หากกล่าวถึงบุรุษผู้ยืนหยัดเพื่อสิทธิและเสรีภาพ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ที่ทำให้ผู้คนในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาตระหนักเรื่องสิทธิ เสรีภาพและความเท่าเทียม UNLOCKMEN อาสาพาทุกคนไปรู้จักบุรุษผู้นี้ให้มากขึ้นกว่าที่เคย เด็กชายลินคอล์น ครอบครัวของลินคอล์นเป็นชาวนา ในวัยเด็กเขาเข้าโบสถ์กับครอบครัวทุกวันอาทิตย์ทำให้เด็กชายลินคอล์นเห็นการแบ่งแยกไม่ให้ทาสผิวดำและคนจนเข้าโบสถ์ ความไม่เป็นธรรมที่เขาได้สัมผัสทำให้ลินคอล์นปฏิเสธการไปโบสถ์อย่างที่พ่อแม่ของเขาไป เพราะเขามองว่าการเลือกปฏิบัติคือความไม่เท่าเทียม ลินคอล์นปฏิเสธที่จะไปเรียนหนังสือและเลือกศึกษาหาความรู้จากหนังสือพร้อมหาเลี้ยงชีพด้วยการตัดฟืนไปขาย ในระหว่างที่เขาพักเหนื่อยจากการทำงาน เขาจะแอบอ่านหนังสืออยู่เสมอ นิสัยรักการอ่านบวกกับการศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ทำให้ลินคอล์นสามารถสอบเทียบชั้นและนำการสอบเทียบชั้นของเขาไปยื่นสมัครเรียนระดับปริญญาได้ในที่สุด โดยเขาเลือกเรียนทางด้านกฎหมาย เส้นทางสู่การเมือง เส้นทางสู่การเมืองของอับราฮัม ลินคอล์น เริ่มจากการที่เขาสมัครเข้าสังกัดพรรควิก (Whig Party) โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาของรัฐอิลลินอยส์ด้วยวัยเพียง 23 ปี แต่ในครั้งนั้นเขาแพ้การเลือกตั้ง ทำให้ต้องผันตัวไปเปิดร้านขายของชำที่นิวซาเล็ม ไม่กี่ปีต่อจากนั้นลินคอล์นสมัครเป็นทนายและที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับสำนักกฎหมายแห่งหนึ่ง ทว่าเส้นทางการเมืองของเขาไม่ได้จบลงที่การพ่ายแพ้จากการลงสนามครั้งแรก เพราะลินคอล์นได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐอิลลินอยส์ระหว่าง ค.ศ. 1834 – 1842 ด้วยความรู้และประสบการณ์ทางด้านกฎหมายของเขา จนเป็นบันไดไปสู่บุคคลที่มีบทบาทสูงในสภาได้ในที่สุด นโยบายจากสิ่งที่ฝังใจในวัยเด็ก…สู่ฝันที่เป็นจริง นโยบายที่ลินคอล์นผลักดันคือการเลิกทาสซึ่งถือเป็นความฝันครั้งยังเด็กของเขาที่ต้องการให้ระบบทาสสูญสิ้นไปจากสหรัฐฯ และฝันจะเห็นความเสมอภาคเท่าเทียม แต่สมาชิกหลายคนในสภาไม่เห็นด้วย เพราะทาสผิวดำเปรียบเสมือนแรงงานที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเกษตรที่สำคัญซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างได้ เมื่อฝ่าฟันสารพัดความท้าทายจนถึงวันที่เขาสามารถครองตำแหน่งประธานาธิบดีได้ เขาเลือกสานฝันในวัยเด็กให้เป็นจริงด้วยการประกาศสงครามกับฝ่ายใต้ที่ไม่ยอมรับนโยบายการเลิกทาส (สหรัฐฯ ทางตอนใต้คือแหล่งเกษตรกรรมที่จำเป็นต้องใช้ทาสผิวดำจำนวนมาก) แต่นอกจากการดำเนินการด้านสงครามแล้วลินคอล์นยังใช้ความรู้ด้านกฎหมายในการแก้กฎหมายรวมถึงรัฐธรรมนูญเพื่อล้มระบบทาสและสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้น ท้ายที่สุดฝ่ายประธานาธิบดีลินคอล์นก็ประกาศชัย เพราะความฝันในนโยบายการยกเลิกทาสนั้นสำเร็จ