รองเท้าบาสเกตบอล คือหนึ่งในรองเท้ากีฬาที่คนจำนวนมากนิยม เพราะเป็นรองเท้าที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ตามจุดประสงค์หลักคือใส่เพื่อเล่นกีฬา หรือหลายคนก็เลือกรองเท้าชนิดนี้มาใส่เดินเป็นแนวแฟชัน ซึ่งก็เข้ากันได้ดีกับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ เพราะดีไซน์และสีสันที่สวยงาม ตลาดรองเท้าบาสเกตบอลในเวลานี้ก็กำลังคึกคักมาก ๆ เพราะลีกบาสเกตบอลยอดนิยมอย่าง NBA ใกล้จะวนกลับมาเปิดฤดูกาลแล้ว บรรดาค่ายรองเท้าก็เริ่มส่งรองเท้าคู่งามออกมาต้อนรับฤดูกาลใหม่ วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำรองเท้าบาสเกตบอลคู่ใหม่ที่กำลังจะปล่อยสู่ท้องตลาด มาดูกันว่าจะมีคู่ไหนน่าสนใจบ้าง Kyrie 5 x SpongeBob ‘Pinapple House’ Kyrie 5 ‘Pinapple House’ หนึ่งในรองเท้าจากคอลเลกชันที่ทำร่วมกันกับ SpongeBob โดยเป็นรองเท้าคู่ใหม่ของ Kyrie Irving การ์ดจ่ายสุดพลิ้วของทีม Brooklyn Nets โดยเขาจะใส่รองเท้าคู่นี้ในแมตซ์เปิดฤดูกาลที่พบกับ Minnesota Timberwolves ให้เราได้เห็นกัน ‘Pinapple House’ ได้แรงบันดาลใจจากบ้านสับปะรดใต้ทะเลจากการ์ตูน SpongeBob รองเท้ามาพร้อมอัปเปอร์สีส้มตัดด้วยสีฟ้า พร้อมที่ร้อยเชือกสีเขียวคล้ายใบสับปะรดและมิดโซลสีขาว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจมากโดยเฉพาะคนที่ชอบแนวคัลเลอร์ฟูล วันวางขาย: 24 ตุลาคม ราคาป้ายโดยประมาณ: 4,000 บาท Nike
มหากาพย์สงครามใหญ่แห่งจักรวาลอย่างเรื่อง Star Wars ได้กลับมาโลดแล่นแฟน ๆ หายคิดถึงกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานตั้งแต่ Star Wars VI ปี 2005 ที่กว่าทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอยจนได้ไตรภาคใหม่ออกมาก็กินเวลาเกือบ 10 ปี จนในที่สุดก็เกิดภาค 7 หรือ Star Wars: The Force Awakens (2015) ต่อด้วย Star Wars: The Last Jedi (2017) และตอนนี้เรื่องราวอันยาวนานก็เดินทางมาถึงบทสรุปไตรภาคกับ Star Wars: The Rise of Skywalker (2019) เตรียมเข้าฉายในเดือนธันวาคม ตามธรรมเนียมเดิมที่จะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนของขวัญวันคริสต์มาสกับแฟนหนัง เมื่อการปิดไตรภาคของ Star Wars กำลังจะมาถึง แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Adidas จึงไม่รอช้าที่จะร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เอาใจแฟนคลับภาพยนตร์อวกาศในตำนานด้วยการจับมือกับ Lucus Films และ Disney ผู้สร้างหนัง นำแรงบันดาลใจจาก Stormtrooper กองกำลังภาคพื้นดินของจักรพรรดิพัลพาทีน
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชอบวิ่งตอนกลางคืน Adidas Originals Nite Jogger x M3 ถือเป็นคอลเลกชันรองเท้าวิ่งที่จะมาตอบโจทย์การใช้งานให้คุณ โดยมาพร้อมรีเฟล็กซ์เรืองแสงที่มีให้เลือกถึง 8 โทนสี รวมถึง Nite Jogger รุ่นพิเศษที่กำลังจะตามออกมาเอาใจแฟนหนัง Star Wars โดยเฉพาะ Nite Jogger วางขายครั้งแรกเมื่อปี 1976 โดยเป็นรองเท้าที่สร้างตามแนวคิดที่สนับสนุนเหล่านักวิ่งยามวิกาล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Shoe To be Seen” หรือรองเท้าที่มองเห็นได้ ด้วยการใช้วัสดุสะท้อนแสงจาก 3M ในส่วนท้ายรองเท้าเพื่อตอบโจทย์การวิ่งในเวลากลางคืนหรือตอนแสงน้อย โดยมีลักษณะการทำงานคล้ายกับไฟสะท้อนแสงตามพาหนะต่าง ๆ 43 ปีผ่านไป Adidas Original ก็หวนกลับมาร่วมงานกับแบรนด์ผู้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรมากกว่า 100,000 รายการอีกครั้งพร้อมกับโมเดล Nite Jogger ที่พัฒนามาเป็นรองเท้าวิ่งที่ทันสมัยและใส่ใจในเรื่องรายละเอียดของงานวัสดุมากขึ้น Adidas Originals Nite Jogger x M3 มี 8
ฝนที่ตกกระหน่ำตลอดหลายวันที่ผ่านมา คงทำให้หนุ่มสายสนีกเกอร์เฮดหลายคนอดกังวลเกี่ยวกับการใส่รองเท้าคู่โปรดออกจากบ้านไม่ได้ ถึงแม้จะมีสเปรย์กันน้ำช่วยลดความกังวลได้บ้างก็ตาม แต่สุดท้ายก็ต้องเจอปัญหาในขั้นตอนการทำความสะอาดอยู่ดี มีเทคโนโลยีและถึงอุปกรณ์เสริมมากมายถูกผลิตออกมาเพื่อป้องกันรองเท้าของเราจากน้ำหรือคราบสกปรก หนึ่งในนั้นคือ MudGuards ที่จะปกป้องส่วนขอบรองเท้าได้เป็นอย่างดี ล่าสุดค่ายกีฬาอย่าง Adidas ก็จับมันใส่ไว้ในรองเท้าโมเดลยอดฮิตอย่าง NMD R1 และกำลังจะปล่อยออกสู่ตลาดในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้แล้ว คอลเลกชันใหม่ Adidas NMD R1 เปิดตัวออกมาพร้อมกัน 4 สี ประกอบไปด้วย Core Black, Ash Silver, Cloud White และ Orchid Tint คราวนี้มาพร้อมส่วนอัปเปอร์ผ้าถักแบบแข็งแรงพิเศษที่ยึดติดกับส่วนมิดโซลซึ่งยังคงใช้เป็นโฟมเทคโนโลยี Boost ส่วน MudGuards ที่ถูกเพิ่มเข้ามาถือเป็นส่วนเด็ด โดยใส่ไว้ตรงข้างเท้าด้านนอกเริ่มจากปลายนิ้วยาวไปถึงส้นด้านหลังซึ่งจะช่วยป้องกันคราบสกปรกไม่ให้ซึมเข้าใปในขอบรองเท้า ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับการเสริม MudGuards โดยเฉพาะการใส่ในช่วงฤดูฝนหรือการสวมใส่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างสมบุกสมบันเสี่ยงต่อการเลอะเทอะ เพราะหนุ่ม ๆ ที่ทำความสะอาดรองเท้าด้วยตัวเองคงทราบกันดีว่าคราบฝังแน่นในบริเวณขอบรองเท้าทำความสะอาดยากมาก ๆ ดังนั้นการมี MudGuards จะช่วยให้เรากังวลแค่ในส่วนอัปเปอร์และโฟมสีขาวโดยรอบเท่านั้น ทั้งหมดทำให้ NMD R1 คอนเลกชันนี้เหมาะสมกับผู้ชายที่ต้องการรองเท้าใส่เดินลุยแบบไม่ต้องกังวล แฟน ๆ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Adidas Stan Smith เป็นรองเท้าผ้าใบสามัญประจำบ้านของใครหลายคนไปแล้ว ด้วยรูปทรงที่เรียบง่ายสุดคลาสสิก คงไว้ด้วยเรื่องราวจากยุค 1967 แถมยังเข้ากับสไตล์ที่หลากหลาย ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่กล่าวมาจึงทำให้ Stan Smith กลายเป็นรองเท้าในดวงใจ ที่ครั้งนี้จะสร้างความตื่นเต้นใหม่ให้กับทุกคนด้วยการร่วม collaboration กับแบรนด์สุดเท่อย่าง Fucking Awesome Fucking Awesome เป็นแบรนด์แฟชั่นสตรีตและสเกตบอร์ดชื่อจากสหรัฐอเมริกาของ Jason Dill แชมป์สเกตบอร์ดในตำนาน เขาเคยเป็นชายที่ติดยาเสพติดและท้ายที่สุดก็สามารถพาตัวเองออกจากวงจรนั้นมาตั้งแบรนด์ของตัวเองได้สำเร็จ ด้วยเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจและไอเทมเท่ ๆ ที่ปล่อยออกมาให้เราได้รับชมอยู่เสมอจึงทำให้ Fucking Awesome เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เด็กสเกตจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อแบรนด์ดังอย่าง Adidas มาเจอกับแบรนด์เก๋าของวงการสเกต จึงทำให้ Adidas Stan Smith รองเท้าสุดคลาสสิกมีสีสันที่แตกต่างจากเดิม การเจอกันระหว่าง Adidas กับ Fucking Awesome ไม่ใช่การเจอกันครั้งแรก แต่การเจอกันในครั้งนี้กลับสร้างการพูดถึงเป็นวงกว้างด้วยสีสันจัดจ้านที่อยู่บนรองเท้าดีไซน์วินเทจ ด้วยการหยิบสีสันสดใสอย่างสีส้มและสีม่วงมาอยู่บนรองเท้า สลัดความวินเทจออกไปเพื่อให้ความทันสมัยเข้ามาแทนที่ จากนั้นเติมลูกเล่นตรงบริเวณด้วยพินที่มีข้อความว่า Fucking Awesome สีทองประทับไว้ตรง Upper หรือบริเวณด้านข้างของรองเท้า แค่สีสันจัดจ้านคงไม่ทำให้
หลังจากที่ลือกันมาพักใหญ่ว่าแบรนด์เครื่องกีฬาชื่อดังอย่าง Adidas เตรียมออกรองเท้าผ้าใบคอลเลกชันสุดพิเศษที่ได้ฟรอนต์แมนในตำนานอย่าง Liam Gallagher มาร่วมดีไซน์ด้วย หลายคนต่างคาดเดาไปทางเดียวกันว่าสนีกเกอร์คู่นี้จะต้องเต็มไปด้วยความวินเทจสุดคลาสสิกตามแบบฉบับป๋าเลียมอย่างแน่นอน และตอนนี้ก็ไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังเมื่อได้เห็น Adidas Spezial สีครีมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสไตล์ยอดศิลปินจากเกาะอังกฤษ Adidas Spezial เดิมทีเป็นรองเท้ากีฬาสำหรับลงสนาม แต่ด้วยดีไซน์ที่เข้ากันได้ดีกับกางเกงหลากประเภททั้งกางเกงยีนส์ กางเกงวอร์ม กางเกงสแลค รวมถึงความทนทานบวกกับวัสดุหนังกลับสุดเท่ และพื้นยางที่ยืดเกาะทุกพื้นถนนทำให้รองเท้ากีฬากลายเป็นสนีกเกอร์แฟชั่นที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมีไว้ครอบครอง ความโดดเด่นคือสไตล์สุดวินเทจของเหล่าชายหนุ่มจากยุค 80 หลายคนหลายวงการที่ต่างก็สวมใส่กันทั้งวงการกีฬาฟุตบอล หรือเหล่าชาวสตรีตในนิวยอร์กที่ใส่ Spezial เพราะเห็นสมาชิกวง Hiphop ชื่อดังอย่างวง Run DMC ใส่รองเท้ารุ่น Spezial รวมถึงกลุ่มคนผู้ชื่นชอบดนตรีแนว Britpop ในอังกฤษที่เห็น Nole Gallagher วง Oasis สวมใส่ Spezial ก็เลยพากันหาซื้อรองเท้าแบบเดียวคนที่ตัวเองชื่นชอบมาใส่ตาม ถึงแม้จะอยู่คนละมุมโลกและมีความชอบที่แตกต่าง แต่แฟชั่นสามารถร้อยเรียงกลุ่มคนหลากหลายให้มีจุดร่วมเดียวกันได้ สำหรับสนีกเกอร์ Spezial ที่ทาง Adidas ออกแบบร่วมกับ Liam Gallagher จะใช้สีครีมโทนเข้มและอ่อนแต่งแต้มลงบนวัสดุหนังกลับตั้งแต่บริเวณ unper เชือกรองเท้าไปจนถึงพื้นยาง
ดูเหมือนทาง Adidas และศิลปินอย่าง Pharrell Williams จะตั้งใจให้รองเท้ารุ่น Pharrell x adidas Solar Hu Glide ทำออกมาให้ครบทุกโทนสี CMYK เพราะล่าสุดพวกเขาเตรียมส่งรองเท้า 4 คู่ใหม่ออกมาแล้วในชื่อ Rainbow Pack ก่อนหน้านี้ค่ายสามขีดเพิ่งประกาศเปิดตัว Pharrell x adidas Solar Hu Glide “Grayscale Pack” ออกมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ ด้วย Solar Hu Glide 4 คู่ในโทนสีพื้นไม่ว่าจะเป็น White ( ขาว), Off White (ขาวครีม), Grey (เทา) และ Core Black (ดำ) เรียกว่าตั้งใจปล่อยออกมาเรียกเงินในกระเป๋าหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบรองเท้าโทนสีพื้นโดยเฉพาะ แต่เพื่อตอบโจทย์ให้ครบทุกรสนิยมทุกโทนสี พวกเขาก็ตัดสินใจปล่อยรองเท้าในโมเดลเดียวกันออกมาอีก 4
ผู้ชายอย่างเราแต่ละคนต่างมีมุมมองในการเลือกซื้อรองเท้าแรงแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นตัวรุ่นหรืองานดีไซน์ รวมถึงสีสันบนรองเท้าแต่ละคู่ที่ดึงดูดให้เราเป็นเจ้าของ ขณะเดียวกันกระแสความนิยมของสนีกเกอร์ทั่วโลกทำให้แบรนด์จำนวนมากดีไซน์ออกมาหลากหลายสีสัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในโทนทีมาแรงที่สุดในปีคือ “โทนสีเขียว” ทั้งโทนเข้ม โทนสว่างเรืองแสง ด้วยความนิยมที่กำลังเพิ่มมากขึ้น วันนี้ UNLOCKMEN อยากแนะนำรองเท้า สายเขียว ที่น่าครอบครองในปีนี้ซึ่งจะมีจากค่ายไหนรุ่นอะไรกันบ้าง มาดูกันเลย Nike ZoomX Vaporfly NEXT% “Volt” เริ่มคู่แรกกันกับรองเท้าสายวิ่งจากค่าย Swoosh กับ Nike ZoomX Vaporfly NEXT% “Volt” สีเขียวเรืองแสง อาวุธคู่กายคู่ใหม่ของหนุ่ม ๆ ผู้รักการออกกำลัง พร้อมความนุ่มสบายที่มากกว่าเพราะเพิ่มการใช้โฟม ZoomX ขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ มาพร้อมอัปเปอร์แบบ Flyknit ที่ระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะใส่เดินหรือวิ่งก็ตอบโจทย์ความสบายในการใช้งานทั้งสองแบบ ค่าครอบครองโดยประมาณ : 11,000 บาท Pharrell x Adidas NMD Hu Gum “Solar Yellow” ต่อยอดรองเท้าตระกูล
หนุ่ม ๆ ผู้ชื่นชอบสนีกเกอร์คงจะรู้จัก Adidas Consortium กันดีอยู่แล้ว เพราะมันคือการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ดังอย่าง Adidas กับร้านแฟชั่นที่ทางแบรนด์เลือกเพื่อร่วมกันดีไซน์ผลงานแฟชั่นที่น่าสนใจ และในครั้งนี้ร้านรองเท้าชื่อดัง Nice Kick ที่เป็น Adidas Consortium ปล่อยผลงานใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ฮิปปี้และงานเทศกาลสุดโหด Woodstock Woodstock ถือเป็นงานเทศกาลดนตรีที่โด่งดังที่สุดงานหนึ่งของโลก ด้วยจุดประสงค์ตอนแรกเริ่มคือการรวมตัวกันของคนคอเดียวกันกับกิจกรรมกลางแจ้งสนุก ๆ อย่าง กางเต็นท์ เล่นโยคะ ปาร์ตี้กันทั้งวันทั้งคืน และมีคนกว่าครึ่งแสนแห่แหนกันมายังเทศกาลดนตรีนี้ แต่ภายหลังจุดมุ่งหมายเดิมของการจัดงาน Woodstock ได้เปลี่ยนไป เพราะกระแสของสังคมที่ต่อต้านสงครามเวียดนาม ต้องการความสงบและสันติภาพ ทำให้เหล่าวัยรุ่นที่มาฟังเพลงกลายเป็นกลุ่มฮิปปี้ไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ บวกกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ในปี 1999 ที่เปลี่ยนให้งานดนตรีกลายเป็นแหล่งอาชญากรรม ทำให้เทศกาลดนตรีหายไปจากโลกอยู่พักใหญ่ และในตอนนี้งาน Woodstock ก็กลับมาอีกครั้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคมปี 2019 บวกกับเรื่องราวสุดโหดของเทศกาลดนตรีที่ก้าวผ่านกาลเวลามาตั้งแต่ปี 1969 ร้านแฟชั่นชื่อดังอย่าง Nice Kick จึงยกเรื่องราวทั้งหมดมาอยู่บนรองเท้า UltraBOOST Nice Kick นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสไตล์ของกลุ่มบุปผาชนหรือฮิปปี้ด้วยสีสันบนผ้ามัดย้อม หนึ่งในสัญลักษณ์อันแสนสำคัญของฮิปปี้ เกลียวของสีที่อยู่บนผ้าส่งให้สนีกเกอร์ UltraBOOST โดดเด่น สีเจ็บจี๊ดบนผ้าจะถูกประกอบเข้ากับพื้นรองเท้าและเชือกรองเท้าสีขาวได้อย่างลงตัว
คงไม่ต้องอธิบายถึง Adidas NMD มากนักเพราะคอรองเท้าผ้าใบต่างต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะ NMD ได้สร้างความสำเร็จครั้งใหญ่ของแบรนด์ที่เพิ่มความร้อนแรงให้กับวงการสนีกเกอร์ ออกแบบรองเท้าตรงโจทย์เหล่าสตรีตแฟชั่น เป็นสนีกเกอร์ซึ่งสามารถสวมใส่ไปได้ทุกที่และก็เท่ไม่น้อยหน้ากว่ารองเท้าคู่ไหน ๆ และล่าสุด NMD R1 ก็ปล่อยสีใหม่สุดเท่ออกมาเป็นที่เรียบร้อย หากจะหาชื่อเรียกสีที่อยู่บน NMD R1 รุ่นนี้ก็คงจะต้องเรียกว่า Cloud White/Gold Metallic โดดเด่นด้วยการจับคู่ระหว่างกลุ่มเมฆสีขาวกับสีทองเมทัลลิกเงาวับ ที่ส่งให้สนีกเกอร์คู่นี้หรูหราคงสไตล์เท่แต่เรียบง่ายและมีระดับกว่าครั้งไหน ๆ บริเวณส่วนบนของรองเท้าจะยังใช้โครงสร้าง Primeknit ชาโดว์สีขาวก้อนเมฆเต็มแผ่นห่อหุ้มรอบเท้าจะถูกใช้อยู่บนผ้าลูกไม้ตาข่าย จับคู่อย่างลงตัวกับสีดำด้านตรงรวมถึงโลโก้แถบสามขีดอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ตรงส่วนของ Heel Tap ยังโชว์สัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยอักษรแบบนูนสีทอง ส่วนบริเวณลิ้นรองเท้าก็เลือกใช้สีดำพร้อมข้อความสีทองเช่นเดียวกัน ประกอบเข้าชิ้นส่วนสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำตรงบริเวณ midsole ที่ประทับคำว่า Adidas กับสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยสีทองโดดเด่น อย่างไรก็ตามจุดที่โดดเด่นที่สุดของสนีกเกอร์คู่นี้คงหนีไม้พ้นสีทองเมทัลลิกเงาวับตรงบริเวณด้านข้าง ที่ส่งให้รองเท้าหรูหราสะอาดตาและเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ส่วนพื้นรองเท้าที่หลายคนเรียกว่าบล็อก Lego จะช่วยรองรับพร้อมลดแรงกกระแทกจากพื้นโฟม โดย Primeknit เชื่อมกับเชื่อมกับเทคโนโลยี Boost กับแผ่น EVA ถือเป็นอีกหนึ่งตัวชูโรงของสนีกเกอร์ แถมสีสันของสนีกเกอร์คู่นี้ยังหรูหราและมาพร้อมกับน้ำหนักเบา ตรงตามคอนเซ็ปต์ของรองเท้าเพื่อการเดินทางไร้ขีดจำกัด Adidas NMD R1 รุ่นพิเศษ Cloud