เชื่อไหมครับว่าภาพยนตร์หลายพันเรื่องที่เคยผ่านตาเรา ล้วนสอดแทรกโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจเอาไว้ และถ้าคุณหลงใหลงานดีไซน์มากพอก็คงจะรับรู้ได้ เนื่องจากสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อมนุษย์ แถมยังครอบคลุมตั้งแต่การพักอาศัยไปจนถึงการใช้ชีวิต การออกแบบสถาปัตยกรรมจึงนับว่ามีบทบาทไม่น้อยต่อภาพยนตร์ นอกจากจะเป็นฉากหลังประกอบเนื้อเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสายตาผู้ชมแล้ว สถาปัตยกรรมในแต่ละฉากตอนยังสะท้อนถึงสภาพสังคม วัฒนธรรม รวมถึงยุคสมัยที่ปรากฏในภาพยนตร์แต่ละเรื่องได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นรายละเอียดเล็ก ๆ ของงานสถาปัตยกรรมยังช่วยเสริมแนวคิดตลอดจนเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ให้เด่นชัดขึ้นในเวลาเดียวกัน แล้วนี่คือภาพยนตร์ 5 เรื่อง 5 รสชาติที่ซ่อนความพิเศษทางสถาปัตยกรรมบางอย่างที่เราอยากให้คุณได้รับชม! PARASITE, 2019 ภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีของผู้กำกับ Bong Joon-ho ที่นอกจากจะคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและอีกหลายรางวัลใหญ่บนเวทีออสการ์ ยังซ่อนผลงานสถาปัตยกรรมสุดน่าทึ่งเอาไว้ด้วย เนื้อเรื่องของ Parasite เล่าถึงครอบครัวต่างฐานะของเกาหลีใต้ที่ฝั่งหนึ่งใช้ชีวิตสุขสบายในคฤหาสน์หรู แต่อีกฝั่งต้องกัดฟันสู้ชีวิตท่ามกลางสภาพสังคมที่เหลื่อมล้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยการเสียดสีสังคมและเผยให้เห็นช่องโหว่ของคนรวยกับจนอย่างโจ๋งครึ่ม ซึ่งหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ช่วยให้ผู้ชมซึมซับความต่างระหว่างชนชั้นคือผลงานสถาปัตยกรรมในเรื่องนี้ ผนังหน้าบ้านของครอบครัวคนรวยดีไซน์ด้วยกำแพงสูงทึบตัน ที่ช่วยแบ่งกั้นระหว่างภายในกับภายนอกอย่างชัดเจน ทางเดินเข้าบ้านยกระดับให้สูงขึ้นสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัย และเหมือนบอกโดยนัยว่าไม่ต้องการให้ใครเข้าถึงง่าย ภายในยังสร้างบันไดไว้บริเวณจุดศูนย์กลางบ้านช่วยแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น แม้จะใช้กระจกบานกว้างเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและบ่งบอกถึงรสนิยมหรูหรา แต่กลับเลือกเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่ดูเรียบง่ายมาตกแต่ง บวกกับโทนสีในบ้านและเปลือกนอกอาคารที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ราวกับบอกว่าบ้านหลังนี้ซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้ BLACK PANTHER, 2018 แม้แต่ Black Panther ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ลำดับที่ 8 ในจักรวาลมาเวล ยังเต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยของสถาปัตยกรรมผังเมืองฝีมือ Zaha Hadid สถาปนิกหญิงชื่อก้องโลกผู้คร่ำหวอดในแวดวงสถาปัตยกรรม
ต่อให้ไม่รู้จักชื่อหรือที่มาที่ไปแน่ชัด แต่เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงเคยเห็นการออกแบบสไตล์บรูทัลลิสต์ (Brutalist) ผ่านตากันมาบ้าง บรูทัลลิสต์ถือเป็นงานดีไซน์ที่เน้นโครงสร้างและชูความโดดเด่นของสัจจะวัสดุอย่าง ‘คอนกรีต’ เป็นหลัก แต่บางครั้งก็นำรูปทรงเรขาคณิตและแพตเทิร์นซ้ำไปซ้ำมามาใช้ในงานออกแบบ เพื่อเติมความสนุกสนานหรือลูกเล่นให้งานนั้น ๆ แม้บรูทัลลิสต์จะเกิดขึ้นในช่วงปี 1950-1970 แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสไตล์นี้ยังมีเสน่ห์และผู้คนยังนิยมจวบจนทุกวันนี้ แม้แต่ Annabell Kutucu นักออกแบบและตกแต่งภายใน ผู้คร่ำหวอดในวงการออกแบบบ้านหรูมากว่า 10 ปี ก็นำสไตล์บรูทัลลิสต์มาผนวกเข้ากับงานของเธอด้วย เธอได้รับโจทย์จาก NOA – No Ordinary Agency ให้ออกแบบ ‘Brutalist Silence’ ออฟฟิศกึ่ง Co-working Space ริมแม่น้ำชเปร (Spree) ในกรุงเบอร์ลิน ออฟฟิศแห่งนี้ถูกฉาบด้วยพื้นผิวคอนกรีตไล่ตั้งแต่พื้น ผนัง ไปจนถึงเพดาน เน้นชูความโดดเด่นของคอนกรีตตามสไตล์บรูทัลลิสต์โดยไม่ปรุงแต่ง ผิวคอนกรีตที่เป็นพระเอกหลักไม่เพียงสร้างบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการทำงาน หากยังทำให้ออฟฟิศนี้ดูเรียบง่าย เนี้ยบเท่ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เติมความเคร่งขรึมให้สเปซที่ว่างเปล่าด้วยเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ชั้นวาง built-in รวมทั้งผนังกั้นห้องที่ทำจากไม้โอ๊ครมควัน นอกจากนั้นยังมีของตกแต่งโบราณหลากชิ้นตั้งวางตามจุดต่าง ๆ ในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นชามเซรามิกสีเอิร์ธโทน
การออกแบบพื้นที่พักอาศัยนับเป็นอีกหนึ่งผลงานสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญไม่น้อย ไม่เพียงสร้างสเปซเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้พักอาศัยในแง่ฟังก์ชัน แต่ยังต้องสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ เพื่อมอบประสบการณ์การพักอาศัยเหนือระดับและนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลาย และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม เหล่าสถาปนิกและสตูดิโอสถาปัตยกรรมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด หากขบคิดและสร้างสรรค์ไอเดียการออกแบบโดยหยิบนำ ‘ธรรมชาติ’ มาผนวกเข้ากับงานดีไซน์ จนได้ออกมาเป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่เล็งเห็นทั้งคุณค่าของชีวิตและคุณค่าของธรรมชาติ BIG สตูดิโอสถาปัตยกรรมเจ้าดังได้ดีไซน์ ‘KING TORONTO’ สถาปัตยกรรมเรือนกระจกกลางกรุงโตรอนโตที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ตั้งอยู่ในย่าน King West ที่ตรอกซอกซอยทะลุถึงกันได้หมด แถมยังเป็นย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดา ผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นนี้ซ่อนกลิ่นอายบรูทัลลิสต์ เน้นหนักในการใช้แพตเทิร์นเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา โดยได้อิทธิพลมาจากผลงาน Habitat 67 ในกรุงมอนทรีออลที่ดีไซน์โครงสร้างให้เป็นสามมิติ แต่จะต่างตรงที่ KING TORONTO เลือกใช้บล็อกแก้วโปร่งใสแทนบล็อกคอนกรีต บล็อกแก้วโปร่งใสนั้นทำให้มองเห็นการตกแต่งภายในของตัวอาคารได้เป็นอย่างดี แถมยังนำต้นไม้น้อยใหญ่มาผสมผสานกับงานดีไซน์ มีการปลูกต้นไม้ตามระเบียง ปลูกพืชเกาะผนังตามฟาซาด และสอดแทรกพื้นที่สีเขียวไว้ตามจุดต่าง ๆ ของอาคาร ธรรมชาติสีเขียวถือเป็นอีกหัวใจของโครงการ KING TORONTO เพราะนอกจากจะมอบบรรยากาศร่มรื่นให้กับผู้พักอาศัยแล้ว ยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวโดยไม่ปิดบังทัศนียภาพโดยรอบมากจนหนาทึบและน่าอึดอัด ด้านการตกแต่งภายในก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ด้านนอกเลย ภายในอาคารได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวียนสมัยใหม่ เน้นการใช้วัสดุเรียบง่ายอย่างพื้นไม้ ผนังสีขาว และหินสีขาว เพื่อสะท้อนความอบอุ่น ดูเรียบง่าย แต่ยังคงทันสมัยพร้อมก้าวไปในทุกยุค นอกจากนั้นเพนเฮาส์แห่งนี้ยังมีสระว่ายน้ำในร่ม
ย้อนไปในปี ค.ศ. 1950-1970 เป็นช่วงเวลาที่การออกแบบสไตล์บรูทัลลิสต์ครองความนิยมทั่วโลก เพราะเน้นการแสดงออกเชิงโครงสร้าง เลือกใช้สัจจะวัสดุอย่างคอนกรีตเป็นพระเอกของเรื่อง อวดพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติ พร้อมเปิดให้เห็นเนื้อแท้ของวัสดุก่อสร้างอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่เพียงออกแบบเปลือกนอกของตัวอาคารด้วยรูปทรงเรขาคณิต แต่ยังนำแพตเทิร์นซ้ำไปซ้ำมาสร้างความโดดเด่นให้สถาปัตยกรรมสไตล์นี้ ซึ่งคอนเซ็ปต์การดีไซน์นั้นแฝงกลิ่นอายของยุโรปสมัยก่อนและคงเสน่ห์แห่งความร่วมสมัยมาจนถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมที่ถูกนำมาใช้ในอาคารราชการ เพราะสะท้อนอุดมการณ์แรงกล้า BRUTALIST ARCHITECTURE ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่อัดแน่นไปด้วยอุดมการณ์และความซื่อสัตย์สุจริต ในอดีตมันคือสิ่งแปลกใหม่ที่โค่นล้มความคิดเก่าคร่ำครึในแวดวงสถาปัตยกรรมไปได้แบบขาดรอย แถมรูปแบบงานดีไซน์ยังถูกนำไปใช้ในการออกแบบอาคารราชการและอนุสรณ์สถาน เนื่องจากบ่งบอกถึงความแข็งแรง มั่นคงหนักแน่น และตรงไปตรงมา แต่บางทีมันก็แสดงออกถึงความเป็นเผด็จการ เมื่อสังคมเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ความคิดความอ่านของผู้คนก็แปรผัน สถาปัตยกรรมแนวบรูทัลลิตส์ที่เคยงดงามถูกมองว่าโหดร้าย เข้าถึงยาก และดูเป็นนามธรรม ทั้งยังนำไปผูกโยงกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้รูปทรงเรขาคณิตและปูนเปลือยที่เป็นเอกลักษณ์กลับสื่อถึงความเป็นเผด็จการและแสดงความก้าวร้าวรุนแรง ต้องบอกว่าความคิดสมัยใหม่นั้นเจาะทำลายโครงสร้างของสถาปัตยกรรมแนวนี้ไปได้อย่างง่ายดาย แถมมีการประเมินว่าโครงสร้างแข็งแรงทนทานของสถาปัตยกรรมบรูทัลลิสต์ ต้องใช้เงินมหาศาลในการทำนุบำรุงและเป็นเรื่องยากที่จะดัดแปลงหรือแต่งเติม การกลับมาของสถาปัตยกรรมที่เคยถูกดูแคลน แต่แล้วแนวคิดที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าน่าเกลียดน่าชังในอดีต ก็หวนคืนสู่วงการสถาปัตยกรรมและกลับมาผงาดอีกครั้งอย่างสง่างาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีการหยิบเอารูปแบบงานดีไซน์คอนกรีตของบรูทัลลิสต์ มาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน แม้จะลดทอนความแข็งกร้าวของรูปทรง แต่ยังคงการเล่นแพตเทิร์นและคอนกรีตที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เปลี่ยนจากคอนกรีตเปลือยที่หนาเตอะวิวัฒนาการเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กกล้าที่ยังแข็งแกร่ง ทนทาน และงดงามเหนือกาลเวลาเช่นเคย Centre Point, London Habitat 67, Montreal Sirius Building, Sydney Robarts Library, Toronto Hayward