาย ๆ สไตล์นักซิ่ง เพราะเป็นคำว่า No Problem ไม่มีปัญหา! ที่สุดท้ายแผลงมาเป็นโนพลอมแพลม เพลงเดียวกับที่วงคาราบาวร้องเพื่อแสดงจุดยืนว่าต่อต้านรัฐบาลของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นั่นเอง

ข้อดี : การพูดว่าไม่มีปัญหา UNLOCKMEN ข้อดีก็คือเราสามารถมองโลกในแง่ดีได้ บอกตัวเองว่า เฮ้ย เราจะจัดการปัญหานี้ได้แบบชิล ๆ นะ ไม่มีปัญหาหรอกน่า สบายมาก ซึ่งก็มีผลต่อความรู้สึกตัวเองและความรู้สึกคนรอบข้างพอสมควร ก่อนจะลงมือแก้ปัญหาจริง ๆ

ข้อเสีย: ในทางกลับกันนี่ก็อาจเป็นการหนีปัญหาอย่างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้ในสถานการณ์แบบไหน เพราะเรายังไม่ได้วิเคราะห์ปัญหาอย่างถี่ถ้วนก็พูดออกมาเสียแล้ว แต่เราเชื่อว่าผู้ชายชาว UNLOCKMEN จะนำไปใช้ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน!

ชวน หลีกภัย: “ผมยังไม่ได้รับรายงาน”

อดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัย ตลอดระยะเวลาการทำงานมีวลีเด็ดที่ใครเติบโตขึ้นมาในยุคนั้นต้องท่องจำขึ้นใจได้เป็นอย่างดี จนมีตลกหลายท่านนำไปหยอกล้อด้วยความเคารพอยู่บ่อย ๆ โดยวลีที่ว่านั้นได้แก่ “ผมยังไม่ได้รับรายงาน” เรียกว่าเมื่อนายกฯ ชวน ถูกถามถึงปัญหาอะไรท่านก็จะตอบชัดถ้อยชัดคำว่า “ผมยังไม่ได้รับรายงาน” จนใคร ๆ ต่างก็จำได้ขึ้นใจ

อย่างไรก็ตามเห็นดูนิ่ง ๆ นุ่มนวลแบบนี้ แต่อดีตนายกฯ ชวนก็ได้รับฉายาว่ามีดโกนอาบน้ำผึ่ง เพราะด้วยการพูดจาที่ไม่ดุดันเหมือนอดีตนายกฯ หลาย ๆ ท่าน แต่คำพูดแต่ละคำที่เอ่ยออกมานั้น เชือดเฉือนจนสร้างความบอบช้ำให้ใครต่อใครมานักต่อนักแล้ว

ข้อดี: แม้ประโยคที่ว่า “ผมยังไม่ได้รับรายงาน” จะดูเหมือนว่าไม่ใส่ใจปัญหามากนัก หรือไม่ได้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็วทันใจ แต่การรอการรายงานอย่างละเอียดรอบคอบก็ดูจะเป็นหนทางการแก้ปัญหาในระยะยาวที่ดีเหมือนกัน

ข้อเสีย: กับบางปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างรวดเร็วทันใจ การรอการรายงานเสมอไปอาจใช้ไม่ได้ผลมากนัก จะดีกว่ามากถ้าทั้งรอบคอบ ทั้งรวดเร็ว ยังไง UNLOCKMEN ก็เป็นกำลังใจให้

ทักษิณ ชินวัตร: “UN ไม่ใช่พ่อ”

อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ที่สร้างทั้งรอยยิ้มและหยาดน้ำตาเอาไว้ให้ชาวไทยจำนวนมาก มีทั้งคนรักแบบมืดฟ้ามัวดิน และคนเกลียดที่มืดฟ้ามัวดินไม่ต่างกัน ประโยคไฮไลท์ของอดีตนายกทักษิณมีมาก แต่ที่เด็ดจนไม่ว่าฝ่ายไหนก็เอามาพูดถึงอยู่ตลอดคงหนีไม่พ้นวลี “UN ไม่ใช่พ่อ” ซึ่งมาจากประโยคเต็ม ๆ ที่ว่า “คุณอย่ามาห่วง ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม เราเป็นสมาชิกยูเอ็นก็ว่ากันไปตามกติกาโลก คุณอย่าไปถามมาก ไม่มีปัญหา มาก็มา สอบก็สอบ ถามทุกวัน” โดยอดีตนายกฯ ทักษิณ พูดวลีนี้เมื่อถูกถามถึงการฆ่าตัดตอนจากการแก้ปัญหายาเสพติด

ข้อดี: นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างของการพูดแก้ปัญหาแบบตามใจปากไปก่อน เราอาจสะใจที่ได้พูด หรือถ้าเป็นปัญหาที่ไม่ซับซ้อนหรือจริงจังมาก ก็เหมือนพูดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องไปซะว่า เฮ้ย มึงไม่ใช่พ่อกูซะหน่อย ทำไมกูต้อง GIVE A F-CK ด้วย!

ข้อเสีย: แต่ถ้านี่คือปัญหาระดับชาติแล้วล่ะก็ นี่แทบไม่ต่างอะไรกับการประกาศสงคราม ไม่ว่าเราจะพูดเพื่อสะใจ พูดเพราะหงุดหงิด ยั้งปากไว้จะดีกว่า แต่ถ้ากับวงเพื่อน เอามัน เอาฮา ก็จัดไป

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร: “ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว”

อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ที่เป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์ของชาติ นอกจากนั้นเธอยังโดนกล่าวหาว่าเป็นนายกฯ คนที่ไม่ฉลาดนัก (?) ด้วย อย่างไรก็ตามในแง่การตอบคำถามเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็เรียกว่าโดดเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยความไม่ดุดัน มุทะลุ หรือต้องแสดงความแข็งแกร่ง เธอจึงมักแสดงด้านที่บางคนก็เรียกว่าอ่อนโยน แต่บางคนก็เรียกว่าอ่อนแอออกมา

อย่างประโยคที่กลายเป็นมีมที่ถูกใช้ไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง “ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว” ก็แสดงให้เห็นอะไรได้หลายอย่างเลยทีเดียว

ข้อดี : บางครั้งการยอมถอยก็เป็นทางที่ดีของการแก้ปัญหา เพราะหลายครั้งเราไม่สามารถดาหน้าเข้าปะทะอย่างเดียวได้ การถอยมาหนึ่งก้าว เพื่อคิด เพื่อหาหนทางที่ดี หรือเพื่อโอนอ่อนผ่อนปรน ก็เป็นอีกวิธีที่ผู้ชายอย่างเราลืมไปบ้าง

ข้อเสีย: หลายปัญหาไม่สามารถรับมือได้จากการถอย เราอาจจะถอยจนหลังแทบชนฝา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าปัญหาจะหายไป การพูดแต่ว่าเราถอยจนไม่มีที่จะถอยแล้ว อาจกลายเป็นช่องให้อุปสรรคยิ่งดาหน้าเข้ามา

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา: “เดี๋ยวทุ่มด้วยโพเดียม”

นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศก็เป็นอีกคนที่ขึ้นชื่อเรื่องผลิดวาทะเด็ดออกมารายวัน ทั้งใหสัมภาษณ์ ทั้งกล่าวสุนทรพจน์ ทั้งตอบคำถามนักข่าว ล้วนแต่มีคำพูดพีค ๆ ออกมาให้คนทั้งชม ทั้งด่า ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้อยู่เสมอ ๆ บ้างก็ว่านายกฯ เป็นคนตลก จนถึงขั้นมีคนทำแฟนเพจขึ้นมารวบรวมความตลกของนายกฯ ในขณะที่บางคนก็ว่านายกฯ เป็นคนก้าวร้าว

สำหรับวลีเด็ดที่เราเลือกมาเพราะสื่อความเป็นตัวตนของพลเอก ประยุทธ์ ได้ดีที่สุดอีกวลีหนึ่ง คือวลี “เดี๋ยวทุ่มด้วยโพเดียม” เมื่อถูกนักข่าวถามว่าจะเป็นนายกฯ จากการรัฐประหารอย่างเดียวหรือ

ข้อดี: การทุ่มสิ่งของใส่ใครสักคนอาจถูกมองว่าเป็นอารมณ์ขัน (ก็ได้) ไม่เครียดกับปัญหามากนัก ไม่ได้ซีเรียสกับปัญหาตรงหน้าเท่าไหร่ ก่อนจะคิดวิธีที่ดีหรือคำตอบที่ดีต่อไป

ข้อเสีย: ไม่ว่าจะพูดเล่นหรือจริง การสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ถ้าเป็นวงเพื่อนก็อาจไม่มีคนคิดอะไร แต่ถ้าระดับความเป็นทางการ UNLOCKMEN ก็ไม่ขอแนะนำ

คำพูดลูกผู้ชาย (หรือลูกผู้หญิง) ที่เราเลือกมาก็เป็นเพียงประโยคซ้ำ ๆ ที่ใช้ประจำ หรือประโยคเด่น ๆ แค่ ประโยคเดียวเท่านั้น เราไม่อาจตัดสินใครได้จากคำพูดเพียงคำพูดเดียว แต่การเรียนรู้จากความสำเร็จหรือความผิดพลาดของผู้อื่น โดยเฉพาะคนระดับผู้นำนั้น เราเชื่อว่า ผู้ชายชาว UNLOCKMEN ต้องได้บทเรียนล้ำค่าที่เอาไปปรับใช้กับคำพูดที่เอาไว้แก้ปัญหาให้กับตัวเองได้บ้างแน่ ๆ