Life

รวมการจับมือที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่หนุ่ม ๆ อย่างเราอยากให้มันเกิดขึ้นมากที่สุด

By: Thada January 18, 2018

ช่วงนี้คงไม่มีอีเว้นท์ไหนที่ฮอตฮิตไปกว่างานจับมือของสมาชิก BNK48 กับเหล่าโอตะผู้หลงใหลสาว ๆ กลุ่มนี้อีกแล้ว เพราะว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะมีโอกาสได้ไปกระทบไหล่สัมผัสมือนุ่ม ๆ เพื่อพูดคุยกับเหล่า idolsในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่กำลังมาแรงที่สุดในประเทศขณะนี้

บางคนอาจจะสงสัยว่าแค่การมือทำไมถึงได้มีความสำคัญอะไรมากมายถึงขั้นต้องไปต่อคิวรอกันข้ามคืน แต่ถ้าหากเราย้อนไปถึงความหมายของการจับมืออย่างแท้จริงแล้ว เรียกได้ว่าต้องย้อนกลับไปไกลกว่า 800 ปีก่อนศริสต์ศตวรรษ โดยมันเป็นสัญลักษณ์ของการให้ของพระเจ้า แม้ในปัจจุบันความหมายของการจับมืออาจจะมีการเปลี่ยนไป อย่างเช่นการจับมือทักทาย หรือจับมือสงบศึกขอคืนดี ก็ตามแต่วาระกันไป ดังนั้นในวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้ไปรวบรวมการจับมือที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น และผู้ชายอย่างเราอยากให้เกิดขึ้นจริงมากที่สุด ลองมาดูกันว่ามีอันไหนที่ตรงใจผู้อ่านกันบ้าง

Noel & Liam Gallagher 

สองพี่น้องตระกูล Gallagher ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงดนตรีชื่อดังจากเกาะอังกฤษอย่าง Oasis โดยทั้ง Noel และ Liam เป็นผู้นำพาสไตล์เพลง Brit Pop เข้าสู่กระแสเพลงสากล และแพร่กระจายความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งนอกเหนือจากชื่อเสียงในวงการเพลงแล้ว สองพี่น้องคู่นี้ยังโด่งดังและมีวีรกรรมสุดติ่งในเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีคนอื่น ๆ แฟนคลับของตัวเอง หรือแม้กระทั่งสมาชิกภายในวง จนทำให้ Oasis ถือเป็นวงดนตรีที่ผลัดเปลี่ยนสมาชิกกันเป็นว่าเล่น แต่ทั้ง Noel และ Liam ก็ยังสมัครสามัคคีมีตีกันบ้างตามภาษาพี่น้อง

กระทั่งในปี 2009 ทั้งคู่มีกรณีฟาดปากกันอย่างรุนแรง จนทำให้ถึงขั้นยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตของวงในคราวนั้น จนเป็นที่มาให้ Noel รู้สึกหมดความอดทนในตัวน้องชาย และประกาศขอแยกวงอย่างถาวร ทิ้งให้แฟนเพลงทั่วโลกต้องอึ้งปากค้าง เพราะไม่เคยมีคาดคิดว่า Noel จะสละวงที่เขาสร้างชื่อมากับมือได้ลงคอ และนับจากวันนั้นมาก็ล่วงเลยมาเกือบ 10 ปีแล้วที่แฟนเพลงต่างร้องเพลงรอขอให้ทั้งคู่กลับมาจูบปากกันทำเพลงนาม Oasis โดยฝ่าย Liam ในตอนนี้ดูท่าจะพออ่อนข้อ ยอมลดราวาศอกลงบ้าง พยายามตามง้อพี่ชายตนเองเพื่อขอสงบศึก แต่ดูเหมือน Noel จะรู้สึกแฮปปี้กับชีวิตใหม่ในนาม High Flying Bird ดังนั้นชาว UNLOCKMEN ก็ได้แต่เฝ้ารอวันที่พวกเขาจะกลับมาจับมือคืนดี และร่วมบรรเลงเพลง Wonderwall อีกครั้งหนึ่ง

Manchester United และ Liverpool

แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยหากจะบอกให้แฟนบอลทีม Manchester United และ Liverpool มานั่งร่วมโต๊ะสนทนาคุยเรื่องฟุตบอลกัน เพราะทั้งคู่ต่างมีความขัดแย้งฝังลึกลงไปชนิดที่ไม่มีวันเผาผีกัน อาจจะเพราะทั้งคู่ต่างเคยเป็นมหาอำนาจทางฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตามแต่ละยุคสมัยแย่งชิงความเป็น 1 บนเกาะอังกฤษ และอาจรวมไปถึงสองทีมที่มีฐานแฟนบอลมากที่สุดในโลก จนคนตั้งนิยามว่า “มันเป็นมากกว่าเกมส์ฟุตบอลเพียงหนึ่งเกม”

ซึ่งหากจะย้อนรอยแค้นนี้อาจจะต้องนับถอยหลังกลับไปไกลถึงศตวรรษที่ 18-19 ในยุคปฎิวัติอุตสหกรรมของประเทศอังกฤษ โดยเมือง Liverpool ในขณะนั้นจัดได้ว่าเป็นเมืองท่าอันดับต้น ๆ ของโลก และเมือง Manchester ก็กำลังเฟื่องฟูสุดขีดในอุตสาหกรรม ทว่าสินค้าต่าง ๆ ต้องเดินทางผ่านเรือเท่านั้นทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมมหาศาลให้กับเมือง Liverpool กระทั่งสภาเมือง Manchester อนุญาติให้ขุดลอกคลองเพื่อลำเลียงสินค้าผ่านโดยตรงไม่จำเป็นต้องผ่านเมือง Liverpool อีก จนส่งผลให้เศรษฐกิจในเมือง Liverpool ซบเซาลงไป มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ชาว Liverpool รู้สึกเกลียดชาว Manchester ไปโดยปฎิยาย บนสงครามแห่งเกมฟุตบอลทั้งคู่ต่างเป็นอริกันเพื่อแย่งชิงความยิ่งใหญ่ในเวลาใกล้เคียงกันในช่วงยุค 60 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความบาดหมางนี้ฝังลึกลงไปไม่ใช่เฉพาะแฟนบอลในอังกฤษเท่านั้น เพราะแม้แต่ในไทยเองทุกคนต่างรู้ว่าเมื่อถึงวันแดงเดือดทีไร ทั้งคู่ต่างใส่กันไม่ยั้ง แม้กระทั่งบนโลกออนไลน์เองก็ตามไม่มีคำว่ายอมกัน

Donald Trump กับ World

ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งประธานาธิปดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Donal Trump ก็ขยันเป็นข่าว โดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมต่าง ๆ จนกระทั่งได้รับตำแหน่งท่านก็ไม่วายเปิดศึกกับคนเขาไป ไม่ว่าจะเป็นนโยบายขับไล่ผู้อพยพ สร้างกำแพงกั้นชายแดน หรือแม้แต่การไปต่อว่านักกีฬา NFL เรื่องไม่ยอมยืนเคารพเพลงชาติ ไหนจะนโบายต่างประเทศที่ทุกวันนี้ก็ตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ เหมือนแกจะเจอมวยถูกคู่อย่าง Kim Jong Un ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาเตรียมประกาศสงครามกันอยู่เป็นระรอบ อีกทั้งประเด็นกับ UN อีกเรียกได้ว่าท่านผู้นำคนนี้ขยันเป็นข่าวหน้าแทบจะหนึ่งทุกวัน และด้วยฝีปากกล้าและความมั่นใจในตัวเองแบบสุดโต่ง ทำให้ผู้ช่วยและคณะทำงานต่างต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน ดังนั้นเราก็หวังได้เพียงให้ท่าน Trump ลดอีโก้ลงและจับมือกับโลกพูดคุยเพื่อยุติการหาเรื่องต่าง ๆ ซักที

 

ท่านประยุทธ์ และ ท่านประวิตร  กับ สื่อมวลชน

อาจเพราะด้วยบุคลิกแบบทหารทำให้ที่ผ่านมาทั้งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ค่อนข้างมีท่าที และบุคลิกที่ขึงขัง เสียงดัง หนักแน่น จนอาจจะรับมือกับสื่อได้ไม่ดีเท่านักการเมืองทั่วไป ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าท่านทั้งสองล้วนตกเป็นเป้าโจมตีให้กับสื่อได้หยิบประเด็นมาขุดคุ้ยไม่เว้นในแต่ละวัน  ซึ่งบางครั้งเมื่อทั้ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รู้สึกไม่พอใจ หรือไม่สามารถตอบคำถามได้ ก็จะเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว หรือถึงขั้น walk out เลยก็มี โดยเราก็แอบเห็นใจพี่ ๆ สื่อมวลชนเหมือนกันเพราะต้องทำตามหน้าที่ ไปเฝ้าทำข่าว แต่ทั้งนี้เราก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็น ๆ ค่อย ๆ หาทางออกด้วยการถามตอบแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ต่างคนต่างเคารพในหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายน่าจะเป็นอะไรที่ชื่นมื่น ต่างคนต่างทำงานได้ง่ายขึ้น

 

BNK48 กับโอตะ

อาจจะดูไม่เกี่ยวกับความรุนแรงซักเท่าไหร่ แต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นมาแรงในขณะนี้ สำหรับงานจับมือกับสาว ๆ BNK48 วง idols สไตล์ญี่ปุ่น ที่มีสมาชิกมากกว่า 40 คน โดยงานจับนี้ถือเป็นเหมือนพิธีการระเบียบปฎิบัติเพื่อให้ idols สาวของเราได้พบปะกับแฟน ๆ ที่เรียกตัวเองว่าโอตะ ซึ่งการจะไปงานจับมือนี้ก็ไม่ถือว่าง่าย เพราะคุณจะต้องซื้อตั๋ว โดยสมาชิกแต่ละคนก็จะมีค่าเสียหายในการเข้าจับมือทักทาย ด้วยเรทราคาที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งวันงานคุณก็ต้องตื่นแต่ไก่โห่ เพื่อไปเข้าคิวในงานจับมือ นับว่าหากเจอพวกเธอแบบกระทบไหล่ คงต้องใช้ความอดทนมากกว่าไปเข้าคิวซื้อของ sale อย่างแน่นนอน การที่หวังว่าจะได้เข้าไปใกล้ชิดเหล่าไอดอลที่ชื่นชมแบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องแก่งแย่งซื้อบัตร อดทนเข้าคิวรอจึงเรียกได้ว่าเป็นอีกสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงฝันให้วันหนึ่งนั้นมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนกับเราเช่นกัน แต่เรื่องของอนาคตเราคงไม่มีวันรู้ได้ คงต้องลองให้คุกกี้ทำนายกันดูก็แล้วกัน

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line