Entertainment

Series Guide : Mr. & Mrs. Smith (2024) ซีรีส์สายลับที่พาเรากลับไปย้อนมองบาดแผลในความสัมพันธ์ของตัวเอง

By: GEESUCH February 9, 2024

สารภาพว่าจำไม่ได้เลยยย Mr. & Mrs. Smith (2015) นี่มันเป็นหนังยังไงนะ คุ้น ๆ นิดเดียวว่ามีฉากยิงกันในห้องครัวจนเละเทะ แล้วตลกตรงที่จำได้เพราะมันมีความซิงก์กับเอ็มวีของเพลง ‘พยายามกี่ครั้งก็ตามแต่…’ ของ HANGMAN ที่เขาพาโลดี้ซีนนั้นของหนังเลย (เพลงดีมากอยากให้วงกลับมาทำต่อ)    

ไม่สิ ๆ พอลองนึกดูดี ๆ ก็จำได้เพิ่มละว่า Brad Pitt กับ Angelina Jolie พบรักกันจากหนังเรื่องนี้นี่หว่า และสิ่งนี้ล่ะเป็นสิ่งที่น่าสนใจตรงที่ทำให้ทุกคนที่เคยดู (และจำ) เวอร์ชั่นภาพยนตร์ต้นฉบับของปี 2015 พูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่ารีเมคเวอร์ชั่นซีรีส์ของปี 2024 ที่เป็นออริจินอลของ Amazon Prime มีความต่างกันไปไกลลิบเลย และส่วนตัวเราเอง หนังที่ทำให้คนสองคนตกหลุมรักกันในชีวิตจริงก็น่าจะเป็นขุมพลังสำคัญของ Donald Glover นักแสดงนำ เจ้าของโปรเจกต์ และโปรดิวเซอร์ของเรื่องทำซีรีส์ Mr. & Mrs. Smith (2024) ในรูปแบบใหม่ออกมา ซึ่งหลังจากที่ได้ดูแล้วเราก็เชื่อว่าชีวิตรักของแบรดกับแองจี้มีส่วนจริง ๆ

ซีรีส์เล่าเรื่องราวของหนุ่ม-สาวแปลกหน้า 2 คนที่บังเอิญได้มาเจอกันในบ้านหลังหนึ่ง เพราะว่าทั้งคู่ต่างรับงานจากเอเจนซี่สายลับที่ชื่อ Mr. & Mrs. Smith งานที่มีเงื่อนไขแปลกประหลาดว่าเขาและเธอต้องใช้ชีวิตแบบคู่รักที่แต่งงานแล้ว พร้อมกับตัดขาดตัวตนในอดีตของตัวเองที่ผ่านมาทั้งหมดทิ้งไป อยู่กับปัจจุบันใหม่ รอคอยคำสั่งเพื่อปฎิบัติภารกิจอันตรายต่าง ๆ ร่วมกัน และต้องใช้ชีวิตด้วยชื่อใหม่ว่า John & Jane Smith สามีภรรยาคู่สายลับ

“Mr. & Mrs. Smith (2015) เป็นหนังสำหรับคู่เดตที่ดีเลยนะ ผมคิดว่าตัวเองก็น่าจะสามารถทำซีรีส์ประเภทนี้ในแบบที่จะสามารถนั่งดูไปด้วยกันกับภรรยาได้” 

– Donald Glover

ออกตัวแรงแบบไม่ติดเบรคเลยว่าชอบมาก ๆ มันคือซีรีส์สายลับที่ให้น้ำหนักไปอยู่ที่ความสัมพันธ์แบบ ‘คู่รัก’ ที่เบสออนชีวิตจริงแบบสมจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเอาการบู๊ล้างผลาญของสายลับเป็นประเด็น/องค์ประกอบรอง คนดูจะได้โฟกัสไปอยู่ที่ช่วงเวลาแห่งการไตร่ตรองก่อนใส่ลูกกระสุนเพื่อจะลั่นไกของสามีภรรยา Smith สิ่งที่เข้มข้นที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่ใช่เสียงปืน แต่คือคำพูดใส่อารมณ์ของชายหญิง 2 คน และเอาจริง ๆ เราว่ามันเป็นอาวุธที่ใช้ฆ่าคนได้เจ็บปวดยิ่งกว่าอีกนะ เพราะไม่ได้ยิงครั้งแรกแล้วตายเลยไง แต่มันค่อย ๆ สะสมยิงหลาย ๆ ครั้งจนกว่าอีกฝ่ายจะตายลง เดาว่าโดนัลน่าจะมีปิ๊งไอเดียประมาณว่าอาวุธที่รุนแรงที่สุดคือความรักบ้างแหละ    

สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู สิ่งที่จะได้เจอในซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากที่ได้เห็นมาตลอดในชีวิตจริง John กับ Jane ได้พบกัน ละลายน้ำแข็งของคนแปลกหน้าจนเริ่มรู้สึกดีต่อกัน ตกหลุมรักกัน ทะเลาะกัน แล้วก็อยากกลับไปสู่วันที่ไม่รู้จักกันอีกครั้งนึง .. เราเห็นสิ่งเหล่านี้จากคนใกล้ตัว ในหนังหลาย ๆ เรื่องบ้าง ไปจนถึงเห็นในความสัมพันธ์ของตัวเองในบางครั้งกันอยู่แล้ว  

ซีรีส์เรื่องนี้ก็เลยดำเนินเรื่องผ่านฉากชีวิตแสนเรียบง่ายตลอดเวลา เช่น การเถียงกันในร้านอาหารเมื่ออีกฝ่ายเคี้ยวข้าวเสียงดังเกินไป / ถกเรื่องการนอนกรนของอีกคน / คุยจุกจิกวิจารณ์คู่รักคู่อื่น / งอลอีกฝ่ายกับแฟนเก่า / แอบซื้อของแล้วไม่บอกจนมีปากเสียง หรือ นัดเพื่อนใหม่มากินข้าวที่บ้านก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายห่วยแตกสุด ๆ ก็เลยนอนเม้าหัวเราะร่าด้วยกันบนเตียงนอน 

ที่เจ๋งคือซีรีส์มันสร้างตัวละคร 2 คนให้มีความเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อเข้ากันได้ยากมาก Jane เป็นคนที่ไม่พูดความจริงเลยและเก็บความลับเก่ง แต่ John คือคนที่พูดความจริงมากและเรียกร้องความรู้สึกข้างในใจจากอีกฝ่ายเสมอ จะเห็นว่าตัวละคร John โคตรขัดแย้งกับการมีชีวิตแบบสายลับ ในขณะที่ Jane คือพนักงานดีเด่นที่บริษัทต้องการตัวสุด ๆ สิ่งนี้ก็สร้างมิติในเรื่องชีวิตคู่ว่าด้วยการเป็น Partner In Life / Partner In Work อีกด้วย แล้วเคมีระหว่าง Donald Glover กับ Maya Erskine มันดีย์ ดูแล้วอยากหยุมหัวทั้งคู่ตลอดเวลา  


ที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า Mr. & Mrs. Smith ให้น้ำหนักของการเป็น ‘ซีรีส์สายลับ’ เป็นรอง ไม่ได้หมายถึงว่าน้อยถึงขนาดว่าดูไม่มีความเป็นหนังสายลับหรือถ้าต้องการความบันเทิงแบบ Spy Gerne จะดูไม่สนุกอะไรแบบนั้นนะ

ต้องเล่าก่อนว่าเราไปอ่านสัมภาษณ์ของ Maya Erskine (Jane Smith นางเอกของเรื่อง) ที่ลงใน Interview Magazine มา เธอบอกว่าทีมงานซีรีส์ไม่ได้ทำการบ้านแค่เพื่อจะรีเมคจากฉบับภาพยนตร์เท่านั้น แต่ถึงขนาดรีเสิร์ชกางพิมพ์เขียวของหนังประเภท Spy Movie ขึ้นมาศึกษากันเลย โดยเฉพาะ James Bond เพื่อดูว่าผู้ชมแฟนหนังแบบนี้เสพอะไรกัน ซึ่งเธอบอกว่าทีมจะไม่เดินตามสูตรสำเร็จประมาณว่า ‘พระเอกจะเก่งที่สุดเสมอเพื่อคอยช่วยนางเอกที่อ่อนแอตลอดเวลา’ แต่มันคือ ‘นางเอกก็สามารถช่วยตัวเอกที่บางครั้งก็ดูงี่เง่าได้เหมือนกัน’ เพื่อสร้างผลงานหนังหรือซีรีส์สายลับในรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้น และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมต่อให้ความเป็นหนังสายลับในเรื่องนี้จะเป็นองค์ประกอบรอง แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างยอดเยี่ยม และดูสนุกเอามาก ๆ เซ็ทติ้งซีนเล่นสกีคือนึกถึง 007 เลย เอาจริงละเอียดถึงเสื้อผ้าของนักแสดงเลยด้วยซ้ำ

และตรงกลางระหว่าง ‘หนังสายลับ’ กับ ‘หนังดราม่าความสัมพันธ์’ อยู่ตรงที่เขาใช้วิธเอาภารกิจของ Jane กับ John มาเป็นกระจกสะท้อนถึงความรักของทั้งคู่ไปเลย ในหลาย ๆ ครั้งก็เป็นถึงบททดสอบความสัมพันธ์ด้วย จีเนียส !

ในภารกิจหนึ่ง John กับ Jane ต้องตามไปดักฟังผัวเมียที่เดินทางมาพักร้อนเล่นสกี แล้วสิ่งที่ยุ่งยากก็คือผัวเมียคู่นี้มีความระหองระแหงมาก เพราะว่าเมียเป็นมหาเศรษฐีที่เอางานมาทำตอนเที่ยวจนไม่สนใจครอบครัว แล้วเหมือนสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำแบบนี้ แต่อีกฝ่ายกลับเฉไฉว่าไม่ได้สัญญา เราก็ดู John กับ Jane ดักฟังเป้าหมายพร้อมถกเถียงด้วยความเห็นตัวเองใส่กัน และแน่นอน เห็นไม่ตรงกันสักนิด   

หรือยกตัวอย่างอีกภารกิจนึงที่ทั้งคู่ได้รับหน้าที่ให้ปกป้องคนชราคนหนึ่งไปยัง Safe House ซึ่งคนแก่คนนี้เอาแต่ใจไม่ต่างอะไรจากการเลี้ยงเด็กสักคน แล้วคือ Jane ไม่อยากมีลูก แต่ John อยากมีลูกมาก ระหว่างทำภารกิจทั้งคู่ก็รู้แล้วว่าหลังจากภารกิจจบจะต้องคุยเรื่องนี้กัน แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง 


ก่อนที่ซีรีส์เรื่องนี้จะได้ลงสตรีมมิ่ง หลาย ๆ เสียงก็พูดแซมชมไปในทางความเห็นบวกที่น่าสนใจคล้ายกันว่า Mr. & Mrs. Smith ฉบับซีรีส์จะไม่มีทางทำให้ผิดหวัง เพราะว่าเป็นการจับคู่การทำงานระหว่าง Francesca Sloane กับ Donald Glover คู่หูแห่งซีรีส์ Atlanta (2016-2022) 

นี่ยังไม่ได้ดู Atlanta นะ แต่ก็เชื่อว่าที่ซีรีส์สายลับของเราออกมาดีตามที่ถูกทำนายของชาวเน็ตได้แบบนี้เพราะไอเดียที่คลิกกันของสองคู่หูนี้ล่ะ ใครจะคิดว่าเราจะได้ดูหนังชีวิตที่ดราม่ามาก ๆ ของคู่รักสายลับ ซึ่งมีฉากบู๊มุมกล้องอาร์ทเทสดีแบบหนังของ A24 เลย 

เราคงเปรียบผู้สร้างสองคนนี้เป็น Jane กับ John ไม่ได้ (ต่อให้อยากจบบทความเท่ ๆ แบบนั้นก็ตาม) เพราะว่าทั้งคู่ได้ทำซีรีส์สายลับที่ยอดเยี่ยม มันเหมือนเราได้เข้าคลาสบำบัดชีวิตคู่กับนักจิตวิทยา ให้ตัวเองได้ขบคิดถึงความสัมพันธ์ที่มีอยู่ เอาแว่นขยายส่องดูรอยร้าว เป่าแผลที่ถลอกเบา ๆ ติดพลาสเตอร์เองเท่าที่จะทำไหว หรืออาจจะสะกิดชวนแฟนมานั่งดูด้วยกันแบบที่โดนัลตั้งใจให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพื่อป้อนยาให้กันและกัน เราเชื่อว่าหนังเรื่องนี้มันจะรีเลทกับความสัมพันธ์ของพวกคุณทุกคน ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเหมือนที่เป็นกับเรา

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line