ALONE BUT ALRIGHT: เทคนิคเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตคนเดียว เหงาแค่ไหนถามใจดู

By: unlockmen October 31, 2018

ปีนี้ถือเป็นปีทองของคอนเสิร์ตที่แท้จริง ตั้งแต่ต้นปีศิลปินฝั่งกระแสหลักไปจนถึงอินดี้ ต่างแห่แหนกันมาระเบิดความมันส์ที่ไทยแลนด์กันแบบไม่มีเว้นเดือน จนมาถึงปลายปีก็ยังไม่มีผ่อนแรง ยังคงมีตารางคอนเสิร์ตแน่น ๆ กันไปจนถึงต้นปีหน้า สำหรับใครที่มีเพื่อนเป็นคอเดียวกันอาจไม่มีปัญหาสำหรับการไปตะลุยคอนเสิร์ต แต่คนที่มีเหตุให้ต้องฉายเดี่ยวนี่สิ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันช่างหงอยเหงากันตั้งแต่ซื้อบัตรใบเดียวแล้ว UNLOCKMEN ขอเป็นกำลังใจให้คนเหงาทุกคนได้ยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ และในคอนเสิร์ตนี้ก็ด้วย เรามีเทคนิคเจ๋ง ๆ ของการเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตคนเดียวแบบพร้อมรบ แถมอาจจะได้เพื่อนเพิ่มไปคอนเสิร์ตหน้าด้วยกันได้อีกด้วย

เช็กเวลา สถานที่ และเตรียมบัตรให้พร้อม

หลายครั้งแล้วที่เป็นอันต้องแห้วคอนเสิร์ตเพราะไปผิดที่บ้าง ไปยืนเสียเวลาหน้างานเพราะดูเวลาผิดบ้าง ร้ายสุดคือไปผิดวัน! ไปก่อนวันจริงยังไม่เท่าไหร่ ถ้าไปหลังวันจริงนี่เงินปลิวหายไปกับสายลม ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลกที่รู้สึกว่าใครมันจะไปลืมกันวะ เรายืนยันว่ามีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ อาจจะเพราะจำเดือนผิด จำวันผิด แต่เพื่อความชัวร์ เราแนะนำให้ตั้ง Reminder เตือนตัวเองก่อนถึงเวลาจริงหนึ่งสัปดาห์ เตือนวันก่อนจะไปหนึ่งวัน เตือนวันจริงอีกครั้งให้รู้ตัวอยู่ตลอด นอกจากเวลาแล้ว สถานที่ก็ต้องเตรียมพร้อมเช่นกัน หาทางไปทางกลับวางแผนกันให้ดี การไปตายเอาดาบหน้าที่คอนเสิร์ตนั้น บอกเลยว่าโดนฟันราคาหัวแบะแน่นอน

เตรียมวันเวลาซะพร้อม แต่ดันลืมบัตรไว้ที่บ้าน แบบนี้ได้ไปยืนหน้าแห้งอยู่หน้าคอนเสิร์ตแน่นอน ดอกจันไว้ที่ Reminder นั่นแหละว่าให้เตรียมบัตรให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นบัตรแข็ง บัตรอ่อน ติดไว้ในกระเป๋าอยู่เสมอหรือบัตร QR Code ก็เตรียมเอาไว้ในโทรศัพท์อยู่เสมอ พร้อมบัตรประชาชนด้วยเช่นกัน เพราะหลายคอนเสิร์ตมีการจำกัดอายุเนื่องจากมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายในงาน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจบัตรก่อนเข้างาน ซึ่งลืมไม่ได้สักบัตรเลย

สายเมาต้องเช็กว่าในงานขายอะไรบ้าง

หลายคนรักที่จะดื่มด่ำเสียงดนตรีไปตอนที่ตัวเองกรึ่มได้ที่แล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ แม้เจ้าของงานจะไม่ได้บอกกันโต้ง ๆ ว่างานมีเบียร์นี้โว้ย มีเหล้ายี่ห้อนี้โว้ย แต่เราสามารถสังเกตได้จากการจำกัดอายุของผู้ชมนั่นเอง แล้วทีนี้ก็ต้องมาดูอีกทีว่าสปอนเซอร์ในงานนี้ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อใดบ้าง เพราะยี่ห้อเหล่านั้นมีโอกาสมาโผล่ในงาน ถ้าเป็นยี่ห้อที่เรากินก็สบายใจได้ รอไว้ไปเมากันงานก็ไม่สาย แต่เราจะได้เสียเงินกับแบบเลือดซิบ ๆ เพราะเครื่องดื่มในงานมักจะชาร์จราคาไปไกลโขจากที่เราซื้อกันทั่วไปอยู่พอสมควร ถ้าหากไม่มียี่ห้อที่ถูกใจหรือไม่สู้ราคาในงาน ลองมองหาร้านสะดวกซื้อย่านนั้นแล้วเผาหัวกันก่อนเข้างานจะได้ไม่เสียเงินเข้าเนื้อเรามากนัก

Save Power ทั้งคนทั้งโทรศัพท์

เพื่อสติที่ครบถ้วนในการดูคอนเสิร์ต เราควรพักผ่อนให้เพียงพอ ระหว่างวันที่ยังไม่ถึงงาน ไม่ควรสูญเสียพลังงานมากเกินไป ด้วยการทำกิจกรรมอย่างการออกกำลังกาย เดินไกล ๆ หรืออะไรที่ใช้แรงเยอะ เพราะถึงเวลาจริงเราอาจจะอยู่ในภาวะแบตเตอรรี่อ่อนจนไปยืนงง ๆ อยู่กลางงาน สนุกแค่ไหนก็ไม่มีแรงโยกหัวเหมือนคนอื่น Save พลังงานของคนกันไปแล้ว อย่าลืม Save พลังงานในโทรศัพท์ด้วย เพราะเราอาจจำเป็นต้องใช้ติดต่อกับใครในกรณีฉุกเฉิน เรียกเพื่อนมารับ เรียกรถกลับบ้าน หรือถ่ายภาพความประทับใจในคอนเสิร์ต พก Power Bank ให้พร้อม แล้วอย่าลืมเปิดโหมด Power Saver เอาไว้ด้วย จะได้มีโทรศัพท์ไว้ใช้ในยามที่จำเป็นต้องหยิบมันขึ้นมาจริง ๆ

ผูกมิตรกับคนรอบข้าง

แม้จะเป็นหนุ่มขี้อายแค่ไหน แต่ถ้าหากเป็นคอเดียวกันแล้ว ยังไงก็มีเรื่องให้คุยกันอีกยาว ลองมองไปรอบ ๆ มองหน้าคนที่มาคนเดียวเหมือนกันกับคุณ หรือกลุ่มคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ดูเป็นมิตร แล้วเข้าไปทักทาย ประเด็นพูดคุยแรกคงไม่พ้นศิลปินที่เราชื่นชอบจนไม่อยากพลาดโอกาสที่จะมายืนในคอนเสิร์ตนี้ แล้วลองย้ายประเด็นไปศิลปินที่แนวใกล้เคียง เพื่อผูกมิตรเอาไว้สำหรับวันนี้และคอนเสิร์ตต่อ ๆ ไป ได้เพื่อนสายคอนเสิร์ตไปแล้ว ก็หาเพื่อนร่วมทางด้วย ลองถึงการเดินทางมา การเดินทางกลับ เผื่อว่าเจอเพื่อนกลับทางเดียวกัน ละแวกใกล้เคียง ทางผ่านที่พอจะหารค่ารถกันได้แบบวิน-วิน

การเตรียมตัวให้พร้อมนั้นไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันด้วย อย่างการเดินทาง การสัมภาษณ์งาน หรืออะไรก็ตาม หากเราเตรียมตัวไปดีแล้ว เท่ากับว่าเราลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาเฉพาะหน้าที่มันยากต่อการควบคุมลงไปอีกหลายเปอร์เซ็นต์