เมื่อ SpaceX ตั้งเป้าจะมีดาวเทียม 12,000 ดวงบนท้องฟ้า กับอันตรายต่อการสำรวจอวกาศในอนาคต

เช้าวันที่ 24 พฤษภาคมของประเทศไทย SpaceX ได้ปล่อยดาวเทียม Starlink ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเองจำนวน 60 ดวงขึ้นสู่อวกาศ ซึ่งนี่เป็นก้าวแรกของโครงการที่ SpaceX ตั้งเป้าจะให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้ และอินเทอร์เน็ตจะต้องมีความเสถียรเท่ากันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม รวมทั้งมีราคาไม่แพงอีกด้วย

Elon Musk CEO ของ SpaceX ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการปล่อยในครั้งนี้ว่า “นี่คือโครงการวิศวกรรมที่ยากที่สุดที่ผมเคยเห็นทีมของพวกผมทำเลย และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ค่อนข้างน่าประทับใจอย่างยิ่ง” ซึ่งดาวเทียมทั้ง 60 ดวงนั้นถูกซ้อนไว้ด้วยกันในจรวด Falcon 9 และมีน้ำหนักรวมสูงถึง 18,500 กิโลกรัม โดยนี่เป็นสถิติน้ำหนักสูงสุดที่จรวด Falcon 9 เคยนำส่งขึ้นสู่อวกาศอีกด้วย

ทาง SpaceX ตั้งเป้าจะส่งดาวเทียม Starlink ขึ้นไปสองระยะด้วยกัน โดยระยะแรกประกอบด้วยดาวเทียมจำนวน 4,409 ดวง ที่จะอยู่ในวงโคจรระหว่าง 550 กิโลเมตรกับ 1,325 กิโลเมตรจากพื้นโลก ก่อนที่ระยะสองจะปล่อยอีก 7,518 ดวง เพื่อโคจรในวงโคจรที่ต่ำกว่าเล็กน้อย นั่นคือระหว่าง 335 ถึง 346 กิโลเมตรจากพื้นโลก รวบยอดได้เป็น 11,927 ดวงพร้อมโคจรครอบคลุมทุกจุดบนพื้นโลก ด้วยจุดมุ่งหมายต้องการให้บริการอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และสัญญาณเสถียรพอที่จะไม่หน่วงแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

ต้องยอมรับว่าวิธีแก้ปัญหาของ SpaceX นั้นชาญฉลาดเป็นอย่างมาก การลดระยะวงโคจรของดาวเทียมจากวงโคจรค้างฟ้า ซึ่งอยู่สูงขึ้นไปกว่า 42,164 กิโลเมตร ให้เหลือเพียงหลักร้อยกิโลเมตรจะช่วยลดปัญหาการหน่วงได้อย่างแน่นอน ทว่าด้วยจำนวนดาวเทียมที่สูงกว่า 12,000 ดวง ในพื้นที่วงโคจรที่หนาแน่นไปด้วยดาวเทียมดวงอื่นอยู่แล้ว ก็อาจทำให้มีโอกาสเสี่ยงเกิดการชนกันเป็นทอด ๆ บนอวกาศ แบบที่ปรากฏในภาพยนตร์ Gravity นั้นมากขึ้น

อีกปัญหาที่บรรดานักดาราศาสตร์บนภาคพื้นโลกกังวลนั้นก็คือ บรรดาดาวเทียม Starlink จำนวนมากที่ถูกส่งขึ้นไปนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการสำรวจวัตถุบนท้องฟ้าจากกล้องบนโลก เนื่องจากแค่ 60 ดวงที่ถูกปล่อยขึ้นไปในหนนี้สว่างมากพอที่จะให้ผู้คนบนโลกพอสังเกตได้ด้วยตาเปล่าเลย (เป็นราวกับขบวนรถไฟของดาวเทียมที่สวยงาม ซึ่งเราสามารถดูช่วงเวลาที่จะสังเกตุได้ที่ลิงก์นี้) และด้วยจำนวนที่มากถึง 12,000 ดวง Starlink จะมีอยู่บนท้องฟ้ามากกว่าดวงดาวที่เราสังเกตได้ด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว

ปีที่แล้วบริษัท RocketLab ผู้ให้บริการปล่อยจรวดของสหรัฐก็เคยโดนบรรดานักดาราศาสตร์โวยมาแล้ว หลังจากส่งเจ้าลูกบอลดิสโก้อย่าง Humanity Star ขึ้นไปสู่วงโคจรรอบโลก ซึ่งสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า และแน่นอนว่ามันไปรบกวนบรรดานักดาราศาสตร์ที่สังเกตการณ์วัตถุบนท้องฟ้าอยู่ แต่ข่าวดีของ Humanity Star ก็คือมันอยู่บนวงโคจรเพียงแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น แต่ Starlink อาจมีอายุใช้งานได้นานถึง 5 ปีเลยทีเดียว

ก็ต้องดูว่าทาง SpaceX จะแก้ไขปัญหาในส่วนนี้อย่างไร ซึ่งหากแก้ไขได้สำเร็จแล้วนั้น นี่จะเป็นหนึ่งในโครงการที่อาจพลิกโฉมวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้คนทั่วโลกไปได้เลย

Written by: KornKT 

Source: 1 / 2 / 3