GROOMING
Style Guide : Cool Slick hairstyle for Party season ทรงผมสุดเนี้ยบสำหรับงานรื่นเริงที่ทำได้ทุกวัน
By: Thada November 20, 2016 44494
เรากำลังเข้าสู่ช่วงปลายปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีงานเทศกาลรื่นเริงบันเทิงใจมากมายรออยู่เพียบ ทั้งงานแต่งงาน งานปาร์ตี้ ที่จะลากยาวตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงปีหน้า แน่นอนว่าผู้ชายอย่างเราต้องเตรียมไอเดียสไตล์ต่างๆ เอาไว้ สำหรับไปงานเหล่านั้นแต่เนิ่นๆ เพื่อไปลุยงานเทศกาลและปาร์ตี้ต่างๆ ได้อย่างโดดเด่น มั่นใจ ไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งนอกจากเรื่องของแฟชั่นสไตล์เสื้อผ้าที่จะสวมใส่แล้ว ยังมีเรื่องที่เราละเลยไปไม่ได้เลย นั่นคือทรงผมเนี้ยบๆ ที่เข้ากันได้ดีกับทุกสไตล์การแต่งตัว
ถ้าพูดถึงทรงผมสุดเนี้ยบแบบ Slick Style สิ่งแรกที่เป็นหัวใจสำคัญคือความเงางามเป็นธรรมชาติแบบ Wet Look ดูสุขภาพดี เส้นผมจัดเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยังคงต้องมีลูกเล่นที่ไม่ทำให้ overall look ของคุณดูเรียบร้อยมากจนเกินไป ซึ่งถ้าพูดถึง Slick hairstyle ที่เหมาะสำหรับเทศกาล และโอกาสพิเศษๆ ทีมงาน UNLOCKMEN มีทรงผมที่เลือกแล้วว่าเท่โดดเด่น เหมาะจะทำไปทุกงานปาร์ตี้ หรือจะทำไปทำงาน เดินห้างในวันธรรมดาก็ยังสามารถทำได้ ได้แก่ Side Part, Brushed Up, Slick Back
Side part
ทรงหวีเป๋สุดคลาสสิคที่มีมานานหลายยุคหลายสมัย เป็นทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งใน Casual และ Formal look ด้วยความเนี้ยบแบบเรียบง่ายที่ดูไม่ต้องพยายามมากจนเกินไป เหมาะสำหรับใช้ไปออกงานต่างๆ แถมยังเป็นที่นิยมมากในหมู่นักธุรกิจก่อนการประชุมสำคัญๆ และวิธีเซ็ตผมทรงนี้ก็แสนง่ายไม่ยากเย็นอย่างที่คิด เพียงแค่เป่าผมให้แห้ง ใช้ Wet Gel / Wax / Oil Based Pomade ลูบผม แล้วปาดด้วยหวีซี่ถี่ตามความชอบ หวีเสยปัดไปด้านที่ต้องการ จากนั้นแล้วฉีดสเปรย์ล๊อคเพื่อให้ผมอยู่ทรงตลอดทั้งวัน สิ่งที่ต้องระวังคือผู้ชายที่มีผมหยิก หรือผมแห้งเสียชี้ฟู อาจจะต้องดูแลให้ผมให้ดีเป็นพิเศษ เพราะความเนี้ยบเป็นหัวใจที่สำคัญมากสำหรับทรงนี้
Modern Quiff or Brushed Up
ทรงผมที่พัฒนามาจาก Undercut จึงมีทั้งความคลาสสิค แต่ก็ยังให้ลุคที่เท่และทันสมัยมากขึ้น ถ้าพูดถึงทรงผมสไตล์นี้ อาจจะนึกถึงภาพ James Dean ที่มีการปรับรายละเอียดขึ้นมาตามยุคสมัย จึงเป็นทรงยอดฮิตที่วัยรุ่นผู้ชายตะวันตกทั่วทวีปยุโรป อังกฤษ และอเมริกา ต่างนิยมทำกันอย่างกว้างขวาง ทรง Brushed Up นี้เหมาะกับคนที่มีผมยาวปานกลางเหมือนรองทรงปกติ แต่ต้องมีการซอยผมด้านบนให้มีความยาวระหว่าง 4-6 นิ้ว เพื่อเอาไว้เสยขึ้นไปได้ วิธีการเซ็ตผมทรง Brushed up ก็ไม่ยากเย็นเพียงคุณเป่าผมให้แห้งหมาดๆ จากนั้นใช้แปรงม้วนยกโคนผมให้ตั้งขึ้นไปด้านบน และตบท้ายด้วยการใช้ Wet Gel / Wax / Oil Based Pomade ปาดซ้ำอีกทีเป็นอันเรียบร้อย ส่วนจุดที่ต้องระวังคือพยายามอย่าให้ผมแตกกระจายมากจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นทรงผมเซอร์ๆ ในทันที ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับคนที่สภาพผมแห้งมากๆ จะลดทอนความเนี้ยบลงไปของทรงผมนี้ไปเยอะเลยทีเดียว
Slick Back
ทรงผมสุดคลาสสิคที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความ Vintage แบบ The Godfather ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ด้วยลักษณะการจัดทรงแบบปาดเรียบไปด้านหลังสไตล์ Old School เป็นการเปิดหน้าผากโชว์โครงหน้าให้เห็นชัดเจน และมีความเนี้ยบที่เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดสูท ชุดทำงาน ชุดยีนส์ หรือแม้แต่ชุดลำลอง ทรง Slicked Back จึงเป็นอีกทรงผมสารพัดประโยชน์ ที่เหมาะสำหรับผู้ชายผมสั้นถึงยาวปานกลาง ส่วนด้านข้างมักจะ fade แบบ Undercut (สั้นกว่าแบบ Brushed Up) เพื่อปาดให้เรียบไปกับผมด้านบน
วิธีการเซ็ต เริ่มจากเป่าผมเสยไปด้านหลังจนหมาด จากนั้นใช้หวีซี่ปาดไปด้านหลังเพื่อจัดแต่งทรง ใช้ Wet Gel / Wax / Oil Based Pomade เพื่อให้ผมอยู่ทรงก็แล้วแต่ความชอบ ซ้ำด้วยการฉีดสเปรย์ล๊อคให้อยู่ทรงทั้งวัน เคล็ดลับของทรงนี้คือ ถ้าผมยิ่งเงาจะทำให้ดูเนี้ยบ และเป็นทางการมากขึ้น ส่วนสิ่งที่ต้องระวังคือการคุม Overall Look ไม่ให้เรียบร้อยจนเกินไป และต้องคอยหมั่นเล็มผมให้ดูเหมือนตัดใหม่ตลอดเวลา
จะเห็นได้ว่าจุดร่วมที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำผมทั้งสามทรงนี้ อยู่ที่คือสภาพผมที่ต้องมีความเงางาม แข็งแรงดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงความยาวที่พอเหมาะ ซึ่งล้วนต้องดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ ผู้ชายหลายคนอาจจะลองทำแล้วไม่เหมือนในแบบ ไม่ว่าจะโปะผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเข้าไปแค่ไหนก็ตาม ยิ่งพยายาม ผมยิ่งพันกันกลายเป็นยิ่งเละ แถมยังมีขุยขาวเกาะตามเส้นผมอีก ซึ่งสาเหตุนั้นมักจะเกิดจากสภาพผมที่แห้งเสีย ชี้ฟู แถมยังพันกัน โดยที่เราไม่รู้ตัวหรือมองข้ามมันไปก็แล้วแต่
เคล็บลับง่ายๆ ที่เราใช้เป็นประจำคือการเพิ่ม Toni & Guy Serum Drop เซรั่มที่จะช่วยเพิ่มความเงางามเป็นธรรมชาติ ทำให้ผมไม่พันกัน แถมยังช่วยบำรุงผมให้มีสุขภาพดีขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำ การใช้ก็ง่ายเหมาะกับผู้ชายอย่างพวกเรา แค่ใช้ Serum Drop 2-3 หยดลงบนฝ่ามือ จากนั้นก็ลูบไล้ผมตั้งแต่โคนไปถึงปลายผม สามารถใช้ได้ทั้งตอนผมหมาดหรือผมแห้ง นอกจากจะช่วยทำให้เซ็ตผมง่ายและเนี้ยบขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความเงางาม และบำรุงให้เส้นผมของเราดูสุขภาพดียิ่งขึ้นอีก
สุดท้ายหลายคนอาจจะมีคำถามคาใจ ว่าถ้าใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมแบบ Wet Look เช่น Oil-Based Pomade แล้ว ยังต้องใช้ Serum Drop อีกหรือ? เนื่องจากสภาพอากาศเมืองไทยเป็นเมืองร้อน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Oil-Based ที่ไม่มีคุณภาพ เสี่ยงที่จะทำให้ความมันติดเส้นผม ล้างออกยาก เสี่ยงต่อการทำให้เกิดสิวบนหนังศีรษะ และผมร่วงตามมา ที่สำคัญคือมันไม่ได้ช่วยบำรุงสุขภาพผม แบบที่ Serum Drop ทำได้นั่นเองครับ
สำหรับใครที่เริ่มสนใจในตัว Toni & Guy สามารถหาซื้อได้ที่ Lazada / WeMall พร้อมโปรโมชั่นพิเศษตอนนี้ ซื้อสินค้า Toni & Guy 2 ชิ้น รับฟรีกระเป๋า Clutch Limited จาก Isawan เอาไปฝากสาวๆ ได้อีกต่อนึง เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ทรงผมใหม่ๆ โปรโมชั่นผลิตภัณฑ์ Toni & Guy ได้ที่ Facebook page : https://www.facebook.com/toniandguyproductsTH