Business

10 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จจะไม่พูดในที่ทำงาน มาเช็คดูว่าคุณพูดมันบ่อยหรือเปล่า

By: unlockmen August 6, 2015

ใครๆ ก็อยากประสบความสำเร็จค่ะ แต่ความสำเร็จที่ว่านั้น มันคงไม่ได้หมายถึงตัวเลขในบัญชีระดับเจ็ดหลักแปดหลักแบบที่ใครใฝ่ฝันเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงชีวิตที่มีความสุข พอมีพอใช้ หรือบางคนก็ตั้งเป้าไว้ว่าอยากมีใช้เหลือเฟือ อันนี้ก็ไม่ผิดค่ะ แต่หากคุณมีใช้เหลือเฟือแล้วชีวิตไร้ซึ่งความสุข ไร้คนเข้าใจ ไร้มิตรสหายที่ดี คงไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าชีวิตนี้ประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ

การทำงานก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งในกระบวนการแห่งความสำเร็จนี้ ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามแต่ จะเป็นเจ้าของกิจการ ฟรีแลนซ์ พนักงานออฟฟิศ จะเป็นพนักงานระดับล่าง ระดับบน ผู้บริหาร หรือแค่พนักงานธรรมดาๆ คนนึง ก็สามารถเติบโตก้าวหน้าได้ทั้งสิ้น เพียงแค่คุณพยายาม ขยัน และอดทน ใช้ชีวิตอย่างผู้รอดให้เป็น ฉะนั้นคุณก็ต้องเรียนรู้ทักษะ ฝึกฝนให้ได้ซึ่งประสบการณ์ที่แข็งแกร่ง

การพูดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญค่ะ แค่รู้จักพูด รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด ก็ช่วยนำความสำเร็จเข้ามาใกล้ตัวคุณได้แล้ว วันนี้ UNLOCKMEN จึงนำ 10 สิ่งที่คุณไม่ควรพูดในที่ทำงานมาฝากหากอยากประสบความสำเร็จ อ่านแล้วลองกลับมาเช็คตัวเองดูว่า เราชอบพูดเรื่องแบบนี้มากน้อยแค่ไหน แล้วควรปรับ ควรลดมันดีไหม เพราะเราเชื่ออย่างยิ่งว่า พูดดีเป็นศรีแก่ปากจริงๆ

mms4ep413_sc45_1320

1. ไม่พยายามหาข้อแก้ตัวมาอ้างกับข้อผิดพลาดของตน

ทำไมมาสาย ผมมาสายเพราะ… ทำไมงานตัวนี้ถึงผิดพลาด งานมันผิดเพราะคนนั้นคนนี้… การมีเหตุผลเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วค่ะ แต่การมีเหตุผลชนิดที่ว่ากลายเป็นข้ออ้างและข้อแก้ตัว ไม่ใช่เรื่องที่น่าปลื้มใจเท่าไรนัก บางคนก็อ้างเหตุผลก่อนที่คนอื่นจะถามถึงด้วยซ้ำ ทำไมการมีเหตุผลมาอ้างรองรับมันถึงไม่ใช่เรื่องดีล่ะ ก็ถ้าหากคุณมาสายบ่อยมากๆ คุณก็จะพยายามหาเรื่องมาแก้ตัวเสมอ ทั้งที่จริงๆ แล้วคุณอาจจะแค่ตื่นสายเท่านั้นเอง แทนที่จะหาเรื่องมาแก้ตัวบ่อยๆ เปลี่ยนเป็นขอโทษ แล้วปรับปรุงพยายามไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีกดีกว่าค่ะ

2. ไม่นินทาคนอื่นเสียๆ หายๆ จริงไม่จริงก็ไม่ใส่สีตีไข่

มันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ค่ะว่าคนเราจะไม่เคยถูกนินทา หรือเป็นผู้นินทาคนอื่นเลย ก็แหมมันสนุกปากจริงๆ ได้เม้าท์ ได้ตำหนิติเตียนผู้อื่นเนี่ย มันกลายเป็นเรื่องสนุกสนานในวงสนทนาไปแล้ว แต่ทว่าการทำงานร่วมกันในบริษัททำให้คุณต้องพบเจอกับผู้คนมากมาย หรือต่อให้คุณเป็นฟรีแลนซ์ก็จำเป็นต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นอยู่ดี การนำข้อเสีย หรือนำเรื่องส่วนตัวของคนในบริษัทมาพูดในทางเสียๆ หายๆ หรือนำเรื่องเสียหายของเขามาเล่าจนสนุกปาก ก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย ถึงแม้จะคันปากอยากพูดจริงๆ ก็เลี่ยงไปคุยที่อื่นไหม เพราะคุณไม่มีวันรู้หรอกค่ะว่าคนที่ได้ยินเขาจะคิดอย่างไร คำพูดสนุกปากของคุณ อาจทำให้อนาคตคุณพังไปเลยก็มี เรื่องนี้ต้องระวังให้มากจริงๆ

3. ไม่บ่นเรื่องระบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท

สวัสดิการไม่ดี HR ทำงานไม่เรียบร้อย CEO เอาแต่ใจ หรืออะไรก็ตามที่มันเป็นเรื่องของระบบองค์กรที่คุณอยู่ บ่นนั่นบ่นนี้อยู่ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้ผู้อื่นรำคาญแล้ว ยังทำให้ภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองคุณเปลี่ยนไปด้วยนะคะ การมาอยู่ในบริษัทมันก็เป็นอีกหนึ่งสังคมที่เราจำเป็นต้องปรับตัว หนักนิดเบาหน่อย เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เราอดทน และฝ่าฟันมันไปให้ได้ มันไม่มีอะไรที่ดีที่สุด หากมีแต่สิ่งที่เหมาะกับเราที่สุด หรือสิ่งที่แย่น้อยที่สุดต่างหาก ถ้าคุณอดทนต่อเรื่องนี้ได้ งานจะหนักหนาแค่ไหน ก็ไม่น่าเป็นกังวลเมื่ออยู่ในกำมือของคุณค่ะ

4. ไม่นำเรื่องส่วนตัวของตนมาพูดในที่ทำงานมากเกินไป

เคยเป็นไหมที่เพื่อนในออฟฟิศของคุณ ชอบนำเรื่องชีวิตส่วนตัวมาพูดอยู่ตลอดเวลา แฟนเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ครอบครัวประสบปัญหาแบบนั้นแบบนี้ เรียกว่าทุกคนจะต้องได้อัพเดทเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเขาอยู่เสมอ เราเข้าใจว่าเวลาคนเรามีปัญหา เราก็อยากนำมาปรึกษาคนที่เราไว้ใจค่ะ แต่บางครั้ง เรื่องบางเรื่องยังไม่ทันเป็นปัญหาเลย คุณก็นำมาพูดทุกวันๆ จากที่คนเขาไม่ได้อะไร กลายเป็นว่ารำคาญไม่พอ ยังมีส่วนทำให้เกิดปัญหาตามหลังคุณได้ด้วย อยู่ในออฟฟิศควรโฟกัสเรื่องงานให้มากเป็นอันดับหนึ่งนะคะ

5. คำว่า “ไม่ได้”  จะไม่หลุดออกจากปาก

คนที่จะก้าวขึ้นไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จได้ เขาจะไม่ค่อยพูดคำว่าไม่ได้ออกมาให้เราได้ยินเท่าไร “ไม่ได้” ในที่นี้คืออะไร เวลามีคนมาขอให้ช่วยเหลือ เขาก็ยินดีช่วยอย่างเต็มที่ เวลามีงานใหม่ๆ เข้ามาให้ได้ลองทำ งานที่ท้าทาย งานที่ยากขึ้นไปอีกระดับ เขาก็จะยินดีทำ จะไม่มีการพูดว่าไม่ได้หรอก ผมทำไม่ได้ หรือมันเป็นไปไม่ได้หรอก งานยากขนาดนี้ ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต งานยาก งานง่าย คือการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดของคนที่ประสบความสำเร็จค่ะ ถึงแม้จะยาก หรือล้มเหลว ก็ยังดีกว่าพูดคำว่าไม่ได้ออกไป ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลองทำจริงไหม

the-office2

6. จะไม่นำเรื่องจุดมุ่งหมาย หรือ Goal มาบอกเล่าให้คนอื่นฟัง

เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนมีจุดหมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก หรือใหญ่แค่ไหน แม้กระทั่งการทำงานในแต่ละวันเรายังมี to-do list  มี Goal ที่เราต้องทำให้ถึงเป้า เท่าที่สังเกตเห็นคนที่ประสบความสำเร็จนั้น เขามักจะมีเรื่องมาให้เราเซอร์ไพรส์กันอยู่เสมอ อีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องพูดเลยก็คือ ชีวิตคือการแข่งขัน แม้ว่าเราไม่อยากอยู่ในสังเวียนนี้ก็ตามทีมันก็นำพาเราเข้ามาอยู่ในสังเวียนกันแบบไม่ตั้งตัว การนำจุดหมายที่เราวาดฝันมาเล่าให้คนในออฟฟิศฟังเป็นเรื่องที่ไม่ควร ยิ่งถ้านำมาพูดให้กับคนที่ทำงานอยู่ในตำแหน่งเดียวกันฟังด้วยเนี่ย ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่งนะคะ ไม่ใช่แค่ว่าเขาอาจจะมีเป้าหมายเดียวกับคุณนะ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ขึ้นมา สิ่งนี้ต่างหากที่จะทำลายตัวคุณเอง อย่างที่เขาว่ากันว่า ชีวิตมันไม่ใช่เรื่องง่าย

7. ไม่โอ้อวด คุยโม้ คุยโว แต่เรื่องของตัวเอง

ต้องเคยเจอแน่นอน คนที่ชอบคุยโอ้อวดเรื่องของตัวเองทั้งวี่ทั้งวัน เช่น งานตัวนี้มันยากมากเลย แต่ฉันทำได้ หรือเจ้านายเรียกไปคุยส่วนตัว เรื่องงานจะเลื่อนขั้นให้ จะอัพโบนัสให้คูณสอง คุณก็เอามาคุยโม้ให้คนอื่นฟัง คนที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดนะคะ แค่โฟกัสกับงานที่เราได้รับมอบหมาย สิ่งที่ได้มาคือโบนัสจากการลงมือทำด้วยความมุมานะ อีกอย่างการจะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ได้กำหนดไว้ที่ความเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงลักษณะนิสัย การแสดงออกทางอารมณ์ที่คุณมีด้วย การสำรวมไว้บ้าง เขาถึงจะเรียกว่าอยู่เป็น

8. ถึงงานจะเยอะแค่ไหน ก็จะไม่พูดคำว่ายอมแพ้ หรือละทิ้งสิ่งนั้น

ในความคิดของเราเอง งานเยอะยังดีกว่าไม่งาน และถึงแม้งานจะเยอะจะหนักแค่ไหน หากคุณเมเนจจัดการมันได้ดี ชีวิตคุณก็สามารถเป็น work life balance ได้ค่ะ การได้ทำงานแต่ละอย่างมันคือประสบการณ์ที่มีค่า บางครั้งงานมันหนักและเหนื่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เราก็เผลอพูดคำว่ายอมแพ้ออกไป หรือพูดว่าจะทิ้ง ไม่เอาละ แบบนี้คนที่ฟังเขาก็รู้สึกได้นะว่าคุณเป็นคนหยิบโหย่ง ไม่เอาอ่าว เรื่องแค่นี้คุณยังยอมแพ้ แล้วคุณจะรับความสำเร็จไหวได้อย่างไร จริงไหม

9. ไม่คอมเม้นงานคนอื่นด้วยความก้าวร้าว หรือติดตลกร้าย

การคอมเม้นงานกันเป็นเรื่องปกติ งานที่ทำออกมายอมมีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย คุณเองก็น่าจะเคยคอมเม้นงานคนอื่นอยู่บ้าง การคอมเม้นงานกันตรงๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่เราก็ต้องมีวิธีการพูด ไม่ให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจด้วยนะ ไม่ใช่ว่า เอะอะก็พูดว่าห่วยแตก ไม่ได้เรื่อง หรือติดตลกว่างานแบบนี้เด็กอนุบาลยังทำได้ดีกว่า แบบนี้เป็นผลเสียมากๆ ค่ะ ทั้งกับตัวคุณ และความรู้สึกที่ผู้ถูกคอมเม้นได้รับ แนะนำว่าให้เลือกใช้คำพูดให้ซอฟท์หน่อย ยิ่งถ้าคุณเป็นหัวหน้าคน เรื่องนี้สำคัญมากทีเดียว เป็นสิ่งสำคัญที่จะดึงให้คนอยู่ และหนีเราไปได้เลยนะ

office_space_lumbergh1

10. ไม่หยอกล้อคนอื่นเลยเถิด จนสร้างความอึดอัดใจให้ผู้ฟัง

เห็นข้อสิบแล้วถึงกับสะอึกไปเลยก็มีค่ะ ก็แหมบางครั้งเราก็ชอบเล่นกับคนในออฟฟิศแบบที่ไม่ได้เกรงอกเกรงใจอะไรกันเลย แถมบางครั้งก็เล่นจนลืมไปเลยว่า อายุเราห่างกันแค่ไหน คำพูดที่ใช้มันรุนแรงเกินไปมั้ย บางทีเราก็เผลอไปล้อปมด้อยเขาซ้ำซาก คนที่ฟังเขาย่อมอึดอัดใจแน่นอนค่ะ ไม่ใช่แค่ว่าไม่ควรพูดในที่ทำงานเท่านั้นนะ ไม่ว่ากับใคร เราต้องเล่นกันอย่างมีลิมิต อย่าพูดจนทำให้เสียมิตรภาพดีๆ ไป หยอกล้อกันพอประมาณให้พอยิ้มก็พอค่ะ

ชีวิตคือการปรับตัว พูดให้น้อย ฟังให้มาก ทำให้เยอะ ผลดีจะตามมาเอง เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องพูด และในหลายเรื่องก็ไม่ใช่ว่าจะนำมาพูดกับทุกคนได้เช่นกัน ฉะนั้นเราต้องคิดให้ดีทุกครั้ง ก่อนจะพูดอะไรออกมา ชีวิตมันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปค่ะ เราเชื่อเสมอว่าทุกคนสามารถขึ้นไปอยู่บนยอดของความฝันตัวเองได้ UNLOCKMEN พร้อมเป็นกำลังใจให้เสมอ

Source :  lifehack

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line