ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แม้ไวรัสจะยังไม่ลดราวาศอกที่จะทำลายหมู่มวลมนุษยชาติอย่างไม่หยุดยั้ง ซ้ำยังเสริมกำลังด้วยการพัฒนารูปแบบกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องปวดหัวในการหาวัคซีนสกัดกั้นไม่ให้มันมาระบาดอีก จนตัวเลขของการระบาดก็ยังคงรุนแรงในทุกที่และหลายประเทศเช่นเดิม แต่ดูเหมือนทุกเทศกาลดนตรีบนโลกใบนี้ จะเดินหน้าต่อ ไม่เลื่อนหรือแคนเซิลอีกต่อไป หนำซ้ำพวกเขายอมลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลเพื่อสู้ยิบตากับไวรัสชนิดนี้ เพราะอะไรพวกเขาถึงต้องสู้ เรามาสำรวจทั้งด้านดี และด้านร้ายของเทศกาลดนตรีที่ผ่านมาจากทั่วโลกด้วยกัน รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง Jay Luffer กำลังตั้งแคมป์ในงานเทศกาลดนตรีเป็นครั้งแรก ก่อนที่เขาจะเดินทางไป Reading & Leeds Festival เขายอมรับกับ Newsbeat ว่า เขากังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการจัดงานเทศกาลที่ไม่ถูกสุขลักษณะ “ผมเคยได้ยินเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มันเลยรู้สึกเหมือนจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์โควิด” หนุ่มน้อยวัย 17 ปีกล่าว “ผมคิดว่าการติดไวรัส เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้คนจำนวนมากที่ซื้อตั๋วคงคาดไว้อยู่แล้ว” และถึงแม้จะมีความเสี่ยงจากการอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แต่เขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอ หลังจากที่พลาดการแสดงดนตรีสดในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ “เทศกาลต่าง ๆ จะกลับมาอย่างน่าตื่นเต้นอีกครั้ง” Jay กำลังใช้มาตรการป้องกันตัวเอง โดยนำ mask และชุดทดสอบโควิด ATK ติดตัว “ผมรู้สึกว่าจะหลีกเลี่ยงได้ยากกับการติดโควิด แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยผมก็ได้พยายามแล้ว” Jay Luffer
เพลงของ Cigarettes After Sex เป็นอันรู้กันว่าขึ้นชื่อเรื่องความฟุ้งเหมือนกับอยู่ในความฝัน กดปุ่ม Play เมื่อไหร่ เตรียมตัวล่องลอยกันได้เลย แต่จะดีแค่ไหนถ้าเสียงแห่งความฝันนั้นจะมาขับกล่อมเรากันแบบสด ๆ ด้วยบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในความฝัน ในคอนเสิร์ต Cigarettes After Sex Asia Tour Live in Bangkok 2018 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จัดขึ้นที่ Moonstar Studio 8 โดยผู้จัด Teenage Dream Corporation ที่พาพวกเขากลับมาขับกล่อมแฟนเพลงชาวไทยกันอีกครั้ง สำหรับใครที่พลาดไปไม่ต้องเสียใจ UNLOCKMEN จะพามาดื่มด่ำบรรยากาศผ่านตัวอักษรไปพร้อมกับเรา สิ่งขอชื่นชมเป็นอย่างแรกเลยคือโปรดักชั่นของงาน ที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ เริ่มตั้งแต่การจัดเวทีที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้อยู่ใน Mood And Tone เดียวกับเพลง ทุกอย่างถูก Set ให้เป็นสีขาวดำ เพื่อให้ล้อไปกับ Theme หลักของทางวงที่ปกอัลบั้มหรือแม้แต่ EP ก็จะเป็นภาพขาวดำ ควันที่ลอยคลุ้งตลอดงาน ก็ยิ่งทำให้เหมือนเราได้ยืนฟังเพลงอยู่ในความฝันที่จริง ๆ ซึ่งเรามักจะจำภาพได้ไม่ชัดเจนนัก ส่วนเรื่อง Sound นั้น
ปีนี้ถือเป็นปีทองของคอนเสิร์ตที่แท้จริง ตั้งแต่ต้นปีศิลปินฝั่งกระแสหลักไปจนถึงอินดี้ ต่างแห่แหนกันมาระเบิดความมันส์ที่ไทยแลนด์กันแบบไม่มีเว้นเดือน จนมาถึงปลายปีก็ยังไม่มีผ่อนแรง ยังคงมีตารางคอนเสิร์ตแน่น ๆ กันไปจนถึงต้นปีหน้า สำหรับใครที่มีเพื่อนเป็นคอเดียวกันอาจไม่มีปัญหาสำหรับการไปตะลุยคอนเสิร์ต แต่คนที่มีเหตุให้ต้องฉายเดี่ยวนี่สิ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันช่างหงอยเหงากันตั้งแต่ซื้อบัตรใบเดียวแล้ว UNLOCKMEN ขอเป็นกำลังใจให้คนเหงาทุกคนได้ยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ และในคอนเสิร์ตนี้ก็ด้วย เรามีเทคนิคเจ๋ง ๆ ของการเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตคนเดียวแบบพร้อมรบ แถมอาจจะได้เพื่อนเพิ่มไปคอนเสิร์ตหน้าด้วยกันได้อีกด้วย เช็กเวลา สถานที่ และเตรียมบัตรให้พร้อม หลายครั้งแล้วที่เป็นอันต้องแห้วคอนเสิร์ตเพราะไปผิดที่บ้าง ไปยืนเสียเวลาหน้างานเพราะดูเวลาผิดบ้าง ร้ายสุดคือไปผิดวัน! ไปก่อนวันจริงยังไม่เท่าไหร่ ถ้าไปหลังวันจริงนี่เงินปลิวหายไปกับสายลม ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลกที่รู้สึกว่าใครมันจะไปลืมกันวะ เรายืนยันว่ามีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ อาจจะเพราะจำเดือนผิด จำวันผิด แต่เพื่อความชัวร์ เราแนะนำให้ตั้ง Reminder เตือนตัวเองก่อนถึงเวลาจริงหนึ่งสัปดาห์ เตือนวันก่อนจะไปหนึ่งวัน เตือนวันจริงอีกครั้งให้รู้ตัวอยู่ตลอด นอกจากเวลาแล้ว สถานที่ก็ต้องเตรียมพร้อมเช่นกัน หาทางไปทางกลับวางแผนกันให้ดี การไปตายเอาดาบหน้าที่คอนเสิร์ตนั้น บอกเลยว่าโดนฟันราคาหัวแบะแน่นอน เตรียมวันเวลาซะพร้อม แต่ดันลืมบัตรไว้ที่บ้าน แบบนี้ได้ไปยืนหน้าแห้งอยู่หน้าคอนเสิร์ตแน่นอน ดอกจันไว้ที่ Reminder นั่นแหละว่าให้เตรียมบัตรให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นบัตรแข็ง บัตรอ่อน ติดไว้ในกระเป๋าอยู่เสมอหรือบัตร QR Code ก็เตรียมเอาไว้ในโทรศัพท์อยู่เสมอ พร้อมบัตรประชาชนด้วยเช่นกัน
ศิลปินที่ชอบร้องเพลงในบรรยากาศที่ใช่ เป็นหนึ่งในหนทางปลดปล่อยตัวตนที่เราทุกคนรอคอย แต่ถ้าใกล้วันจัดคอนเสิร์ตหลังจากที่ซื้อตั๋ว Early bird หรือเข้าสมรภูมิแย่งตั๋วฟาดฟันกับคนอื่น ยื่นลางานพร้อมจองที่พักและนัดสาวไว้เสร็จสรรพ แต่กลับต้องไปเจอหน้าเพจคอนเสิร์ตเกิดประกาศว่า “ยกเลิก” เราเชื่อว่าจากมาตรวัดความสุขที่ล้นปรี่ ต้องตกฮวบย้ายไปที่อาการเฟลสุด ๆ ส่ออาการหัวร้อนแบบที่ต่อให้ออกมาคืนเงินก็ยังไม่หาย! แต่มองในฐานะคนซื้อตั๋วอย่างเดียวอาจจะไม่แฟร์ เพื่อให้เท่าเทียมเรามาดูเหตุผลของการโดนเทกันสักหน่อยว่าเบื้องหลังมันมาจากอะไรกันแน่ จาก 5 คอนเสิร์ตสุดเฟลพร้อมเบื้องหลังของเหตุผลเหล่านี้ 1. เสม็ด อินเลิฟ คอนเสิร์ต / Samed in Love เฟลยาวแบบไม่มีวันหวนกลับ สำหรับคนเคยอินเลิฟเสียงเพลงริมเกาะเสม็ดมันส์ กระโดดบนพื้นทรายนิ่ม ๆ ริมหาดต้นตำรับ “เกาะเด็ดเสร็จทุกราย” และติดตามมาข้ามน้ำข้ามทะเลไปครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 7 แต่พอครั้งที่ 8 ก็เจอตอ ทำให้ต้องปิดฉาก งดจัดไปถาวรท่ามกลางความเฟล สุดท้ายครั้งนี้ลงเอยด้วยการก็คืนตั๋วราคาเต็ม 100 % ใครที่ตกขบวนไปไม่ทัน หรือตกข่าวว่าเพราะอะไร เขามีจดหมายอธิบายไว้ให้ด้วย เหตุผลหยุดจัด: อันนี้ถือว่าน่าสงสารคนจัดเหมือนกันแต่เป็นเรื่องที่สมควรทำ เพราะมีเหตุผลจำยอมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากตอนแรกที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ดออกมาห้ามจัดเพราะอยู่ในช่วงงดรื่นเริงดอกแรกเพื่อถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไป ๆ มา ๆ โดนดอกที่สองเข้าไปเพิ่มเรื่องการจัดการ
หากเอ่ยชื่อของ ‘เล็ก-อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร’ เชื่อว่าหลายคนอาจต้องใช้เวลาหยุดคิดว่าเขาคือใคร แต่เมื่อเอ่ยชื่อ ‘เล็ก Greasy Café’ เราเชื่อว่าภาพของชายผมยาว รอยสักรูปปลา กีต้าร์คู่ใจ บุคลิกของพี่ชายที่อบอุ่น แต่ลึกลับ พร้อมน้ำเสียงแหบหม่น ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวความรัก รวมถึงแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตแบบตรงไปตรงมาผ่านคำร้องและภาษาดนตรีที่สวยงาม ต้องปรากฎชัดเจนขึ้นมาในทันที ด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของน้ำเสียง เนื้อหา และดนตรีที่ถ่ายทอดออกมา ทำให้ในสายตาของเรา ‘เล็ก Greasy Café’ ไม่ได้เป็นแค่นักดนตรี นักร้อง นักแต่งเพลง แต่เขายังเป็นนักเล่าเรื่อง ที่ทุกการเดินทางผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต เขามักจะเก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์จากช่วงเวลาเหล่านั้น มาร้อยเรียง และ ส่งต่อมุมมองผ่านบทเพลงที่มีเนื้อหาลุ่มลึก อาจดูเหมือนฟังยาก แต่มันช่าง ‘จริง’ เสียจนเข้าไปสัมผัสตรงกลางใจคนฟังอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งการออกเดินทางถ่ายทอดเรื่องราวบนถนนสายดนตรีของ ‘เล็ก Greasy Café’ นั้นได้ผ่านเวลามาแล้วไม่ใช่น้อย นับตั้งแต่ร่วมทำเพลงในอัลบั้มรวมพิเศษ Smallroom 001 – 002 (2001) มาจนถึงการได้มีผลงานเดี่ยวของตัวเองในนาม Greasy Café