World

‘อับราฮัม ลินคอล์น’เด็กตัดฟืนสู่ผู้นำที่ผลักดันให้ประเทศมหาอำนาจมีความเท่าเทียม  

By: unlockmen April 4, 2019

หากกล่าวถึงบุรุษผู้ยืนหยัดเพื่อสิทธิและเสรีภาพ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ที่ทำให้ผู้คนในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาตระหนักเรื่องสิทธิ เสรีภาพและความเท่าเทียม

UNLOCKMEN อาสาพาทุกคนไปรู้จักบุรุษผู้นี้ให้มากขึ้นกว่าที่เคย

เด็กชายลินคอล์น

ครอบครัวของลินคอล์นเป็นชาวนา ในวัยเด็กเขาเข้าโบสถ์กับครอบครัวทุกวันอาทิตย์ทำให้เด็กชายลินคอล์นเห็นการแบ่งแยกไม่ให้ทาสผิวดำและคนจนเข้าโบสถ์ ความไม่เป็นธรรมที่เขาได้สัมผัสทำให้ลินคอล์นปฏิเสธการไปโบสถ์อย่างที่พ่อแม่ของเขาไป เพราะเขามองว่าการเลือกปฏิบัติคือความไม่เท่าเทียม

ลินคอล์นปฏิเสธที่จะไปเรียนหนังสือและเลือกศึกษาหาความรู้จากหนังสือพร้อมหาเลี้ยงชีพด้วยการตัดฟืนไปขาย ในระหว่างที่เขาพักเหนื่อยจากการทำงาน เขาจะแอบอ่านหนังสืออยู่เสมอ นิสัยรักการอ่านบวกกับการศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ทำให้ลินคอล์นสามารถสอบเทียบชั้นและนำการสอบเทียบชั้นของเขาไปยื่นสมัครเรียนระดับปริญญาได้ในที่สุด โดยเขาเลือกเรียนทางด้านกฎหมาย

เส้นทางสู่การเมือง

เส้นทางสู่การเมืองของอับราฮัม ลินคอล์น เริ่มจากการที่เขาสมัครเข้าสังกัดพรรควิก (Whig Party) โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาของรัฐอิลลินอยส์ด้วยวัยเพียง 23 ปี แต่ในครั้งนั้นเขาแพ้การเลือกตั้ง ทำให้ต้องผันตัวไปเปิดร้านขายของชำที่นิวซาเล็ม ไม่กี่ปีต่อจากนั้นลินคอล์นสมัครเป็นทนายและที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับสำนักกฎหมายแห่งหนึ่ง

ทว่าเส้นทางการเมืองของเขาไม่ได้จบลงที่การพ่ายแพ้จากการลงสนามครั้งแรก เพราะลินคอล์นได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐอิลลินอยส์ระหว่าง ค.ศ. 1834 – 1842  ด้วยความรู้และประสบการณ์ทางด้านกฎหมายของเขา จนเป็นบันไดไปสู่บุคคลที่มีบทบาทสูงในสภาได้ในที่สุด

 นโยบายจากสิ่งที่ฝังใจในวัยเด็ก…สู่ฝันที่เป็นจริง

นโยบายที่ลินคอล์นผลักดันคือการเลิกทาสซึ่งถือเป็นความฝันครั้งยังเด็กของเขาที่ต้องการให้ระบบทาสสูญสิ้นไปจากสหรัฐฯ และฝันจะเห็นความเสมอภาคเท่าเทียม แต่สมาชิกหลายคนในสภาไม่เห็นด้วย เพราะทาสผิวดำเปรียบเสมือนแรงงานที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเกษตรที่สำคัญซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างได้

เมื่อฝ่าฟันสารพัดความท้าทายจนถึงวันที่เขาสามารถครองตำแหน่งประธานาธิบดีได้ เขาเลือกสานฝันในวัยเด็กให้เป็นจริงด้วยการประกาศสงครามกับฝ่ายใต้ที่ไม่ยอมรับนโยบายการเลิกทาส (สหรัฐฯ ทางตอนใต้คือแหล่งเกษตรกรรมที่จำเป็นต้องใช้ทาสผิวดำจำนวนมาก)

แต่นอกจากการดำเนินการด้านสงครามแล้วลินคอล์นยังใช้ความรู้ด้านกฎหมายในการแก้กฎหมายรวมถึงรัฐธรรมนูญเพื่อล้มระบบทาสและสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้น

ท้ายที่สุดฝ่ายประธานาธิบดีลินคอล์นก็ประกาศชัย เพราะความฝันในนโยบายการยกเลิกทาสนั้นสำเร็จ ทาสผิวสีถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นดินแดนแห่งสิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริง

UNLOCKMEN ขอเป็นอีกหนึ่งกลุ่มคนที่ยกย่องประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น และเห็นด้วยว่าสิทธิเสรีภาพ รวมถึงความเป็นมนุษย์อันเท่าเทียมถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทั่วทุกมุมโลกต้องตระหนัก รวมถึงสังคมไทยของเราที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ UNLOCKMEN หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของ อับราฮัม ลินคอล์น จะช่วยให้เราตระหนักถึงเรื่องความเท่าเทียมได้มากขึ้น

 

SOURCE

WRITTEN BY: Vitita jairak

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line