Life

มั่นใจไว้แล้วจะดีเอง! งานวิจัยเผยว่ารูปร่างหน้าตาสัมพันธ์กับความไม่มั่นใจในตัวเองและมีโอกาสนำไปสู่ความรุนแรง

By: PERLE October 30, 2018

ก่อนจะพูดถึงเนื้อหาในคอนเทนต์ เราขออธิบายความตั้งใจของเราให้ชัดเจนก่อนว่าเราไม่มีเจตนาว่าร้ายเรื่องรูปร่างหน้าตา เราเพียงแค่นำผลวิจัยที่มีการรองรับชัดเจนมาอธิบายเท่านั้น

ถึงจะมีประโยคสวยหรูมากมายว่าคนเราต้องดูกันที่เนื้อใน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน อาจจะสำคัญมากกว่าเสียด้วยซ้ำตาม Norm แห่งสังคมปัจจุบันที่มักจะมีค่านิยมอะไรบางอย่างตีค่าไว้ว่าแบบนี้ดี แบบนี้ไม่ดี ดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือความไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเอง จากปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่ความไม่มั่นใจนี้สามารถนำไปสู่ความรุนแรงได้อย่างที่คาดไม่ถึง

สถาบัน The Center for Disease Control ในเมือง Atlanta รัฐ Georgia ประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำรวจผู้ชาย 600 คน ช่วงอายุ 18-50 ปี โดยแต่ละคนแตกต่างกันทั้งในแง่พฤติกรรม, ประวัติการใช้ความรุนแรง, ประวัติการใช้ยาเสพติด, และประวัติอาชญากรรม

ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชายที่ไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาความเป็นชายของตัวเองมีแนวโน้มที่จะก่อพฤติกรรมรุนแรงหรืออาชญากรรมมากกว่า

นอกจากนั้นผู้ชายกลุ่มนี้มักจะเกิดประเภทของความเครียดที่เรียกว่า ‘Male Discrepancy Stress’ ซึ่งก้อนอารมณ์นี้มีแนวโน้มจะขับความรุนแรงในตัวของคน ๆ นั้นออกมาในรูปแบบพฤติกรรมทางเพศผู้อื่นมากกว่ากลุ่มคนที่สูงหรือมั่นใจในส่วนสูงตัวเองถึง 3 เท่าด้วยกัน

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้ Oxford University ก็เคยพูดถึงประเด็น ‘Short Man Syndrome’ มาแล้ว โดยในรายงานฉบับนี้เผยว่าถ้าเราลดความสูงของบุคคลใดก็ตามลง บุคคลนั้นจะมีอัตราความหวาดระแวงเพิ่มมากขึ้น โดยสิ่งนี้เรียกว่า ‘Napoleon Complex’

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิ ‘นโปเลียนที่ 1′ ผู้ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า Napoleon Complex มีความสูงถึง 5 ฟุต 7 นิ้วหรือประมาณ 170 เซนติเมตร ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นคนรูปร่างเตี้ยเลย เพียงแต่ว่าค่านิยมของผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยก่อน ความสูงเท่านี้อาจจะเป็นปมด้อยอันใหญ่หลวง

เช่นเดียวกับยุคสมัยปัจจุบันที่ประเด็นเรื่องรูปร่างหน้าตาก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แตกต่างจากยุคนโปเลียน ตรงกันข้ามอาจจะสำคัญมากกว่าด้วยซ้ำเนื่องจากการเข้ามาของ Social Network สมัยใหม่ การตัดสินใจทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการตัดสินคนด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ขนาดรูปร่างจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

อย่างไรก็ตามรายงานนี้ก็อ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างแค่ 600 คนเท่านั้น อาจจะเป็นจำนวนที่ไม่เยอะพอที่จะสามารถยืนยันการันตีได้ว่าจะถูกต้องสมบูรณ์ หวังว่าในอนาคตจะมีผลวิจัยที่สำรวจกลุ่มคนกว้างกว่านี้มาช่วยยืนยัน

อย่างไรก็ตาม มีแฟนเพจทักเข้ามาเรื่องเนื้อหาคล้ายกันที่ถูกเว็บ Hoax-alert.leadstories.com พูดถึงข้อมูลจากเว็บ Higher Perspective ที่พาดหัวว่า “New research says short people are angrier and more violent than tall people” เป็น Clickbait นั้น ที่จริงแล้วเนื้อหาจากผลวิจัยหลายชิ้นถูกต้องแล้วครับ สิ่งที่ผิดคือการพาดหัวของ Higher Perspective ที่ระบุฟันธงลงไปว่า เป็นผลวิจัยใหม่ และ คนตัวเตี้ยอารมณ์ฉุนเฉียวกว่าคนตัวสูง ซึ่งประเด็นที่ Hoax-alert ท้วงคือ ผลวิจัยที่จริงแล้วไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นการวิจัยในปี 2015 และ ผลวิจัยไม่ได้ระบุว่าคนตัวเตี้ย แต่โดยหลักจะพูดถึงผู้ชายที่มีความไม่มั่นใจในตัวเอง ซึ่งอาจรวมถึงความสูงที่น้อยกว่าคนอื่น รูปร่าง และอื่น ๆ

สำหรับใครที่อยากศึกษาเรื่อง Short Man Syndrome สามารถดูคลิปวิดิโอด้านล่างเพิ่มเติมได้เลย

 

Reference: University of Oxford /  SOURCE2 /

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line