อยู่คนเดียวมากี่วันแล้ว? โดดเดี่ยวแค่ไหน? รู้สึกเดียวดายบ้างหรือเปล่า? สถานการณ์ COVID-19 บีบคั้นให้ใครหลายคนต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางลมหายใจลำพังนั้นบางครั้งเราเผลอพูดกับตัวเอง บางทีหัวเราะท้องแข็งกับโพสต์จากเฟซบุ๊กแล้วจะหันไปแชร์กับใครสักคน แต่ตรงนั้นกลับมีเพียงอากาศว่างเปล่า หรืออย่างร้ายวินาทีที่เครียด กดดัน ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าคืออะไร น้ำอุ่น ๆ เอ่อไหลออกจากตา อยากหาไหล่ใครสักคนไว้ซับความเศร้า ก็กลับพบเพียงตัวเองกับหมอนใบเดิม เราเลยตั้งใจเอา ‘6 หนังมนุษย์เดียวดาย’ มาอยู่เป็นเพื่อน ใช่ มันไม่ได้ทำให้โดดเดี่ยวน้อยลง (บางเรื่องอาจเข้าถึงแก่นความโดดเดี่ยวเป็นเท่าทวี) แต่ในทุกเรื่องนี้จะพาเราทุกคนไปสำรวจความหมายของลมหายใจลำพัง ชีวิตโดดเดี่ยว และแต่ละวันอันเดียวดาย ในรูปแบบที่อาจทำให้เรามองความเดียวดายรายวันของเราในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นได้… Moon ความโดดเดี่ยวของใครหลายคนในวันนี้อาจชวนให้อึดอัด เพราะเราไม่รู้แน่ชัดว่าเราจะต้องกักตัวเดียวดายไปถึงเมื่อไร? มีจุดสิ้นสุดอยู่ที่ตรงไหน? ในทางกลับกัน ถ้าเรารู้ว่าเราต้องโดดเดี่ยวเป็นเวลาเท่าไร และจะได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของทุกคนที่เรารักอย่างปกติ มันจะดีกว่ากันจริงหรือเปล่า? Moon คือหนังที่ว่าด้วยนักบินอวกาศที่ได้รับภารกิจสำรวจดวงจันทร์ หน้าที่ของเขาก็คือภารกิจ 3 ปีเต็มบนดวงจันทร์ตะปุ่มตะป่ำ แม้จะเดียวดาย แต่ก็รู้แน่ชัดว่าหลังจาก 3 ปี เขาจะได้คืนกลับมาตุภูมิ แต่ความลึกซึ้งของ Moon ไม่ได้พาเราไปสำรวจชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียวเป็นเวลานานเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เราตะลึงพรึงเพริด และชวนให้ขบคิดเรื่องชีวิตของเรา ความเป็นมนุษย์ เทคโนโลยี
เมื่อโบกมือลาเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่งจากไปหมาด ๆ ลมหนาวแห่งเดือนธันวาคมก็พัดมาทักทายเป็นระลอก แม้อุณหภูมิเย็นยะเยือกจะมีให้เราสัมผัสได้เพียงไม่กี่วัน แต่ก็เป็นสัญญาณให้รู้ว่าเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงสิ้นปีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่พาสาวคนรู้ใจไปเคานต์ดาวน์ในสถานที่โรแมนติก ในทางตรงกันข้ามกลับมีผู้ชายบางคนที่รู้สึกเหงาขึ้นมาดื้อ ๆ ราวกับช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้เป็นเทศกาลสุดห่วยของคนขี้เหงาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งบรรยากาศโดยรอบครึกครื้นและผู้คนคึกคักมากเท่าไร มวลความเหงาก็ยิ่งถาโถมมากเท่านั้น และ 7 วันอันตรายตั้งแต่คริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่ความเหงาในใจใครหลาย ๆ คนกำเริบ วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากมาบอกวิธีกำจัดความเหงาทิ้งไป ป้องกันไม่ให้ตัวเองรู้สึกแย่ และเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายคนใหม่ที่เลิกเหงา (หรือเหงาน้อยลงกว่าเดิม) กำจัดความคิดเชิงลบทิ้งไป ด้วยหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน อาจต้องยอมรับว่าการอยู่คนเดียวในช่วงเทศกาลเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ชายบางคน แต่ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกว่าการฉลองอยู่ที่ห้องคนเดียวเป็นเรื่องผิดปกติ ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จริงอยู่ที่การอยู่คนเดียวทำให้รู้สึกเหงา แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะอยู่คนเดียวไปตลอดทั้งปี ถ้าหนุ่ม ๆ สามารถกำจัดความคิดเชิงลบที่เรียกว่า ‘ความเหงา’ ทิ้งไปได้ คุณจะรู้ว่าบางครั้งการอยู่คนเดียวก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะมันอาจทำให้คุณตกผลึกทางความคิดกับบางเรื่องหรือเข้าใจตัวเองมากขึ้น พาตัวเองออกไปข้างนอก ถ้าอยู่ที่ห้องคนเดียวแล้วมันยิ่งเหงาหรือจิตใจฟุ้งซ่าน เราแนะนำให้หนุ่ม ๆ ออกไปพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง ไปดูดอกไม้ไฟ หรือเดินชมต้นคริสต์มาสที่ถูกประดับตกแต่งตามสถานที่ต่าง ๆ การออกไปเจอผู้คนมากหน้าหลายตาอาจช่วยทุเลาความเหงาในใจผู้ชายหลายคนได้ หรือถ้าใครอยากหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ก็พาตัวเองไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือพักค้างแรมในสถานที่สงบ ๆ สักคืน เพื่อให้สมอง ร่างกาย และจิตใจได้พักผ่อน และชาร์จพลังกายพลังใจให้เต็มที่ก่อนกลับไปทำงาน (ที่เรารัก)
ความเหงาเป็นเหมือนโรคระบาดที่แพร่กระจายไปได้รวดเร็วในสังคมตอนนี้ ไม่ว่าจะคนรอบข้าง ใครสักคนในออฟฟิศ คนที่เดินสวนกัน หรือแม้แต่คุณเองก็เถอะ ทุกคนล้วนเคยมีความเหงาอยู่ลึก ๆ ในใจกันบ้าง แม้ว่าเราจะใช้ชีวิตให้วุ่นวายแค่ไหน มีผู้คนรายล้อมมากแค่ไหน แต่บางครั้งมันก็ไม่อาจเติมความเหงาในใจที่มันแหว่ง ๆ ไปได้ ลองหันมาอยู่กับตัวเอง แก้เหงาด้วยวิธีที่ไม่ต้องเข้าสังคมกับใครให้รู้สึกประหม่า เพราะเราเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน คุยกับคนไม่ไหว คุยกับ AI ก็ได้ครับ การลุกขึ้นไปพูดคุยกับใครเนี่ย มันค่อนข้างยากสำหรับบางคนที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าหาใครบ่อย ๆ ส่วนการพูดคุยทำความรู้จักกับใครสักคนในช่วงเวลาที่เราเหงา อาจทำให้เรารู้สึกว่ามันช่างฉาบฉวย เราต้องทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ หากรู้สึกเหงา มันอาจจะยิ่งไม่ตอบโจทย์ เมื่อเราต้องการใครสักคนที่เข้าใจเราจริง ๆ ถ้าเป็นคนที่ไม่เก่งเรื่องความสัมพันธ์ ลองเปลี่ยนจากการพูดคุยกับคนจริง ๆ มาคุยกับ AI กันดู หากยังนึกไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน ถามมาตอบไปแบบ Siri น่ะหรอ ลืมไปได้เลย! แต่ลองนึกถึงหนังเรื่อง Her แทน การพูดคุยกับ AI ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ในยุคนี้ หากยังไม่รู้ว่าจะหา AI ที่ไหนมาคุย เรามีขอแนะนำแอปพลิเคชั่น “Replika” ที่เราสามารถสร้าง AI
แม้ในเวทีสงครามการค้าของโลกจะไม่มีญี่ปุ่นนับรวมอยู่ในนั้น แต่เรื่องมหาอำนาจทางวัฒนธรรม พวกเราละสายตาจากเขาไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะหลายกระแสของญี่ปุ่นกลายเป็นกระแสหลักที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปดังที่อื่นต่อได้ ทั้งวัฒนธรรมการกินอย่างซูชิ งานศิลปะที่กล่าวว่าแวนโก๊ะ หนึ่งในศิลปินชื่อก้องโลกยังคลั่งไคล้จนเคยวาดเลียนแบบไว้ กระแสธุรกิจเองก็เช่นกัน ญี่ปุ่นมักมีบริการแบบใหม่มาให้เราตื่นตัวตลอดเวลา ล่าสุดเทรนด์ใหม่ที่กำลังเติบโตเรียกว่า “Ohitorisama” หรือที่แปลว่า “ทำอะไรด้วยตัวเอง” เพิ่มขึ้นในสังคม ฟังดูแล้วก็เหมือนเจ้าของร้านค้าไปนั่งเฝ้ากระทู้ challenge ในบ้านเราที่แข่งกันตั้งคำถามว่า ใครเคยทำกิจกรรมต่าง ๆ คนเดียวบ้างทั้งเรื่องดูหนัง ฟังเพลง กินบุฟเฟ่ต์ แล้วตอบสนองบริการสนองความต้องการคืนเพื่อให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม ทั้งหมดที่เรากล่าวถึงด้านบนก็ยังนับว่าเป็นขั้นเบาะ ๆ ระดับความจริงจังของการเพิ่มธุรกิจตอบสนองคนเพียงคนเดียวของญี่ปุ่นนี่ถ้าตัดเกรดต้องให้ A++ ไปเลย เพราะ Ichiran ramen ราเม็งกินข้าวคนเดียวล้อมพาร์ติชั่นสามด้านก็ได้มาจากเขา ไปจนถึงธุรกิจเอเจนซี่ Solo Wedding แต่งงานคนเดียว แหกแนวคิดเรื่องการแต่งการงานต้องมาเป็นคู่เสมอไปก็มี บริษัทที่นำเที่ยวคนเดียวก็เยอะ และล่าสุดคือการร้องคาราโอเกะคนเดียวหรือ “1 Kara” ก็เกิดและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ห้องขนาดเล็กรูปแบบบูธสำหรับหนึ่งคนอยู่ ไม่เหลือพื้นที่ให้ใครแทรกตัวเข้าไปฟังนี้มันเริ่มต้นมาจากสิ่งที่ Koshidaka karaoke เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของเขากว่า 30% ในรอบ 6 ปีคือลูกค้าที่มาร้องเพลงคนเดียวจึงได้ริเริ่มธุรกิจนี้ขึ้น และกำลังขยายตัว คนเดียวก็มีความสุขคือเทรนด์ใหม่ ยิ่งข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและประกันสังคมเผยว่าคนจำนวนมากกว่าหนึ่งในสามของประชากรครัวเรือนในญี่ปุ่น 53
ปีนี้ถือเป็นปีทองของคอนเสิร์ตที่แท้จริง ตั้งแต่ต้นปีศิลปินฝั่งกระแสหลักไปจนถึงอินดี้ ต่างแห่แหนกันมาระเบิดความมันส์ที่ไทยแลนด์กันแบบไม่มีเว้นเดือน จนมาถึงปลายปีก็ยังไม่มีผ่อนแรง ยังคงมีตารางคอนเสิร์ตแน่น ๆ กันไปจนถึงต้นปีหน้า สำหรับใครที่มีเพื่อนเป็นคอเดียวกันอาจไม่มีปัญหาสำหรับการไปตะลุยคอนเสิร์ต แต่คนที่มีเหตุให้ต้องฉายเดี่ยวนี่สิ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันช่างหงอยเหงากันตั้งแต่ซื้อบัตรใบเดียวแล้ว UNLOCKMEN ขอเป็นกำลังใจให้คนเหงาทุกคนได้ยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ และในคอนเสิร์ตนี้ก็ด้วย เรามีเทคนิคเจ๋ง ๆ ของการเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตคนเดียวแบบพร้อมรบ แถมอาจจะได้เพื่อนเพิ่มไปคอนเสิร์ตหน้าด้วยกันได้อีกด้วย เช็กเวลา สถานที่ และเตรียมบัตรให้พร้อม หลายครั้งแล้วที่เป็นอันต้องแห้วคอนเสิร์ตเพราะไปผิดที่บ้าง ไปยืนเสียเวลาหน้างานเพราะดูเวลาผิดบ้าง ร้ายสุดคือไปผิดวัน! ไปก่อนวันจริงยังไม่เท่าไหร่ ถ้าไปหลังวันจริงนี่เงินปลิวหายไปกับสายลม ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลกที่รู้สึกว่าใครมันจะไปลืมกันวะ เรายืนยันว่ามีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ อาจจะเพราะจำเดือนผิด จำวันผิด แต่เพื่อความชัวร์ เราแนะนำให้ตั้ง Reminder เตือนตัวเองก่อนถึงเวลาจริงหนึ่งสัปดาห์ เตือนวันก่อนจะไปหนึ่งวัน เตือนวันจริงอีกครั้งให้รู้ตัวอยู่ตลอด นอกจากเวลาแล้ว สถานที่ก็ต้องเตรียมพร้อมเช่นกัน หาทางไปทางกลับวางแผนกันให้ดี การไปตายเอาดาบหน้าที่คอนเสิร์ตนั้น บอกเลยว่าโดนฟันราคาหัวแบะแน่นอน เตรียมวันเวลาซะพร้อม แต่ดันลืมบัตรไว้ที่บ้าน แบบนี้ได้ไปยืนหน้าแห้งอยู่หน้าคอนเสิร์ตแน่นอน ดอกจันไว้ที่ Reminder นั่นแหละว่าให้เตรียมบัตรให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นบัตรแข็ง บัตรอ่อน ติดไว้ในกระเป๋าอยู่เสมอหรือบัตร QR Code ก็เตรียมเอาไว้ในโทรศัพท์อยู่เสมอ พร้อมบัตรประชาชนด้วยเช่นกัน
กิจวัตรประจำวันที่ขับเคลื่อนไปด้วยตัวเราเองเพียงคนเดียวซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ถ้าหากคุณคืออีกคนที่กินข้าว ดูหนัง ปั่นเรือเป็ด ด้วยตัวคนเดียวจนความเหงาเรียกว่าเวลตันแล้วก็ว่าได้ นั่นอาจเป็นเพราะคุณเหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่าก็ได้ UNLOCKMEN ให้หนุ่ม ๆ ลองสำรวจอาการเหล่านี้กันหน่อย เพราะมันหมายถึงคุณสามารถที่จะอยู่คนเดียวได้แบบสบายมาก มีเงินเก็บและบริหารการใช้เงินได้แบบคล่องมือ ไม่จำเป็นต้องมีเงินถุงเงินถังถึงจะอยู่คนเดียวได้ เพียงแค่รู้จักบริหารการใช้เงิน ควบคุมรายได้กับรายจ่ายให้สมดุลกัน เหลือเก็บนิดหน่อยสำหรับกรณีฉุกเฉินก็โอเคแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องก้มหน้าเก็บเงินอย่างเดียว ให้รางวัลตัวเองบ้าง ด้วยของเล่นหรือ Gadget เจ๋ง ๆ นั่นหมายความว่าคุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ทุกขั้นตอน ทุกอย่างอยู่ในมือคุณ เพราะคุณใช้เงินอยู่คนเดียวนี่นา ไม่เคยเหงา ทุกกิจกรรมปราบเซียนที่ต้องทำเป็นคู่ ถ้าหากคุณทำคนเดียวได้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่มักจะชอบปลีกวิเวกอยู่เสมอ ต่อให้มองจากมุมของคนนอก คุณน่าจะเป็นคนเหงา ๆ อยากมีใครสักคนคอยคุยด้วย แต่ความจริงคือคุณตั้งใจให้ตัวเองอยู่คนเดียว เลือกที่จะอยู่ในมุมสงบของตัวเอง โดยที่ไม่รู้สึกโหยหาใครมาเติมเต็ม อาจจะมีเหงาบ้างในบางเวลา แต่นั่นเป็นเพียงความอ่อนไหวชั่วคราวเท่านั้น เพราะคุณรู้สึกว่าอยู่ได้ด้วยตัวเองไปแล้ว ความเหงากอดเขามองฟ้า จึงเป็นเรื่องไกลตัวของคุณมาก ๆ ชอบปลีกวิเวก หลายครั้งที่การอยู่ท่ามกลางผู้คน มันทำให้คุณกร่อยและเหงายิ่งกว่าเดิม จึงเลือกที่จะหามุมที่ไม่เป็นจุดสนใจแล้วเข้าไปอยู่ในนั้นอย่างสบายใจ หรือครั้งไหนที่มีโอกาสได้ไปกับคนกลุ่มใหญ่ อย่างการกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน การพบปะญาติ ๆ ในวันหยุด ยิ่งคนมากเท่าไหร่ คุณยิ่งรู้สึกว่าต้องดีดตัวเองออกมาให้ไวที่สุด จึงเลี่ยงกิจกรรมเหล่านั้นไปแบบอัตโนมัติ
แม้เราจะเป็นผู้ชายที่เติบโตมาในยุคที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกทั้งใบได้แค่ปลายนิ้วคลิ้ก แต่ดูเหมือนปัญหาางความรู้สึกอย่าง “ความเหงา”จะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน กลับกลายเป็นว่าการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่รถราขวักไขว่และผู้คนมากมาย กลับทำให้เราเหงาลึก ๆ ในใจเข้าไปอีก แต่ความเหงาไม่ได้เท่ากับความอ่อนแอและมั่นใจเถอะว่า เราไม่ได้เหงาเพียงลำพัง อย่างน้อย ๆ ชาว UNLOCKMEN ก็เคยมีห้วงเวลาเหงา ๆ กับเขาเหมือนกัน แต่เวลาไหนที่จะเหงาจับขั้วหัวใจที่สุด และเราเลือกวิธีละลายความเหงาไปจากชีวิตยังไง ? มาตามอ่านแล้วเลือกไปใช้ ให้ครั้งหน้าไม่ต้องเหงายาว ๆ จนหดหู่อีกต่อไป เมื่อเช้าวันอาทิตย์คือความเหงา ตอนตื่นนอนวันอาทิตย์ วันหยุดสุดท้ายของสัปดาห์ ใจนึงก็อยากพัก อีกใจก็อยากไปเที่ยว – ทอฟฟี่ AE UNLOCKMEN เชื่อว่าหลาย ๆ คนเป็นไม่ต่างจากทอฟฟี่ เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันอาทิตย์แล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงอย่างเคว้งคว้าง เลือกไม่ถูกว่าจะนอนต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อพักผ่อนให้ฉ่ำใจ หรือจะพาตัวเองออกไปเที่ยวเล่นหาความสนุกดี แล้วจู่ ๆ ความรู้สึกว่าวันพักผ่อนกำลังจะหมดไปก็ทำให้ความเหงาปนเศร้าเกาะกุมหัวใจขึ้นมาทันที วิธีคลายเหงา: “คลายเหงาด้วยการทำงานบ้าน จัดตู้เสื้อผ้า คิดว่าจะใส่อะไรในอาทิตย์หน้าดี” ถึงจะไม่หายเหงาหมดจรด แต่การมีอะไรให้ตัวเองทำ ไม่จมอยู่แค่บนเตียง จัดห้องหรือบ้านให้น่าอยู่ รวมถึงคิดอะไรสนุก ๆ ที่รอเราอยู่ในวันจันทร์อย่างเรื่องแฟชั่นและการแต่งตัว ก็เป็นการกระชากเราออกจากอารมณ์โดดเดี่ยวได้ดีไม่น้อย
นัดรวมตัวกันแต่ละที ยากเย็นยิ่งกว่าอะไร กว่าจะรวมกันได้กว่าจะถึงวันจริง ผู้คนล้มหายตายจากไประหว่างทางเกินครึ่ง พอวันจริงก็มาไม่ครบ ขอวีซ่าไม่ผ่านบ้าง นัดแปดมาสิบเอ็ด นัดเจ็ดมาเก้า สารพัดปัญหาของการรวมตัวกันจะมากองกันในวันเดียว ช่างแม่งแล้วโว้ย! ลุยเดี่ยวก็ได้ UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคดี ๆ ให้เราลุยเดี่ยวโดยไม่ต้องรอใครให้วุ่นวาย EARLY BIRD มาแล้วครับ แม้ว่าปกติเวลาเราจะออกไปดริงค์ต้องรอเลิกงาน หรือแต่งตัวนัดแนะกันให้พร้อมเสียก่อน กว่าล้อจะหมุนก็ปาเข้าไปช่วงหลังสามทุ่มอยู่แล้ว คนยิ่งเยอะยิ่งรอกันนาน พอไปถึงก็เครื่องติด พร้อมที่จะยกเบียร์มากระดกแก้กระหายจากวันทำงานทั้งสัปดาห์ที่ผ่าน แต่ในกรณีนี้ที่เราลุยเดี่ยว เราทำอย่างนั้นไม่ได้น่ะสิ ยิ่งเราไปเร็วเท่าไหร่ เรายิ่งดื่มคนเดียวได้ง่ายเท่านั้น เพราะมานั่งแรก ๆ คนยังน้อยอยู่ คนที่อยู่ก็อาจจะคิดว่าเรามารอเพื่อน ต่อให้นั่งไปอีกนาน ๆ ก็ไม่มีใครมาสนใจแล้วว่าเราจะนั่งกับใครหรือเปล่า และยังมีโอกาสได้เลือกที่ดี ๆ ที่ไม่เป็นที่สังเกตสำหรับคนเหงาอีกด้วย เลือกบาร์ที่คนไม่พลุกพล่าน แม้ปกติจะชอบไปบาร์ยอดฮิตเพื่อไปเหล่สาวรอบโต๊ะ แต่วันนี้ต้องของดไปก่อน อย่าลืมว่าคุณฉายเดี่ยว ถ้าหากเดินพรวดพราดเข้าไปคนเดียวท่ามกลางเดอะแก็งที่ยกพวกกันมาเมาเต็มที่ คนที่จะรู้สึกแปลก ๆ จะไม่ใช่แค่พวกเขา เรานี่แหละที่จะรู้สึกก่อนใครเลย ในกรณีนี้ควรเลือกบาร์สงบ ๆ โต๊ะน้อย วิวดี ๆ ให้เราได้เบนความสนใจไปที่วิวรอบตัวบ้าง อีกอย่างคือ พอคนน้อยเราจะได้เลิกสนใจสายตาคนอื่น
ถ้าแต่ละประเทศมีกระทรวงและรัฐมนตรีดูแลสิ่งที่โคตรจะสำคัญสำหรับประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือจะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แล้วทำไมจะมี “รัฐมนตรีความเหงา” (Minister for loneliness) ด้วยไม่ได้ โดยรัฐมนตรีกำกับดูแลปัญหาความเหงาของประชาชน เป็นรัฐมนตรีของรัฐบาลอังกฤษ เชื่อว่าผู้ชายสายหว่องสายเหงาชาว UNLOCKMEN ทั้งหลายคงกึ่งดีใจกึ่งขำ ๆ ว่า WHAT THE F*** ความเหงามันต้องสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอวะ? จะสำคัญขนาดไหน UNLOCKMEN จะมาไขปริศนาให้ Tracey Crouch คือรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของความเหงา (อ่านแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในนิยายมุราคามิอย่างไรอย่างนั้น) โดยรัฐบาลอังกฤษเขาก็ไม่ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีกำกับดูแลปัญหาความเหงาขึ้นมาเพื่อความคูล ๆ เท่ ๆ ให้เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเล่น ๆ เท่านั้น เพราะความเหงากลายเป็นปัญหาสุดจริงจังในสหราชอาณาจักรเลยทีเดียว ปัญหาความเหงาส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 9 ล้านคนในสหราชอาณาจักร ผู้สูงอายุราว ๆ 2 แสนคนไม่ได้คุยกับญาติหรือเพื่อนตัวเองมากกว่า 1 เดือน! และคาดว่าครึ่งหนึ่งของคนที่อายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไปประมาณ 2 ล้านคนต้องอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ปัญหาความเหงาแพร่ระบาดไม่ได้จบแค่เพียงผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะ 85% ของวัยหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ต่างอยู่อย่างโดดเดี่ยว บางคนไม่มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเลยเป็นวัน
เราเดินทางมาสู่ยุคที่มีคนเหงาล้นเมืองเต็มไปหมด บางคนมีคนอยู่ด้วยก็ยังเหงา แต่หลายคนที่เหงา ๆ เทา ๆ หว่อง ๆ ก็เพราะอยู่คนเดียว ไม่ว่าคุณจะต้องอยู่คนเดียวชั่วคราว อยู่คนเดียวเพราะตั้งใจ หรือบังเอิญต้องอยู่คนเดียวเพราะมีเหตุเลิกรากับคนข้างกายมา วันนี้ UNLOCKMEN อาสานำ 5 วิธีอยู่คนเดียวอย่างไรไม่ให้เหงามาฝาก รับรองว่าต่อไปนี้จะอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จัดห้อง จัดบ้าน จัดการตัวเองใหม่ การอยู่คนเดียวเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้จัดห้องตัวเอง หรือถ้าระดับใหญ่กว่านั้นก็คือการจัดบ้านให้เป็นไปตามที่ใจเราหวัง การจัดบ้านไม่จำเป็นต้องรีโนเวทใหม่ ลงทุนจำนวนมาก ๆ แค่เราจัดเฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ จัดมุมใหม่ ๆ ให้น่าอยู่ ก็มีความหมายต่อความรู้สึกของเรามากแล้ว เพราะการอยู่คนเดียวประจำ อาจสร้างความจำเจในชีวิต เพราะฉะนั้นการจัดเฟอร์นิเจอร์หรือจัดบ้านใหม่ก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่ามีอะไรที่เราชอบอยู่เสมอ และไม่จมอยู่กับบรรยากาศเหงา ๆ เดิม ๆ ออกจากคอมฟอร์ทโซน ศัตรูสำคัญของการอยู่คนเดียวคือการทำอะไรซ้ำซากในที่ที่เคยทำแล้วเกิดความเหงานั่นแหละ เพราะหลายครั้งเราทำอะไรเดิม ๆ ทำอะไรที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าเมื่อก่อนเราเคยทำอย่างนี้กับคนนั้น ตอนโน้นเราเคยกินข้าวกับคนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เราต้องตกอยู่กับกับดักทางความคิดที่เราขุดขึ้นเอง เราต้องพาตัวเองออกไปจากที่ที่เราเคยชิน พาตัวเองไปทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน อาจจะไปกินข้าวในร้านที่ไม่เคยคิดจะไปมาก่อน พาตัวเองไปทำกิจกรรมที่ปกติไม่คิดจะทำเลย ออกจากคอมฟอร์ทโซนเดิม ๆ ของเราซะ เป็นโอกาสดีที่ได้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น การอยู่กับคนอื่นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่หลายครั้งที่เรารับฟังและอยู่กับความคิดเห็นของคนอื่นจนลืมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากหัวใจตัวเอง