เพิ่งรู้ว่า Amazon Prime ประเทศไทยเอาหนังสายลับที่โด่งดังที่สุดในโลก 007 ลงสตรีมมิ่งด้วย เหล่าแฟน ๆ สามารถกดรวดดูยาว ๆ ได้แล้วตอนนี้เลย! และถ้าพูดถึงสายลับ 007 นอกจากรถ Aston Martin สุดโฉบเฉี่ยว หรือสูทของ Tom Ford ตัวเท่ที่มาพร้อมกับสารพัดอุปกรณ์ไฮเทคแล้ว สิ่งที่สร้างให้สายลับโค้ดเนม James Bond คนนี้มีเสน่ห์ของความเป็นผู้ชายแสนอันตรายที่ดึงดูดเหล่าสาว ๆ ก็เห็นจะเป็น ‘แว่นตา’ สุดแฟชั่น ซึ่งเป็นที่จับตามองทุกครั้งที่เปลี่ยนภาค เป็นอีกจุดเด่นที่ทุกคนนึกถึงสายลับคนนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปส่องแว่นตาอันน่าจดจำของสายลับบอนด์ เริ่มตั้งแต่สายลับคนแรก Sir.Sean Connery จนถึงสายลับคนล่าสุด Daniel Craig กันเลย Cat Eye แว่นตาที่น่าจดจำของหนังซีรีส์ 007 เกิดขึ้นจากการสวมแว่นตากันแดดครั้งแรกของ Sir.Sean Connery ในหนังภาค 2 ที่ใช้ชื่อว่า From Russia with Love (1963)
Françoise Sagan เป็นนามปากกาของ Françoise Quoirez ซึ่งคำว่า ‘Sagan’ มาจากชื่อตัวละครในนิยายของนักเขียนชื่อ Marcel Proust ซากองเป็นนักเขียนสาวชาวฝรั่งเศส ที่ใช้ชีวิตเหมือนรถแข่ง โฉบเฉี่ยวบนสนามด้วยความสวยงาม และจบการแข่งขันในเวลาที่ไม่นานนัก UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักกับชีวิตที่น่าสนใจของเธอกัน หนังสือเล่มแรก Bonjour Tristesse (Hello Sadness) ‘ฟรองซัวส์ ซากอง’ เกิดในปี 1953 เป็นน้องคนเล็กสุดของครอบครัวที่มีลูก 3 คน ซึ่งเติบโตในหมู่บ้านทางตอนใต้ของฝรั่งเศสชื่อว่า Cajarc ทัศนียภาพของที่นี่ล้อมด้วยเนินเขาเตี้ย ๆ และติดริมแม่น้ำสวยงาม เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซากองย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปารีส พร้อมเข้าเรียนสาขาวรรณกรรมที่ Sorbonne Université และเริ่มใช้ชีวิตสุนทรีย์แบบสาวปาร์ตี้ในเมืองหลวง ตอนอายุ 18 ซากองใช้เวลา 7 อาทิตย์เขียนหนังสือชื่อ Bonjour Tristesse (Hello Sadness) จนเสร็จเรียบร้อย วางปากกา ปล่อยมือ ส่งเข้าโรงพิมพ์ และปล่อยให้มันทำหน้าที่สร้างชื่อเสียงให้เธอโด่งดังไปทั่ว ปักหมุดชื่อ Françoise
James Bond: No Time To Die คือสุดยอดภาพยนตร์สายลับแห่งเกาะอังกฤษภาคที่ 25 ซึ่งหนุ่ม ๆ หลายคนตั้งตารอวันเข้าฉาย และถือเป็นภาคที่พระเอกอย่าง Daniel Craig อำลาบท 007 หลังจากรับบทบาทสายลับสุดคูลนี้มาถึง 5 ภาคแล้ว (รวมภาคที่กำลังจะเข้าฉายในปีหน้า) ขณะเดียวกัน Aston Martin ค่ายรถยนต์ที่รับผิดชอบเรื่องพาหนะของสายลับ 007 มายาวนาน ก็อยากอำลาพระเอกมาดเข้มให้สมศักดิ์ศรี ภาคนี้จึงมีรถยนต์จาก Aston Martin มากถึง 4 รุ่นปรากฏตัวในหนังโดยแบ่งเป็นรถรุ่นใหม่ 2 คันและรุ่นคลาสสิกอีก 2 คัน ยนตรกรรมตัวใหม่ 2 คันนั้นคันแรกคือ Aston Martin DBS Superleggera รุ่นปี 2019 ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งหลัง DBS รุ่นคลาสสิกปรากฏตัวครั้งแรกในภาค On Her Majesty’s Secret Service เมื่อ
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าภาพยนตร์ James Bond 007 : Goldfinger คือส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ชายหลายคนรู้จักรถยนต์สุด Iconic สายพันธุ์แรงเมืองผู้ดีอย่าง Aston Martin DB5 ที่โดดเด่นทั้งเรื่องดีไซน์สุดคลาสสิกและสมรรถนะปราดเปรียว โดยรถ 1 ใน 4 คันที่ถูกสร้างขึ้นมาใช้กำลังจะถูกนำออกประมูลแล้ว Aston Martin DB5 4 คันถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้งานในภาพยนตร์ James Bond 007 : Goldfinger มีรถสองคันถูกใช้ระหว่างการถ่ายทำ หนึ่งคันถูกใช้เพื่อการโปรโมต ส่วนอีกหนึ่งคันที่ดัดแปลงโดย John Stears ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์สายลับก็ถูกมือดีขโมยไปในปี 1997 และไม่เคยได้กลับคืนมา โดย RM Sotheby บริษัทจัดประมูลรถยนต์ชื่อดังตั้งใจจะนำ DB5 คันที่ถูกใช้สำหรับโปรโมตออกประมูลในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ รถยนต์คันนี้ถูกเสนอขายเป็นครั้งแรกในปี 1969 ก่อนถูกนักสะสมซื้อไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ The Smokey Mountian Car Museum และจอดแสดงทิ้งไว้เป็นเวลากว่า 35 ปีทำให้รถมีสภาพทรุดโทรมลงไปตามเวลา
ดูเหมือนอีเวนต์ 24 Hours of Le Mans 2019 งานแข่งรถสายพันธุ์อึดที่จัดขึ้นในวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้จะไม่ได้มีแค่ผลการแข่งขันว่าใครจะได้แชมป์มาราธอนของปีนี้ไปครองเพียงอย่างเดียวแล้ว เมื่อ Aston Martin ประกาศว่าพวกเขาเปิดตัว DB4 Zagato Continuation รถยนต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นดั้งเดิมของมันที่ผลิตขึ้นมาเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ให้กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง ย้อนกลับไปในปี 1960 ค่ายรถจากเมืองผู้ดีเปิดตัว Aston Martin DB4 GT Zagato ในงาน London Motor Show รถรุ่นดังกล่าวผลิตขึ้นในโรงงาน Zagato ประเทศอิตาลี โดยตั้งใจผลิตมันออกมาเป็นสายพันธุ์นักแข่งน้ำหนักเบาที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 3.7 ลิตรซึ่งถือว่าแรงสุดในเวลานั้น แผนเดิมของพวกเขาคือผลิตออกมาทั้งหมด 25 คัน แต่ผลิตออกมาจริงเพียง 20 คันเท่านั้น จนกลายเป็นหนึ่งในโมเดลหายากที่แฟน ๆ Aston Martin ทั่วโลกอยากได้มาครอบครอง เวลาผ่านไปเกือบ 60 ปีพร้อมข่าวลือที่เล็ดลอดออกมาว่า Aston
James Bond ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ผู้ชายอย่างเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ภาพยนตร์ที่พูดถึงสุดยอดสายลับรหัส 007 จากองค์กร MI6 ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันและการไล่ล่าสุดมันส์ แม้จะผลิตออกมาถึง 24 ภาคในช่วงเวลา 55 ปีก็ยังมีฐานแฟน ๆ ติดตามหนังภาคใหม่อยู่ตลอดเวลาราวกับต้องมนตร์ที่ไม่เสื่อมคลาย นอกจากเนื้อเรื่องแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่หนุ่ม ๆ อย่างเราซึมซับได้จากหนังเรื่องนี้คือรถยนต์คันงามคู่ใจของพระเอกในแต่ละภาค โดยเฉพาะรถจากค่าย Aston Martin ที่กำลังผลิตรถรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ของโมเดลดังจากหนังภาค On Her Majesty’s Secret Service (OHNSS) ถ้าพูดถึง Aston Martin และ James Bond หลายคนอาจติดภาพจำของ Aston Marin DB5 ที่พระเอกอย่าง Sean Connery ใช้งานในภาค Goldfinger และ Thunderball รวมถึงโผล่มาอวดโฉมทั้งใน Casino Royale Skyfall และช่วงท้ายของ Spectre Aston Marin DB5 จึงกลายเป็นรถขึ้นหิ้งที่มีราคาสูงโดยไม่ต้องบรรยายสรรพคุณไปแล้ว
ในบรรดาหนังสายลับที่โด่งดัง ชื่อของ James Bond ต้องโผล่ติดอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยภาคต่อที่มีมาอย่างยาวนานตลอด 50 ปี และความสนุกตามแบบฉบับหนัง Action ล้างผลาญผสมผสานกันสาวสวยภาคละคน ทำให้ซีรีส์ James Bond ได้รับความนิยมจวบจนถึงปัจจุบันนี้ แน่นอนว่าเป็นสายลับฝีมือดีก็ต้องมีรถประจำตัวสุดไฮเทคที่จะช่วยให้ทำภารกิจได้สำเร็จง่ายขึ้น ซึ่งสายลับอย่าง James Bond หรือที่เรารู้จักกันในรหัสลับ 007 นั้นใช้รถยนต์ต่างยี่ห้อต่างรุ่นมากมาย แต่รถที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวแบบขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือแบรนด์รถสปอร์ตจากเกาะอังกฤษอย่าง Aston Martin ที่สายลับหนุ่มรายนี้มักเลือกใช้มาตลอดเกือบทุกภาค วันนี้ UNLOCKMEN ได้คัดเลือก 5 สุดยอดรถ Aston Martin ที่เราชื่นชอบมากที่สุดจากทุก 007 มานำเสนอ ไม่เน้นความใหม่ เน้นแต่ความหล่อล้วน ๆ Aston Martin DB5 เริ่มต้นคันแรกอย่าง DB5 ที่เหมือนเป็นรถประจำซีรีส์ชุดนี้เลยทีเดียว เพราะตั้งแต่เจ้า DB5 คันนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค Goldfinger ซึ่งรับบทโดย Sean Connery มันก็ได้ปรากฏตัวและถูกใช้อีกหลายครั้งในภาคอื่น
สำหรับเราแล้ว เสน่ห์ที่น่าสนใจของวงการรถยนต์ คือการพัฒนาสิ่งที่ดีกว่า เหนือกว่า เร็วกว่าเดิม ออกมาสร้างความตื่นเต้นได้ตลอดเวลา และในทุก ๆ อึดใจที่เรากำลังหายตื่นเต้น ก็มักจะมีค่ายรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ที่ประกาศสุดยอดอภินิหารรถยนต์รุ่นพิเศษสุด พร้อมสเปคที่เหนือกว่าใครในตลาด ณ ขณะนั้น โดยเฉพาะในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ Supercars ที่มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่าใคร ล่าสุด Aston Martin ก็เป็นแบรนด์ที่แง้มผ้าคลุม เผยหน้าตา AM-RB 001 concept ไปเมื่อกลางปี 2016 แต่ยังไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากมาย วันนี้ Aston Martin เปิดเผยสเปคที่ดีที่สุดในทุกด้าน ผลิตในจำนวนที่น้อยหลักร้อยคัน มาพร้อมราคาที่แพงเกินกว่าการออมเงินของคนธรรมดาจะครอบครองได้ พร้อมความมั่นใจว่านี่แหละคือ “Fastest street- legal car in the world” (By Ratio) รถแข่งที่พร้อมใช้งานบนถนนทางเรียบคันใหม่นี้ เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Aston Martin และ Red Bull Advanced Technologies ที่ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ได้บรรจงเลือกใช้วัตถุดิบจากสำนักแต่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุดของแต่ละด้าน