Business

‘อาหารบูด ไลฟ์สไตล์สุดเฟค’ ภาพไม่น่าโฆษณาเพื่อการโฆษณา! หมัดใหม่ของ MARKETING สร้างไวรัล

By: anonymK February 26, 2020

ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร การต่อกรระหว่างคนขายของกับคนซื้อของก็ยังเกิดขึ้นวันยันค่ำ โดยที่คนคิดโฆษณาและการตลาดต้องก้าวให้ไวกว่าก้าวหนึ่งเสมอ

เราชินกับการขายภาพลักษณ์ที่สวยงามให้แบรนด์ ถ้าเป็นอาหารทุกอย่างจะถูกเซตยัดไส้มาอย่างดีให้ฟูนุ่ม เนื้อแน่นน่ากิน ถ้าเป็นบ้านผู้คนต้องขวักไขว่ รถไฟฟ้าต้องจ่อถึงหน้าบ้าน สารพันจะยัดประสบการณ์ด้านบวกมาใส่ไว้ทุกอณูการขาย ทุกคนจะได้สัมผัสสิ่งที่ดีที่สุดผ่านสายตาตั้งแต่ของชิ้นนั้นยังไม่ถึงมือ

แต่วันนี้เกมการตลาดแบบเดิมกำลังเปลี่ยนไป เพราะวิธีขายของด้วยภาพลักษณ์ลบ ๆ กลายเป็นการฉีกแนวช่วยกระตุ้นการขายได้ดีกว่าที่คิด แถมความแปลกของรูปแบบที่นำเสนอยังช่วยสร้าง Word of Mouth ได้เป็นอย่างดี

Case Study ที่ยกมาให้เห็นภาพชัด เรายกมาจากแคมเปญโฆษณาต่างประเทศและในประเทศไทยแบรนด์ที่หลายคนรู้จักกัน คือ Burger King และ Greyhound แต่อาจจะยังไม่เคยรู้ว่าเขากล้าขายด้วยวิธีนี้

BURGER KING: The Beauty of no artificial preservatives

โฆษณา Timelapse ของเบอร์เกอร์นับตั้งแต่แรกเสิร์ฟจนถึงวันเน่าบูด ราขึ้นเต็มชิ้น จนเห็นแล้วอยากจะเขวี้ยงลงถังขยะ บางคนเห็นแวบแรกคงไม่คิดว่าเป็นการโฆษณาแต่น่าจะเป็นการ discredit มากกว่า เพราะมันดูไม่น่ากินเอาเสียเลย แต่จริง ๆ แล้วใครจะคิดว่า “บูด” เป็นจุดขาย

33 วันนับตั้งแต่วันแรกที่ปรุงสุกพร้อมเสิร์ฟไม่ใช่แค่ทำให้เราเห็นภาพลบของอาหารที่ไม่น่ากิน แต่ขณะที่มันกำลังบูด มันก็โชว์ความงามและคุณค่าของอาหารฟาสต์ฟู้ดหนึ่งชิ้นที่อยู่ตรงหน้าเรา เพราะยิ่งมันบูด ยิ่งทำให้เห็นว่าเขาไม่ใส่สารกันบูด!

นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว อีกเรื่องที่เป็นจุดขายและได้ใจผู้บริโภคไปเต็ม ๆ มาจากปากของ Fernando Machado ตำแหน่ง CMO จากบริษัทแม่ของ Burger King ที่เชื่ออาหารปรุงสุกสดใหม่ไร้สารให้รสชาติที่อร่อยกว่า

“นี่คือเหตุผลที่เราทำงานอย่างหนักเพื่อขจัดสารกัดบูด สี และรสชาติจากอาหารทุกสาขาทั่วโลก”

 

GREYHOUND: WISH YOU WERE HERE

อีกแคมเปญที่โชว์จริตความเป็นไทยตัวจริงเสียงจริง นำเสนอด้วยมุมมองด้านลบแต่ยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีและสร้างไวรัลได้มาจาก WISH YOU WERE HERE ของ Greyhound ซึ่งแตกออกมาหลายชิ้นและเผยแพร่ด้วย Materials ต่าง ๆ ทั้งภาพและวิดีโอจากเพจ Greyhound Original ในคอลเลกชัน SS2020

credit photos: greyhound original

credit photos: greyhound original

“WISH YOU WERE HERE” แคมเปญเสียดสีพอประมาณเบา ๆ จากคอลเลกชันแฟชั่น Summer ของฝั่ง Greyhound เล่าสงครามชีวิตดีในยุคโซเชียลที่ไม่ว่าเราจะไปไหน เดินทางไกลอย่างไร เราก็มักจะถ่ายรูปที่ครอปหน้าเราแน่น ๆ เห็นด้านหลัง หน่อย ๆ เอากลิ่นอาย แทนที่จะไปซึมซับบรรยากาศนั้นเพื่อโชว์ไลฟ์ให้ชาวเน็ตรับรู้

ความกวนโอ๊ย ไอเดียเจ๋งมันอยู่ที่แคปชั่นที่เขาใช้ ซึ่งมีประโยคเต็ม ๆ ว่า “Wish you were Here, But I’m not there” เลือกใช้คำเพ้อ ๆ ปนความขี้อวดเบา ๆ ของประโยคแรกมาเล่า แปลทำนองว่า “อยากให้เธอมาอยู่นี่จัง” (ปกติเรามักจะเห็นคำนี้ในแคปชั่นของชาวโซเชียล) ก่อนตามมาด้วยประโยคหลังพร้อมภาพฉบับ Zoom Out มาเบิ๊ดกระโหลกเราเบา ๆ ว่า “But I’m not there” เพื่อเฉลยตอนท้ายว่า “แต่ฉันก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก” 

WISH YOU WERE HERE

“WISH YOU WERE HERE” Campaign, Greyhound Original ss2020 “SUMMER WARCATION” collection, Now Available In Stores. #summerwarcation #greyhoundoriginalss2020 #greyhoundoriginal #travel #travelphotography #photography #nature #travelgram #love #photooftheday #instagood #instatravel #wanderlust #adventure #trip #travelblogger #traveling #vacation #picoftheday #explore #travelling#instagram #holiday #ig #landscape #beautiful #like #photo #beachMusic by The Beachboy – Don't worry baby

โพสต์โดย Greyhound Original เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2020

WISH YOU WERE HERE, BUT I'M NOT THERE.

“WISH YOU WERE HERE” Campaign, Greyhound Original ss2020 “SUMMER WARCATION” collection, Now Available In Stores. #summerwarcation #greyhoundoriginalss2020 #greyhoundoriginal #travel #travelphotography #photography #nature #travelgram #love #photooftheday #instagood #instatravel #wanderlust #adventure #trip #travelblogger #traveling #vacation #picoftheday #explore #travelling#instagram #holiday #ig #landscape #beautiful #like #photo #beachMusic by The Beachboy – Don't worry baby

โพสต์โดย Greyhound Original เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2020

แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เราได้อยู่ที่ตรงนั้นเหมือน ๆ กัน ถึงแม้เราจะมีเงินไม่เท่ากัน…สุดท้ายคำตอบนั้นคือแฟชั่นจากเสื้อผ้าที่เราสวมใส่นั่นแหละ ชุดโคตรเท่ โลเคชั่นจะธรรมดาแค่ไหนก็เมคได้ อยากไปอควาเรียมหรือนั่งเครื่องบินลัดฟ้าก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อว่าวงจรมันจะตีกลับมาที่วัตถุประสงค์ที่เขาอยากขายแฟชั่นให้เราโดยไม่ทันรู้ตัว

credit photos: greyhound original

ไลฟ์สไตล์สุดเฟคเรียกไลก์แบบนี้ สร้างไวรัลและพลิกให้แบรนด์น่าสนใจอย่างไร เราวิเคราะห์และสรุปได้จากหลายเหตุผลดังนี้

  1. มันเฉลยเทคนิคถ่ายภาพเหมือนหลอกตาว่าคล้ายได้ไปต่างประเทศ ชีวิตดีสวยหรู จากอุปกรณ์และสถานที่บ้าน ๆ สุดคอนทราสต์ที่เราไม่เคยรู้ ใครอยากเที่ยวแต่คงไม่มีโอกาสตีตั๋วไป ใช้วิธีเหล่านี้ก็มีสิทธิ์เท่ากัน
  2. มันหยิบ shot ที่คนในโซเชียลนิยมถ่ายกันเวลาเดินทางมาใช้ เช่น ซีนจับมือใครสักคนเหมือนไปกับแฟนแล้วด้านหลังสถานที่ท่องเที่ยวเป็นแบคกราวน์ ซีนครอปหน้า ครอปตัวให้แน่นแล้วมีแสงเงาพาดบนลำตัว ฯลฯ
  3. มันสร้างความสนุก ทำให้คนก็อยากรู้อยากลอง อยากจะถ่ายเล่นตาม แล้วติด Hashtag ของแคมเปญในโซเชียลและกระตุ้นให้คนใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ออกไปข้างนอก เหมือนเป็นการยืดอายุให้แคมเปญอยู่บนโลกออนไลน์ได้นานขึ้น

ทิศทางการโฆษณาวันนี้ใช้ไม้เดิมคงไม่ได้อีกต่อไป หลุมพรางใหญ่ของนักการตลาดคือเรามักคิดแทนลูกค้าว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่ลืมคิดตามพฤติกรรมของผู้เสพว่าเขาอยากรับรู้สิ่งไหนจริง ๆ ทำให้สุดท้ายแคมเปญนั้นอาจจะเป็นแค่แคมเปญดีที่เอาชนะใจลูกค้า แต่ไม่มากพอที่จะทำให้ลูกค้าหรือแบรนด์ขายของได้ เหมือนขายของพอรอด แต่งวดหน้าเขาไม่จ้างเพราะเขาเองก็ไม่มีเงินจะกลับมาจ้างเรา (ของมันแน่อยู่แล้วก็ของมันขายไม่ได้)

ครั้งหน้าจะมีแคมเปญดี ๆ ตัวไหน หรือมีไอเดียการตลาดอะไรพรั่งพรู น่าสนใจ เราจะนำมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันได้ที่ UNLOCKMEN

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line