EVENT

Siam Discovery Future Lab VOL.3 : Fight For The Future โปรเจคเชื่อม Metaverse สู่โลกความจริงบนพื้นที่แห่งอนาคต

By: GEESUCH July 26, 2022

ประตูสู่โลกอนาคตได้ถูกผลักออกให้กว้างขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Siam Discovery จับมือกับ 3 ขุมพลังแห่งยุคดิจิทัล Nimit Studio สตูดิโอสถาปนิกแห่งโลกเสมือน, Cryptomind บริษัทที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ และ Fairtex ผู้นำธุรกิจอุปกรณ์การต่อสู้มวยไทย พาทุกคนท่องสู่ Metaverse ใน The Sandbox ที่ถูกจำลองขึ้นมาอยู่บนพื้นที่จริง กับโปรเจค Fight For The Future พร้อมเปิดตัว Jinta Valley แลนด์แรกที่สร้างขึ้นโดยฝีมือคนไทย ให้เราได้เข้าไปเล่นก่อนใครในโลก!

ตัวงานจะแบ่งออกเป็น 2 โซนอยู่ที่ ‘ชั้น G’ กับ ‘ชั้น 4’ และ UNLOCKMEN ได้ไปเห็นโลกอนาคตนี้มาแล้ว เราจะมาสปอยล์รายละเอียดและกิจกรรมแบบเลียงตามลำดับชั้น ที่บอกเลยว่านี่คือโลกของคนยุคใหม่จริง ๆ ก่อนที่ทุกคนจะไปดูงานกัน 


จุดเริ่มต้นของทุกอย่างของงานอยู่ในชั้น G ตรงส่วนที่ให้เรา Customize ตัว Avatar เป็นของตัวเอง ซึ่งถูกต้องมาก ๆ กับไอเดีย ‘จุดเริ่มต้น’ ของโลก Metaverse ที่คุณต้องมีตัวตนก่อนจะทำทุกอย่างได้ และตรงนี้เองทางงานเขา Mock Up จอสกรีนยักษ์เพื่อให้ตัว Avatar กับผู้สร้างเชื่อมต่อถึงกัน จะถ่ายเซลฟี่คู่กันก็ได้ แต่ UNLOCKMEN ขอแนะนำให้ชวนแก๊งเพื่อนมาสร้าง Avatar หลาย ๆ ตัว แล้วแข่งโพสต์สู้กันทั้งนอกจอในจอยิ่งมันส์กว่าเยอะ

Future Lab Hyper-Personalization ของ Fairtex คือส่วนต่อไปที่เราจะได้เจอ มันคือห้องแล็บกึ่งพื้นที่แสดงงานศิลปะ ที่โชว์ผลงานของ Fairtex ตอนไปคอลแลบกับศิลปินต่าง ๆ ซึ่งดีไซน์จัดทุกชิ้น และพิเศษสำหรับคนที่ฝันอยากมี Boxing Gear ในแบบของตัวเองมานานแล้วคือห้ามพลาดเลย โซนนี้เราสามารถออกแบบนวม กางเกงมวย และเสื้อยืดเป็นลายที่ใช่ ลายที่ชอบ หรือจะเอาตัว Avatar ของเราจากโซนก่อนหน้ามาทำลายก็ยังได้ด้วย      

เมื่อโลก Metaverse เจอกับกีฬามวยบน Street Punching ในโซนสุดท้ายของชั้น G ที่ถูกเนรมิตเป็นสังเวียนมวยจากโลกอนาคต ให้เราสวมบทเป็นนักมวยสตรีท กำปั้นเพียว ๆ ชกแข่งกันในเกม ‘ต่อยให้ได้มากที่สุดในเวลา 60 วินาที’ มาในรูปแบบของเกมคล้าย ๆ VR ซึ่งส่วนนี้ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่ Fairtex ต้องการจะนำเสนอในงาน Fight For The Future ถึงความหมายของกีฬามวยไทย ที่ไม่ใช่แค่กีฬา แต่คือวัฒนธรรม ไลฟต์สไตล์ และเป็นงานศิลปะที่ขับเคลื่อนควบคู่ไปกับอนาคตของโลกเสมือนได้เป็นอย่างดี  


ความสนุกและความตื่นเต้นยังไม่หมด ขึ้นลิฟต์อย่างรวดเร็วไปต่อกันที่ชั้น 4 ของ Siam Discovery อีกส่วนของงาน Fight For The Future ที่จัดเป็นนิทรรศการในชื่อ Hope is Dope: Episode Zero เป็นความร่วมมือระหว่าง NIMIT กับ Cryptomind จัดแสดง NFT Showcase ในรูปแบบของ AR (Augmentation Reality) ดูงานศิลปะแบบทำลายกำแพงโลกเสมือนผ่าน Ig Story โดยนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ที่เป็นหัวใจหลักของชื่องานคือ Fight For Style, Fight For Love, Fight For Fun, Fight For Nature และ Fight For Peace

ถึงแม้ว่างานศิลปะของนิทรรศการ Hope is Dope: Episode Zero จะแบ่งรูปแบบของการ Stand For ที่หลากหลาย แต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือเพื่อให้เรายอมรับความแตกต่างทุกรูปแบบ นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวนิทรรศการถึงไม่มีเส้นแบ่งชัดเจน แต่ทำให้ทุกส่วนสามารถเชื่อมถึงกันได้หมดทุกโซน 

และไฮไลท์ของงานนี้ ที่ UNLOCKMEN ขอออกตัวอวยก่อนเลยว่าว้าวมาก และคงจะไม่สามารถเขียนบรรยายได้เท่ากับสัมผัสจริง คือการที่เราจะได้เป็นที่แรกในโลก ที่จะได้เข้าไปเดินเล่นใน Jinta Valley ก่อนที่ทาง NIMIT จะเปิดตัวกับ The alpha Sandbox Season 3 ก่อนใคร 


ถ้าถามว่างาน Fight For The Future เหมาะกับใคร? มีคำตอบเดียวเลยคือ ‘เหมาะกับทุกคน’ ที่จะได้สัมผัสโลกใบใหม่อันเป็นอนาคตอันใกล้มาก ๆ ที่กำลังจะมาถึงแบบ Online To Offline อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 

ก้าวสู่โลกใหม่ที่สนุกแบบไร้ขอบเขตที่งาน Fight for the Future ได้ที่ Siam Discovery ชั้น G และ ชั้น 4 ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565 

#SiamDiscovery #TheExploratorium #FightForTheFuture #NIMITSTUDIO #Cryptomind #Fairtex

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line