Life

ชีวิตมีเรื่องเครียดเยอะพอแล้ว มาฝึกสมองสร้าง POSITIVE MINDSET กันดีกว่า

By: Chaipohn June 19, 2020

ในชีวิตที่มีเรื่องชวนให้ความเครียดก่อตัวในหัวสมองเกิดขึ้นรอบตัว ทุกวัน ตลอดเวลา งานที่แสนจะเครียด จะพักผ่อนเปิด Internet ก็เจอแต่เรื่องดราม่า หันไปหาเพื่อนร่วมงานก็เจอคนลบ ๆ ที่มองทุกอย่างในแง่ลบไปหมด อันที่จริงทุกข้อที่เกริ่นมาไม่ใช่แค่เรื่องสมมตินะครับ ชีวิตเรามันเจอเรื่องทั้งหมดนี้ได้ครบในหนึ่งวันจริง ๆ และถ้าเราขาดสติไป สิ่งเหล่านี้ก็พร้อมจะดึงเราให้จมดิ่งไปกับความซึมเศร้าที่ทำให้เรากลายเป็นคนคิดลบได้โดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่เราต้องทำในยุคที่ความลบอยู่รอบตัว คือการตั้งสติ มีสมาธิกับความคิดของตัวเองให้มาก อย่าปล่อยให้ความคิดลบ ๆ รอบตัวเอาชนะจิตใจเราได้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากไปกว่านี้ อย่างที่โบราณว่าไว้ไม่มีผิด ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เรามีวิธีปรับเปลี่ยนความคิดให้มี Positive Mindset เพื่อเอ็นจอยพลังความคิดบวก ทิ้งความทุกข์ใจขั้วลบไว้ที่เดิม อย่าเอามันมาซ้ำเติมสมองเรากันอีกเลย

Mindset คือกระบวนการทางความคิด ทัศนคติ มุมมองที่มีต่อสิ่งรอบตัวและโลกใบนี้ ซึ่งมันจะมีผลมากกับอารมณ์และพฤติกรรมของเรา ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม คนที่มี Negative Mindset คือคนที่มีทัศนคติในแง่ลบ คนแบบนี้เจอความท้าทายหรืออะไรที่ยากกว่าปกติ จะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ หาข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้น แต่คนที่มี Positive Mindset คือคนที่ทัศนคติบวก เมื่อเจอความท้าทาย จะหาวิธีจัดการกับมันให้ได้ และมองว่ามันจะช่วยพัฒนาความสามารถขึ้นไปอีก 

แล้วเราจะเริ่มปรับ Mindset ของเราอย่างไรให้เป็น Positive เรามาลองค่อย ๆ ทำตามทีละข้อ ที่ทำได้ง่ายดายกว่าที่คิด ทำไปวันละนิดรับรองว่าจะชินไปเอง


ต้องยอมรับว่าในชีวิตพวกเรา ไม่มีทางเลยที่จะราบรื่นไร้อุปสรรค 100% พวกเรามีโอกาสเจอเรื่องไม่พอใจ หรือเจออุปสรรคยาก ๆ ที่ทำให้ชีวิตเราลำบากบ้านในบางจังหวะ สิ่งที่มีประโยชน์กว่าการโมโหหรือโทษโชคชะตา คือการมองหาว่า ในอุปสรรคนั้นมีโอกาสอะไรดี ๆ ให้เราได้บ้าง

เริ่มจากเรื่องง่าย ๆ เช่นรถติดยาวบนทางด่วนบางนา แทนที่เราจะหงุดหงิดหาทางไป ซึ่งคงไม่ได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ เราสามารถเลือกมองข้อดีของการใช้เวลานาน ๆ กลางรถติดว่า ช่วยให้เราได้อยู่กับคนที่เรารักนานขึ้น ได้ฟังเพลงจาก Playlist ที่เราชอบได้มากขึ้น หรือการที่หัวหน้าคอยให้งานยาก ๆ กับคุณ แทนที่จะนั่งรวมตัวด่าหัวหน้า เราสามารถมองอีกมุมได้ว่าหัวหน้าเชื่อใจเรามากกว่าคนอื่น ทำให้เรามีโอกาสก้าวหน้าเพราะผลงานอยู่ในสายตามากกว่าคนอื่นด้วยเช่นกัน


“PERFECTIONISM เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่เป็นตัวกีดกันความสำเร็จ”

เมื่อเรายึดติดว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ 100% ทำให้บางครั้งเรารู้สึกเหนื่อยกับความเครียดและความคาดหวัง ลองเปลี่ยนความคิดว่า “เราจะทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างอาจไม่สามารถดีเยี่ยมได้ 100% เพียงแต่เราได้พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว หากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ก็พยายามที่จะหาทางแก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้แต่ละจุด”

เมื่อคุณคิดได้แบบนี้  คุณจะสนุกกับการเผชิญหน้าต่ออุปสรรคและมีความสุขในความสำเร็จของคุณในแต่ละก้าว และที่สำคัญ คิดไว้เสมอว่าความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์แบบจากการทำสิ่งที่ท้าทาย ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราพัฒนาตัวเองได้มากขึ้นด้วย

จำไว้…. Everybody is not Perfect but we can do the best to success.


บางครั้งคุณมักจะคอยเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอดเวลาว่า คุณนู้นดีอย่างโน้น คนนี้ดีกว่าคุณตรงนี้ คนนั้นรวยดีมีทรัพย์สินมากมาย

มันเหมือนเอานกไปเทียบกับลิง แล้วคิดว่าทำไมเราบินไม่ได้ ทำไมเราปีนต้นไม้ไม่ได้ ตัวเราเองควรจะหยุดเพื่อมองข้อดีที่ของตัวเองที่มีอยู่ เพราะแต่ละคนมีจุดดีจุดเด่นไม่เหมือนกัน เริ่มจากการหาจุดแข็งของตนเองให้เจอ อาจจะเป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว หรือสิ่งที่หลายคนมักจะเอ่ยปากชื่นชมคุณ จากนั้นจงภูมิใจในสิ่งที่มี มุ่งเน้นถึงความสำเร็จ และมีความสุขกับความสำเร็จของตนเอง ไม่อิจฉา หรือคอยเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมันจะเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


ถ้าเรามัวแต่คอยสนใจคนอื่น คำพูด ความรู้สึกของทุกคนรอบตัวคุณมากเกินไป อาจทำให้คุณกังวลมากเกินไปจนไม่เหลือความเป็นตัวเองเลย เราไม่ได้บอกให้คุณไม่สนใจเสียงรอบข้างหรือโลกภายนอก เพียงแต่คุณควรสนใจในสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่คุณควรสนใจ ถ้าคุณเป็นหัวหน้าที่มีลูกน้อง 20 คน แล้วต้องมานั่งกังวลว่าแต่ละคนคิดอะไร บริษัทคงไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้แน่นอน

ในโลกเราปัจจุบัน มีทั้งคนที่หวังดี และไม่หวังดีกับเรา ถ้าเรามัวแต่สนใจทุกเสียงจากทุกคน ไปใส่ใจคำพูดของคนที่ไม่หวังดีกับเรา หรือกังวลกับพฤติกรรมของคนที่ทัศนคติแย่ นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไรในการพัฒนาตัวเองแล้ว อาจทำให้เราติดขัดในการตัดสินใจและความก้าวหน้าได้   เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมามีอำนาจการตัดสินใจเหนือคุณ แต่จำไว้ว่าสิ่งที่คุณตัดสินใจต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเช่นกัน


ที่จริงยังมีวิธีอีกมากในการเปลี่ยนทัศนคติให้เป็น Positive Mindset ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นที่เราอยากให้คุณเริ่มเปลี่ยนความคิดทีละนิด ทีละหน่อย รับรองว่าทำได้ไม่ยาก ขอแค่มีสติ แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่าการเริ่มเปลี่ยนความคิดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แค่คุณเริ่มเปลี่ยนความคิด คุณก็จะมีความสุขในการดำเนินชีวิตมากขึ้น

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line