FASHION

STYLE GUIDE: สไตล์ที่แตกต่างระหว่างคนต้องอยู่แต่บ้านกับคนที่ต้องออกไปเผชิญกับวิกฤตไวรัส

By: TOIISAN March 25, 2020

“สถานการณ์แบบนี้ใครเขาจะยังมานั่งคิดเรื่องแฟชั่น ?” ครับ พวกเราชาว UNLOCKMEN ก็ยังคงคิดถึงแฟชั่นและการแต่งกายอยู่เสมอไม่ว่าจะเจอกับเรื่องราวแบบไหน ไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจสิ่งรอบตัวแต่การตระหนักถึงเครื่องแต่งกายมีส่วนช่วยเราได้มากกว่าที่คิด บางคนอยู่บ้านแล้วเศร้าจนแทบหมดอาลัยตายอยาก หรือบางคนยังต้องออกไปเผชิญกับไวรัสโควิด-19 นอกบ้าน การแต่งตัวเหมาะสมตามสถานการณ์คือสิ่งที่จะช่วยปกป้องเราได้

ในวันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำสไตล์การแต่งตัวสองแบบด้วยกันทั้ง ‘คนต้องอยู่ติดบ้าน’ กับ ‘คนยังมีเหตุจำเป็นต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก’ เพราะการใส่ใจกับการแต่งตัวสามารถช่วยเราได้ไม่น้อย

 

คนที่ต้องอยู่ติดบ้าน

แฟชั่นสำหรับคนอยู่บ้านอาจดูไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วใส่กางเกงบ็อกเซอร์กับเสื้อกล้ามหรือเสื้อยืดหนึ่งตัวก็เป็นอันเสร็จ บางคนตื่นมาพร้อมชุดนอนก็ลุยงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อยาว ๆ  พลางคิดว่าดีด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องมานั่งรีดชุดทำงาน แต่ความรู้สึกแสนชิลมันจะมาแค่ช่วงแรกเท่านั้นครับ

มีหลายคนต้อง work from home มาแล้วกว่าสองอาทิตย์ นั่ง ๆ นอน ๆ เดินวนไปวนมาอยู่ในพื้นที่จำกัด ออกไปเจอคนแปลกหน้าเพียงไม่กี่วินาทีเพราะรับอาหารจากการสั่งเดลิเวอรี่ นานวันเข้าความรู้สึกแสนสบายที่ใส่เสื้อผ้าง่าย ๆ เริ่มจางลง ความเบื่อหน่ายเข้ามาแทนที่ มีชาว UNLOCKMEN คนหนึ่ง บ่นว่ารู้สึกเศร้าเพราะไม่ได้เจอกับใครเลย ส่วนอีกคนบอกว่าเห็นตัวเองแบบเซอร์ ๆ ทุกวันก็รู้สึกเบื่อ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องน่าเป็นห่วงที่ไม่ควรมองข้าม

การแต่งตัวสามารถช่วยปรับสภาพอารมณ์ของคนต้องอยู่แต่บ้านออกไปไหนไม่ได้จนรู้สึกซึม เพราะสีสันบนเครื่องแต่งกายส่งผลต่อความรู้สึกมากกว่าที่คิด ถ้าใครรู้สึกอึดอัดกดดัน ไอเทมสีเขียวจะช่วยให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งรอบตัว สร้างความผ่อนคลาย สงบ และพาลคิดว่าการอยู่สันโดษบ้างก็ไม่ได้แย่อะไรมาก แต่ถ้าอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกเหงาไร้สีสันไร้ชีวิตชีวาให้ลองหยิบไอเทมสีชมพูกับสีเหลืองที่ถูกเรียกว่า ‘สีแห่งความสุข’ มาแมตช์ใส่ในบางวัน เมื่อมนุษย์มองเห็นสีสันที่สดใสจะทำให้เกิดความรู้สึกกะปรี้กะเปร่าและมีชีวิตชีวา เพราะพลังของสีจัดจ้านสามารถกระตุ้นให้เกิดการมองโลกในแง่ดี

หากหดหู่พาลให้ซึมเศร้าแต่ไม่อยากใส่เสื้อสีสดใสพวกชมพู ฟ้า หรือเหลือง สีม่วงกับสีมังคุดช่วยให้เกิดความรู้สึกอดทนต่อความรู้สึกเศร้าและปลอบโยนจิตใจไม่ให้หมดหวังได้ สีสันแต่ละสีก็มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง การหยิบเครื่องแต่งกายสีสดจะช่วยลดอาการจิตตกเพราะไม่ได้ออกไปไหน ดังนั้นบางวันที่รู้สึกแย่หรือเบื่อ ๆ ลองลุกขึ้นมาอาบน้ำให้สดใส แต่งตัวดี ๆ และนั่งลุยทำงานก็ช่วยลดความรู้สึกเบื่อหน่ายได้มากกว่าที่คิด

 

คนที่ยังต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก 

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถอยู่บ้านได้ ยังมีหลายคนต้องออกไปข้างนอกอยู่เพราะบางบริษัทจะยังไม่ให้พนักงาน work form home เมื่อสุดท้ายเราก็ยังมีเหตุจำเป็นต้องออกนอกบ้าน การปรับตัวด้านแฟชั่นของเราก็ต้องดำเนินไปตามสถานการณ์โลกเช่นกัน

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ลงมือวิจัยชนิดผ้าหลายชนิดเพื่อหาว่าผ้าประเภทไหนมีประสิทธิภาพสามารถลดการเกาะตัวของไวรัสโควิด-19 มากที่สุดจนได้ผลออกมาว่าผ้าฝ้ายมัสลิน ผ้ายืด และผ้านาโน เหมาะสำหรับการสวมใส่ออกไปนอกบ้าน ณ เวลานี้ แถมผ้าเหล่านี้ยังเป็นผ้าที่กระทรวงสาธารณสุขสรุปว่าเหมาะสำหรับนำมาทำหน้ากากอนามัย โดยไอเทมแฟชั่นทำจากผ้าฝ้ายกันอนุภาคขนาดเล็ก ป้องกันการซึมผ่านของละอองน้ำที่ไวรัสโควิด-19 อาจเกาะอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

การเลือกหยิบเครื่องแต่งกายทำจากเส้นใยธรรมชาติ มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี แห้งเร็ว น้ำหนักเบาและไม่ระคายเคืองผิวคือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการแต่งตัวออกไปนอกบ้าน นอกจากนี้เราอยากแนะนำให้คนต้องออกไปข้างนอกแต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาวคู่กับกางเกงแขนยาว เช่น เสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงสแลค หรือเสื้อยืดแขนยาวกับกางเกงยีนส์ 

เหตุที่อยากให้สวมใส่เสื้อมิดชิดเพราะเสื้อยืดแขนสั้น เสื้อกล้าม รวมถึงกางเกงขาสั้นจะทำให้ผิวหนังส่วนที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมสามารถสัมผัสกับไวรัสโดยตรง บางทีเราอาจยืนพิงรถไฟฟ้าโดยไม่รู้ตัว หรือผิวหนังไปสัมผัสกับบางสิ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นช่วงนี้อยากให้ทนร้อนเลือกสวมใส่เสื้อกับกางเกงขายาวกันไปก่อน หรือใครพร้อมโยนทิ้งความอายไว้เบื้องหลังจัดเต็มด้วยชุดกันไวรัสกับหน้ากากขนาดใหญ่ พร้อมกับสวมถุงมือป้องกันเวลาหยิบจับสิ่งของก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ

นอกจากนี้เสื้อคลุม หมวก ไอเทมจุกจิกอื่น ๆ คือสิ่งที่ไม่ควรพกออกไปในช่วงไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด เมื่อกลับเข้าบ้านควรรีบนำเสื้อผ้าที่ตะลุยฝุ่นมาทั้งวันกับเราไปซัก หรือถ้าใครเพิ่งกลับจากพื้นที่เสี่ยงอย่างโรงพยาบาลหรือพื้นที่สีแดงตามประกาศของสาธารณสุข ให้นำเครื่องแต่งกายไปซักในน้ำอุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส จากนั้นอบให้แห้งด้วยเครื่องอบผ้า และนำไปตากแดดตามคำแนะนำของ WHO 

คุณอาจเบื่อที่ต้องฟังแต่เราก็อยากย้ำอีกครั้งว่า เวลาออกไปไหนอย่าลืมหน้ากากอนามัยกับเจลล้างมืออยู่เสมอ แต่การเตรียมพร้อมไว้ก่อนคือการป้องกันที่ดีกว่ามานั่งตามแก้ทีหลัง และการใส่ใจเรื่องการแต่งตัวก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

 

SOURCE

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line