DESIGN

HUBLOT: “เรือนเวลาบุษราคัม” เมื่อดีไซน์ล้ำสมัยเจอกับวัสดุสุดแข็งแกร่งอย่างแซฟไฟร์สีเหลือง

By: TOIISAN December 23, 2019

นาฬิกาถือเป็นไอเทมที่อยู่คู่กับเหล่าสุภาพบุรุษมาอย่างยาวนาน บางคนมองว่านาฬิกาคือสิ่งที่ต้องพกติดตัวไปทุกที่เพื่อบอกเวลา บางคนมองว่านาฬิกาเป็นแฟชั่น และหลายคนชื่นชอบสไตล์รวมถึงดีไซน์ที่เฉพาะตัวของแต่ละแบรนด์ ด้วยมุมมองที่แตกต่างทั้งหมดทำให้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนาฬิกาแบรนด์ Hublot ที่หยิบวัสดุสุดล้ำค่าอย่างแซฟไฟร์มาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเรือนเวลาร่วมสมัยที่ตอบโจทย์ใครหลายคน 

Hublot (อูโบลท์) แบรนด์นาฬิกาสวิตฯ ก่อตั้งโดย Carlo Crocco เมื่อปี 1980 ถือเป็นนาฬิกาแบรนด์แรกที่ริเริ่มเอาแผ่นยางธรรมชาติมาทำเป็นสายนาฬิกาเพื่อใช้กับตัวเรือนทำจากทองคำ ซึ่งการนำยางมาเป็นส่วนประกอบของนาฬิกาเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตแบรนด์อื่นในช่วงเวลานั้นมองว่าไม่น่าจะมีใครชอบและต้องขายไม่ออกอย่างแน่นอน 

ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม ผู้คนชื่นชอบไอเดียสายนาฬิกาแบบยางของ Hublot แต่แบรนด์ก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าไหร่นักจนปี 2004 เมื่อ Jean-Clsude Biver ขึ้นมารับตำแหน่ง CEO พร้อมกับสร้างคอลเลกชันเรือนเวลาชื่อว่า Big Bang นาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟบอกเวลาอย่างแม่นยำ โดยมักใช้วัสดุหลายอย่างมาผลิตทั้ง ทองคำ เหล็ก และอัญมณี พร้อมกับการกระโดดเข้าสู่วงการกีฬาด้วยการเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอลชื่อดังจากเกาะอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2008 

ด้วยการริเริ่มอะไรหลาย ๆ อย่างและยังไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำให้ในที่สุดจากแบรนด์นาฬิกาน้องใหม่นอกสายตากลายเป็นนาฬิกาแบรนด์ดังที่คนเล่นจะต้องรู้จัก แถมตอนนี้ Hublot ก็เตรียมสร้างสรรค์สิ่งใหม่อีกครั้งด้วยเรือนเวลาจากวัสดุราคาสูงอย่างแซฟไฟร์ในคอลเลกชัน ‘Spirit of Big Bang Sapphire’ 

เรือนเวลาคอลเลกชัน Spirit of Big Bang Sapphire ของ Hublot มีทั้งหมดสามสีด้วยกันคือ สีใส สีน้ำเงิน และสีทอง โดยตัวพิเศษที่ทุกคนต่างให้ความสนใจคงหนีไม่พ้นนาฬิกาสีทอง ‘Spirit of Big Bang Yellow Sapphire’ แซฟไฟร์สีเหลืองจากการหลอมทองแดงกับอะลูมิเนียมออกไซด์ด้วยความร้อนที่พอดีเพื่อให้ได้แซฟไฟร์สีตรงตามต้องการ แถมเรือนเวลาที่ว่ายังเบาเทียบเท่ากับนาฬิกาที่ทำจากไทเทเนียมด้วยน้ำหนักแค่ 107 กรัม 

ความโดดเด่นของ Spirit of Big Bang Yellow Sapphire ไม่ได้มีแค่สีสันกับดีไซน์ เพราะทางแบรนด์เลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแกร่งตรงตามมาตราความแข็งของโมส (Mohs scale of mineral hardness) หรือการวัดความแข็งของแร่ด้วยมาตรฐาน 10 ชนิด ยิ่งแร่อยู่ในระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งทนทานรอยขีดข่วนและแข็งแกร่งมากเท่านั้น ซึ่งแซฟไฟร์สีเหลืองอยู่ในระดับที่ 9 แข็งแกร่งรองจากเพชรที่อยู่ในระดับสิบเท่านั้น จึงหมดห่วงเรื่องรอยขีดข่วนหรือการกระแทกแล้วตัวเรือนแตกไปได้เลย 

นาฬิกาประกอบขึ้นจากการทำมือร่วมกับกระบวนการผลิตที่ทันสมัยทำให้ ‘Spirit of Big Bang Sapphire’ กลายเป็นนาฬิการ่วมสมัย คล้ายกับเป็นจุดกึ่งกลางของการแบ่งยุคสมัยเก่าสุดวินเทจกับยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ขอบนาฬิกาสีเหลืองจะถูกยึดด้วยสกรูไทเทเนียมรมดำทั้งหมด 6 ตัว ส่วนหน้าปัดจะโชว์การเคลื่อนไหวของกลไกโครโนกราฟอันซับซ้อนผ่านตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร โดยรายละเอียดในหน้าปัดจะใช้แค่ดำกับเหลืองเท่านั้น 

ตัวเรือนขนาดกำลังดีนำมาเชื่อมเข้ากับสายนาฬิกายางสีเดียวกันกับตัวเรือนที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตัวล็อกสายนาฬิกาจะทำจากไทเทเนียมชั้นดี สามารถกันน้ำได้ถึง 50 เมตร และสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง ทำให้นาฬิกาเรือนหรูสามารถใส่ไปได้ทุกสถานการณ์ 

นาฬิกาจากวัสดุล้ำค่าของแบรนด์ Hublot จากประเทศที่ขึ้นชื่อผลิตเรือนเวลาที่เที่ยงตรงที่สุดในโลกอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ในคอลเลกชัน ‘Spirit of Big Bang Sapphire’ ทั้ง 3 สี จะปล่อยออกมาเพียงแค่สีละ 100 เรือนเท่านั้น ด้วยราคา 104,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยราว 3.5 ล้านบาท 

หากนักสะสมนาฬิกากระเป๋าหนักคนไหนสนใจอยากมีไว้ครอบครองสักเรือนก็สามารถสั่งซื้อได้ที่ช็อป Hublot สาขาเซ็นทรัลเอมบาสซี หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ hublot.com และถ้าใครมีไว้ในครอบครองเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมแบ่งปันให้ UNLOCKMEN ได้ยลโฉมกันด้วยนะครับ 

 

SOURCE: 1 / 2 / 3

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line