หนุ่มเมืองทุกคนรู้กันดีว่าหัวมุมถนนของประเทศเราไม่เคยเงียบเหงา เพราะเราจะได้แสงสว่างของป้ายร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่นมาเป็นเพื่อนคู่ใจเสมอ ยิ่งเป็นชายโสดยิ่งได้ใช้บริการบ่อยกว่าเพราะที่แห่งนี้มันช่วยเติมความอิ่มท้อง กับแกล้มเคี้ยวเพลิน พร้อมกับแอลกอฮอล์สะดวกซื้อให้พวกเราได้จิบกันชุ่มคอ แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาหลังเจอดราม่าจดหมายคุณอลงกรณ์ พลบุตร ส่งถึงเจ้าสัว CP ธนินทร์ เจียรวนนท์ เข้าไป เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงอยากรู้เรื่องราวเส้นทางธุรกิจของ 7-Eleven มากขึ้น ว่าเส้นทางบริการเติบโตมาอย่างไรและจริงหรือที่เซเว่นจะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยทยอยตายไปเรื่อย ๆ UNLOCKMEN ขอไล่เรียง Timeline ธุรกิจเซเว่นในประเทศไทยเพื่อให้การพูดคุยของพวกเรามันส์และจริงจังขึ้น ใครพร้อมแล้วเราไปดูพร้อมกัน จากร้านขายน้ำแข็งใน Taxas สู่ร้านสะดวกซื้อทั่วโลก เริ่มกันที่ภาพกว้างกันก่อนลงดีเทลในบ้านเรา จุดเริ่มต้นของเซเว่น อีเลฟเว่น (ที่ยังไม่ได้ชื่อว่าเซเว่น) กำเนิดขึ้นครั้งแรก พ.ศ. 2470 ณ เมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยบริษัทเซาท์แลนด์คอร์ปอเรชั่น ดำเนินกิจการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแข็ง แต่หลังจากขายน้ำแข็งแล้วก็เริ่มขยายกิจการต่อด้วยการเอาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นมาขายเพิ่มเติมด้วย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อว่า “Tote’M store” ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง พ.ศ. 2489 เป็น “เซเว่น – อีเลฟเว่น” โฆษณาชิ้นแรกของเซเว่น ทำไมต้องเซเว่น – อีเลฟเว่น
ถ้าไม่นับกลิ่นน้ำหอมของสาว ๆ แล้ว “ฮอปส์” คือกลิ่นที่ผู้ชายอย่างเราพร้อมใจกันยกนิ้วให้ว่าหอมสุดในฤดูหนาวนี้ เพราะพอตะวันตกดินร่างกายมันก็เริ่มเรียกร้องให้เราออกไปปะทะลมหนาวและชิมยอดข้าวทันที แต่ใครที่อยากกินเบียร์สะดวก ๆ ใกล้บ้านแบบไม่ต้องดั้นด้นออกหาร้าน คงต้องไว้อาลัยกับสงครามการจิบที่วันนี้รัฐประกาศออกมาให้ช้ำใจกับการ “งด” ขายเบียร์สดในร้านสะดวกซื้ออย่างเป็นทางการ เรื่องอุดเบียร์หัวจ่ายในร้านสะดวกซื้อครั้งนี้ แม้จะไม่ได้รับผลกระทบกับเรามากนัก เพราะหลายคนคงยังไม่เคยใช้บริการของมันด้วยซ้ำ แต่มันก็มีอยู่จริง แถมยังลงทุนติดตั้งไปแล้วในบางสถานที่ด้วย สมรภูมิก่อนวันที่กฎหมายจะลงดาบเอาจริงมีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร UNLOCKMEN จะขอ Recap ตำนานนี้ไว้เอง (ใส่หมายเหตุว่าถ้าอ่านไปจิบไปเพลิน ๆ จะได้อรรถรสเรื่องนี้มากขึ้น) ชนวนยก “เบียร์” ขึ้นจ่าย ว่าด้วยเรื่องยกเบียร์ขึ้นหัวจ่าย หรือเบียร์สดในบ้านเรา ก่อนที่ใครจะเข้าใจผิดต้องบอกก่อนว่ากฎหมายฉบับที่กำลังพูดถึงน้ีไม่ได้ห้ามการค้าเบียร์สดตามสถานที่เรากินตามร้านอาหาร หรือบาร์ แต่ว่าห้ามการขายเบียร์สดตามร้านสะดวกซื้อ ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมามีกระแสการขายเบียร์สดแบบใช้แก้วพลาสติกกดทำนองเดียวกับแก้ว Gulf ในเซเว่นกำลังมาในหลายประเทศ อิสระการดื่มแบบไม่ต้องมีเด็กเชียร์ก็ยังดื่มด่ำได้ทุกเวลา แม้เราจะยังไม่ทราบว่าเริ่มต้นจากประเทศไหนเป็นแห่งแรก แต่กระแสที่เห็นได้ชัดคือเพื่อนบ้านเอเชียแดนมังกร ที่กดเบียร์สดยี่ห้อดังชิงเต่าจากร้านค้าสะดวกซื้อใส่ถุงพลาสติกใบใหญ่อัดแน่นสะใจ พ.ศ.2555 กลายเป็นเรื่องสุดว้าว ภาพหอยและถั่วกับแกล้มที่อยู่ด้านข้างใต้แสง daylight บอกเราได้ว่าถึงบ้านต้องมีเมา มีมันส์ แน่ ๆ ทำให้ธุรกิจหลายประเทศอยากจะเอาใจบุรุษคอทองแดงแบบนั้นบ้าง เช่นเดียวกับเราชาวไทยที่ช่วงปีที่แล้ว 2 แบรนด์เบียร์ยักษ์ทั้งเสือและช้างออกโรงมาแข่งกันวางผลิตภัณฑ์ทดลองแบบนั้นบ้างกับร้านสะดวกซื้อในบ้านเราเมื่อกลางปีที่แล้ว BEGINS
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือหัวตาราง Freshmart ต้องมีเซเว่นเป็นหนึ่งในนั้นยังคงประโยคที่ใช้ได้เสมอ ไม่น่าเชื่อว่าท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเกือบ 30 ปีที่ยาวนาน เซเว่นจะยังคงแข็งแกร่งครองยุทธจักรร้านค้าปลีกมาจนถึงปัจจุบัน แถมยังเบียดกันขึ้นทั่วทุกหัวระแหง area ไม่ไกลกัน เบื้องหลังการเติบโตในครั้งนี้นอกจากเงินทุนหนาที่หมุนเวียน สิ่งที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้คือการทยอยแตกไลน์สินค้าใหม่ที่ทำให้เซเว่นเป็นร้านสะดวกซื้อไม่คร่ำครึไปตามกาลเวลา “ไบโอโปนิกส์ ฉันเลือกนาย!” ใครที่ติดตามข่าวในหน้าฟีด อาจจะได้เห็นข่าวไลน์สินค้าใหม่ของเซเว่น ว่าตอนนี้หันมาเพิ่มตู้ให้ “ผัก” ใช่อ่านไม่ผิดหรอก แถมเป็น “ผักสด” ไม่ใช่อาหารสำเร็จรูปที่เป็นของถนัด ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องการโหนกระแสเทรนด์ที่คนส่วนใหญ่หันมารักสุขภาพมากขึ้น ถึงขั้นว่าที่ไหนมีตลาดนัดของกินก็จะต้องเห็นสลัดผัด สลัดโรลอยู่ในนั้น แต่ถ้าเราคิดแค่ว่าเซเว่นจะหยิบผักสดมาวางตามเชลฟ์เพื่อเอาใจผู้บริโภคเท่านั้นก็ถือว่าผิดถนัด เพราะเบื้องหลังวิตามินซี แน่นอนว่ามันต้อง make money ได้ด้วย จากทีเด็ดทางกลยุทธ์และเหตุผลทั้ง 4 ต่อไปนี้ เรือล่มในหนอง “ผัก” จะไปไหน คิดถึงเซเว่นก็ต้องคิดถึงเจ้าของเซเว่นด้วย เมื่อเจ้าของเซเว่นคือบริษัทเจ้ายักษ์ใหญ่อย่างซีพีที่มีลูกดกยิ่งกว่าอะไรดี เจริญโภคภัณฑ์จะลุกขึ้นมาเป็นป๋าดันให้ใครได้นอกจากบริษัทเครือลูก แต่พอมองไปในบรรดากลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหารดูเหมือนจะยังขาด “ผัก” อยู่ งั้นฟาร์มมันเสียเลย ตั้งอาณาจักรอาหารขึ้นมาทีนี้จะได้ครอบคลุม รุกตลาดอาหารเต็มสูบอย่างแท้จริง สิ่งที่น่าสนใจคือการเลือกแตกไลน์ลงทุนเรื่องผักนี้กับใคร แทนที่จะไปซื้อใหม่เจ้าสัวก็หันไปเอาลูกมาสร้างอาชีพเพิ่ม แต่การเลือกบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด หรือผู้ผลิตข้าวตราฉัตร แทนที่เจียไต๋ ที่ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์