World

ใคร ๆ ก็พลาดกันได้ “5 เหตุการณ์สุดเฟลของหน่วย FBI”ที่ไม่เท่เหมือนในหนัง

By: TOIISAN March 21, 2019

สำหรับคอหนังหรือซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนจะต้องเคยได้ยินชื่อ FBI แน่นอน เพราะในภาพยนตร์ FBI คือหน่วยงานที่คอยปราบปรามผู้ก่อการร้าย เป็นต้นแบบคาแรคเตอร์ให้กับตัวเอกของหนังแอคชันอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามโลกแห่งความเป็นจริงอาจไม่เท่แบบในหนังเสมอไป UNLOCKMEN จะพาไปดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ FBI เคยทำพลาดกันบ้าง ทั้งเรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่โตที่สร้างชื่อเสียให้กับองค์กร

The Intercept

Federal Bureau of In vestigation (FBI) หรือสำนักงานสอบสวนกลางเป็นหน่วยข่าวกรองความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา มีหน้าที่หลักคือสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรงและต่อต้านการก่อการร้ายโดย FBI จะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงยุติธรรม คล้ายกับหน่วย MI5 ของประเทศอังกฤษ

เจ้าหน้าที่ FBI คือบุคคลที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ผ่านการคัดเลือกหลายขั้นตอน ทั้งการตรวจสอบประวัติ ทดสอบความรู้ความสามารถ ไหวพริบ และสมรรถภาพของร่างกายที่จะต้องตื่นตัวอยู่เสมอ

แต่ไม่ว่าเชี่ยวชาญแค่ไหนก็ใช่ว่าทุกภารกิจจะประสบความสำเร็จทุกครั้ง เห็นได้จากเหตุการณ์สุดเฟลของหน่วย FBI ที่ทำให้เรารู้ว่าไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนแต่สุดท้ายคนเราก็พลาดกันได้

 

FBI สังหารเหยื่อลักพาตัว

Pittsburgh Post-Gazette

หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ FBI คือยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุร้ายและคอยช่วยเหลือตัวประกัน แต่บางครั้งพวกเขากลับล้มเหลวโดยเหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 ในรัฐเท็กซัส ชายฉกรรจ์พกอาวุธสองคนบุกไปบ้านของ Ulises Valladares และเรียกร้องให้เขาจ่ายเงินจำนวน 8,000 ดอลลาร์ โดยอ้างว่าเป็นหนี้สินที่ติดค้างกันอยู่ แต่นาย Valladares ปฏิเสธ ชายสองคนจึงจับเขาเป็นตัวประกัน และให้พี่ชายของเขาหาเงินค่าไถ่จำนวน 20,000 ดอลลาร์

เมื่อคนในครอบครัวโดนเรียกค่าไถ่สิ่งที่คนทั่วไปควรทำคือโทรแจ้งตำรวจ พี่ชายของ Valladares ตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากหน่วย FBI จนสามารถสืบหาถึงแหล่งกบดานของกลุ่มโจรและพร้อมนำกำลังบุกเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน แต่การบุกครั้งนี้กลับจบลงด้วยการยิงคนที่จะช่วยเหลือแทน

Houston Chronicle

FBI อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในห้องอับแสงที่มืดจนมองอะไรไม่เห็น จู่ ๆ ก็มีคนคว้าปืนไรเฟิลจู่โจม M-4 ของเจ้าหน้าที่ การถูกจู่โจมในครั้งนั้นไม่สามารถยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ต้องหาลักพาตัว เป็นเหยื่อ หรือเป็นใครกันแน่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเหนี่ยวไกทันที

ครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่พอใจคำแถลงของ FBI เพราะบางสำนักข่าวรายงานว่าสภาพศพของตัวประกันถูกมัดอยู่ ทำให้ครอบครัว Valladares ฟ้อง FBI เพื่อเรียกค่าเสียหาย

ทนายตั้งข้อสงสัยว่าผู้เสียชีวิตถูกมัดอยู่แล้วจะคว้าปืนไรเฟิลของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไรและตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เองมากกว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดของ FBI จริง หรือผู้เสียชีวิตคว้าปืนของเจ้าหน้าที่จนทำให้ต้องเหนี่ยวไก แต่สุดท้ายผลของภารกิจช่วยเหลือตัวประกันครั้งนี้ถือว่าล้มเหลว

 

 

ลืมเอกสารลับไว้ที่บ้านผู้ต้องสงสัย

Grunge

เรื่องยิบย่อยอย่างการลืมของอาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าไม่เห็นจะร้ายแรงเพราะใคร ๆ ต่างก็หลงลืมกันได้ แต่การหลงลืมเอกสารราชการที่มีความสำคัญมาก ๆ ควรเป็นสิ่งสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ FBI ควรจะลืม สิ่งที่แย่ไปกว่าการลืมของก็คือการลืมของไว้ในบ้านผู้ต้องสงสัย

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2010 เมื่อทีม FBI บุกบ้านของนักสิทธิมนุษยชนต่อต้านสงครามที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินิโซตา การบุกบ้านครั้งนี้ไม่พบอะไรน่าสงสัยและไม่เจอสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ยกกำลังกลับดันลืมทิ้งเอกสารชิ้นหนึ่งไว้ในบ้าน

wnycstudios

สำนักข่าว MPR News รายงานว่า เอกสารที่ทีม FBI ลืมทิ้งไว้ในบ้านของผู้ต้องสงสัยมีข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับเจ้าของบ้าน ทนายความของเขา บันทึกการฟ้องร้อง ข้อกล่าวหาเรื่องการพกอาวุธปืน ประวัติข้อมูลเดินทางของนักเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามคนอื่น รูปภาพอพาร์ตเมนต์หลายแห่ง และคำถามสำหรับสอบสวนคู่รักจำนวน 102 ข้อ

สิ่งที่คนให้ความสนใจคือคำถาม 102 ข้อ ที่เคยเห็นบ่อยครั้งในหนังสืบสวนสอบสวน เวลา FBI จะเค้นความจริงจากผู้ต้องสงสัยจะจับคู่สามี-ภรรยา แยกกันและถามคำถามเดียวกันเพื่อดูว่าทั้งคู่ตอบคำถามตรงกันหรือไม่ ซึ่งข้อมูลทุกอย่างที่สำนักข่าวได้รับคือข้อมูลทางราชการที่ไม่ควรเปิดเผยให้คนทั่วไปรับรู้ และทาง FBI ก็เอาผิดใครไม่ได้เพราะว่าเจ้าหน้าที่ของตัวเองเป็นคนทิ้งเอกสารสำคัญนี้ไว้จริง ๆ

 

พังรถซูเปอร์คาร์ราคากว่า 10 ล้านบาท

RM Sotheby’s

“อย่าปล่อยให้ FBI เก็บของมีค่าของคุณถ้าคุณยังอยากได้มันกลับคืนมา” คือประโยคที่สื่อหลายสำนักแซว FBI

สิ่งของมูลค่ากว่าสิบล้านบาทต้องพังลง เพราะการจับกุมนักต้มตุ๋นรายหนึ่งชื่อ Tom Baker เขาเป็นชายผู้ชื่นชอบรถยนต์หรูราคาแพงแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อรถยนต์สวย ๆ เมื่อไม่สามารถซื้อรถได้ดั่งใจเบเกอร์จึงใช้วิธีขโมยรถจากตัวแทนจำหน่าย ด้วยเทคนิคสุดธรรมดาอย่างการไปทดลองขับรถยนต์

ปี 2003 เบเกอร์ไปทดลองขับรถยนต์ซูเปอร์คาร์ Ferrari F50 ผลิตในปี 1996 และมีเพียง 349 คันทั่วโลก จากนั้นเขาจึงชิ่งหนีไปพร้อมกับเฟอร์รารีคันงาม แต่สุดท้ายก็โดนเจ้าหน้าที่ FBI ตามจับพร้อมกับยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้เพื่อเป็นหลักฐานพิจารณาคดี

Daily Mail

ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่โจรขโมยรถ เพราะในปี 2009 เจ้าหน้าที่ FBI นาม Fred Kingston เป็นผู้ที่จะต้องย้ายซูเปอร์คาร์คันนี้ไปยังโรงเก็บรถอีกแห่ง เขาพูดคุยกับผู้ช่วยอัยการ J. Hamilton Thompson และถามว่าสนใจอยากลองเดินทางสั้น ๆ ด้วยรถยนต์ที่แสนพิเศษนี้ไหม ซึ่งผลที่ออกมาคือการเดินทางในครั้งนี้สั้นอย่างเจ้าหน้าที่ Kingston ว่าจริง ๆ เพราะเขาขับรถออกจากโรงจอดรถได้ไม่เท่าไหร่ก็เกิดความผิดปกติบริเวณท้ายรถ ทำให้รถซูเปอร์คาร์แหกโค้งไปชนเข้ากับต้นไม้ เจ้าหน้าที่ Kingston ต้องเย็บศีรษะสองเข็ม ส่วนรองอัยการปลอดภัยดี แต่รถซูเปอร์คาร์ยับเยินไม่เป็นชิ้นดี

บทสรุปของเรื่องนี้จบลงดื้อ ๆ ด้วยถ้อยแถลงของกระทรวงยุติธรรมว่า กระทรวงปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจำนวน 750,000 ดอลลาร์ ให้กับบริษัทประกัน Southfield และเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับคดีจะไม่เปิดเผยออกสื่อ

 

ปืนลั่นในคลับ

BBC

เรื่องราวที่ใครต่อใครต่างมองว่าเจ้าหน้าที่ FBI งี่เง่ากว่าที่คิดและไม่เท่แบบในหนังเกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อเจ้าหน้าที่ FBI รายหนึ่ง ไปเที่ยวที่บาร์ในเมืองเดนเวอร์ เขาเป็นนักเต้นฝีเท้าดีที่วาดลวยลายไม่ธรรมดากลางฟลอร์เต้นรำ การเต้นโอเวอร์ของเขาดึงความสนใจคนในบาร์เป็นอย่างดี และมีคนบันทึกภาพของเขาขณะกำลังเต้นอย่างเมามันเอาไว้ด้วย

ถือเป็นเรื่องปกติเมื่อนอกเวลางานเจ้าหน้าที่ FBI จะทิ้งมาดขรึมที่ใช้ขู่เหล่าอาชญากรและกลับมาเป็นคนธรรมดาที่ชอบเต้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เมื่อ CNN รายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่คนนี้กำลังโชว์สเต็ปเท้าไฟและตีลังกา ไม่ใช่แค่เทคนิคการตีลังกาของเขาที่ผู้คนสนใจ แต่ของบางอย่างที่เขาทำตกเอาไว้ก็เรียกเสียงฮือฮาได้เช่นกัน

The Denver Channel

เจ้าหน้าที่ FBI คนนี้ทำปืนพกตกกลางฟลอร์เต้นรำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ควรพกปืนเข้ามาเที่ยวในบาร์  CNN เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นว่าผู้คนในร้านตื่นตระหนกเมื่อเห็นปืน เจ้าหน้าที่คนนี้ก็ทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกขั้นเพราะเขาพยายามรีบเก็บปืน แต่ปืนดันลั่นใส่คนในร้าน

เจ้าหน้าที่ FBI คนนี้โชคดีที่กระสุนโดนแค่ขาของผู้เคราะห์ร้าย ทำให้ไม่มีใครเสียชีวิตจากความประมาทของเขา และเปลี่ยนให้บรรยากาศของคดีจากตึงเครียดกลายเป็นเรื่องตลกสุดขายขี้หน้าของ FBI แทน

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ถูกจับกุมตัวเพราะ FBI สืบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พร้อมระบุว่าแอลกอฮอล์คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาดที่ไม่คาดฝัน แต่ถ้าหากพิจารณาดูดี ๆ ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นตั้งแต่เจ้าหน้าที่ FBI ไม่ยอมทิ้งปืนไว้ที่บ้านและพกมันมาเที่ยวกลางคืนด้วยมากกว่า

 

การพิสูจน์หลักฐานผิดพลาดทำให้คนบริสุทธิ์ต้องคิดคุก

Wisconsin Center for Investigative Journalism

The Wisconsin Center for Investigative Journalism ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเรื่องการสืบสวนคดีความนำเสนอประเด็นที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ FBI ไปทั่วโลก จากกรณีรื้อคดีข่มขืนของ Richard Beranek ในปี 1990 ที่ศาลตัดสินว่ามีความผิดไปแล้วกลับขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง

เนื้อหาของคดีคือ Beranek ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าข่มขืนหญิงอายุ 28 ปี ทั้งยังสะกดรอยตามและคุกคามทางเพศผ่านโทรศัพท์ แต่เขามีพยานหกคนที่ยืนยันว่า Beranek อยู่กับน้องสาวห่างออกไป 600 ไมล์ หรือกว่า 900 กิโลเมตรในวันเกิดเหตุ แต่เพราะเขาเคยมีคดีล่วงละเมิดทางเพศติดตัวมาก่อน และภาพสเกตซ์ของคนร้ายก็คล้ายคลึงกับเขา

เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของ FBI ตรวจสอบหลักฐานชิ้นสำคัญอย่างเส้นขนที่พบบนชุดชั้นในของเหยื่อ จนได้ผลสรุปว่าขนบนชุดชั้นในอาจเป็นขนของ Beranek ทำให้พยานหกคนที่ยืนยันแน่นหนาก็ดูไม่หนักแน่นพอที่จะพิสูจน์ว่าเขาบริสุทธิ์ ดังนั้นผลการตัดสินทำให้ Beranek โดนโทษจำคุก 243 ปี

Wisconsin Public Radio

ระหว่างที่ Beranek รับโทษจำคุก การเปรียบเทียบหลักฐานจากเส้นขนของ FBI ถูกโจมตีว่าไม่น่าเชื่อถือ จนกระทั่งปี 2016 The Innocence Project หรือโครงการผู้บริสุทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลให้นำคดีที่ใช้เส้นผมหรือเส้นขนเป็นหลักฐานที่ตรวจสอบโดย FBI กลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพราะโครงการตรวจสอบคดีกว่า 1600 คดี และพบว่าร้อยละ 90 เกิดปัญหาเพราะการตรวจหลักฐานพลาดของ FBI

จากการร้องเรียนและเปิดเผยข้อผิดพลาดของขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ได้ผลสรุปว่า การวิเคราะห์เส้นผมของห้องปฏิบัติการนิติเวชศาสตร์ของ FBI ในช่วงทศวรรษ 1990 ผิดพลาดจริง ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่น่าให้อภัย และจากการตรวจ DNA ใหม่จากเส้นขนที่พบบนชุดชั้นในของเหยื่อก็ได้ข้อสรุปที่น่าเศร้าว่านาย Beranek ที่โดนตัดสินจำคุกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจริง ๆ เขาต้องคิดคุกฟรีนานกว่า 27 ปี

 

SOURCE1 SOURCE2 SOURCE3 SOURCE4

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line