ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร การต่อกรระหว่างคนขายของกับคนซื้อของก็ยังเกิดขึ้นวันยันค่ำ โดยที่คนคิดโฆษณาและการตลาดต้องก้าวให้ไวกว่าก้าวหนึ่งเสมอ เราชินกับการขายภาพลักษณ์ที่สวยงามให้แบรนด์ ถ้าเป็นอาหารทุกอย่างจะถูกเซตยัดไส้มาอย่างดีให้ฟูนุ่ม เนื้อแน่นน่ากิน ถ้าเป็นบ้านผู้คนต้องขวักไขว่ รถไฟฟ้าต้องจ่อถึงหน้าบ้าน สารพันจะยัดประสบการณ์ด้านบวกมาใส่ไว้ทุกอณูการขาย ทุกคนจะได้สัมผัสสิ่งที่ดีที่สุดผ่านสายตาตั้งแต่ของชิ้นนั้นยังไม่ถึงมือ แต่วันนี้เกมการตลาดแบบเดิมกำลังเปลี่ยนไป เพราะวิธีขายของด้วยภาพลักษณ์ลบ ๆ กลายเป็นการฉีกแนวช่วยกระตุ้นการขายได้ดีกว่าที่คิด แถมความแปลกของรูปแบบที่นำเสนอยังช่วยสร้าง Word of Mouth ได้เป็นอย่างดี Case Study ที่ยกมาให้เห็นภาพชัด เรายกมาจากแคมเปญโฆษณาต่างประเทศและในประเทศไทยแบรนด์ที่หลายคนรู้จักกัน คือ Burger King และ Greyhound แต่อาจจะยังไม่เคยรู้ว่าเขากล้าขายด้วยวิธีนี้ BURGER KING: The Beauty of no artificial preservatives โฆษณา Timelapse ของเบอร์เกอร์นับตั้งแต่แรกเสิร์ฟจนถึงวันเน่าบูด ราขึ้นเต็มชิ้น จนเห็นแล้วอยากจะเขวี้ยงลงถังขยะ บางคนเห็นแวบแรกคงไม่คิดว่าเป็นการโฆษณาแต่น่าจะเป็นการ discredit มากกว่า เพราะมันดูไม่น่ากินเอาเสียเลย แต่จริง ๆ แล้วใครจะคิดว่า “บูด” เป็นจุดขาย 33 วันนับตั้งแต่วันแรกที่ปรุงสุกพร้อมเสิร์ฟไม่ใช่แค่ทำให้เราเห็นภาพลบของอาหารที่ไม่น่ากิน แต่ขณะที่มันกำลังบูด มันก็โชว์ความงามและคุณค่าของอาหารฟาสต์ฟู้ดหนึ่งชิ้นที่อยู่ตรงหน้าเรา