Business

OHITORISAMA-อยู่คนเดียวสบายใจกว่า ธุรกิจแนวใหม่รับมือความหว่องที่โตไวในแดนปลาดิบ

By: anonymK December 26, 2018

แม้ในเวทีสงครามการค้าของโลกจะไม่มีญี่ปุ่นนับรวมอยู่ในนั้น แต่เรื่องมหาอำนาจทางวัฒนธรรม พวกเราละสายตาจากเขาไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะหลายกระแสของญี่ปุ่นกลายเป็นกระแสหลักที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปดังที่อื่นต่อได้ ทั้งวัฒนธรรมการกินอย่างซูชิ งานศิลปะที่กล่าวว่าแวนโก๊ะ หนึ่งในศิลปินชื่อก้องโลกยังคลั่งไคล้จนเคยวาดเลียนแบบไว้

ด้านซ้ายคืองานของแวนโก๊ะ ส่วนด้านขวาคืองานภาพอุกิโยเอะ / Credit photo: anngle.org

กระแสธุรกิจเองก็เช่นกัน ญี่ปุ่นมักมีบริการแบบใหม่มาให้เราตื่นตัวตลอดเวลา ล่าสุดเทรนด์ใหม่ที่กำลังเติบโตเรียกว่า “Ohitorisama” หรือที่แปลว่า “ทำอะไรด้วยตัวเอง” เพิ่มขึ้นในสังคม ฟังดูแล้วก็เหมือนเจ้าของร้านค้าไปนั่งเฝ้ากระทู้ challenge ในบ้านเราที่แข่งกันตั้งคำถามว่า ใครเคยทำกิจกรรมต่าง ๆ คนเดียวบ้างทั้งเรื่องดูหนัง ฟังเพลง กินบุฟเฟ่ต์ แล้วตอบสนองบริการสนองความต้องการคืนเพื่อให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม

ทั้งหมดที่เรากล่าวถึงด้านบนก็ยังนับว่าเป็นขั้นเบาะ ๆ ระดับความจริงจังของการเพิ่มธุรกิจตอบสนองคนเพียงคนเดียวของญี่ปุ่นนี่ถ้าตัดเกรดต้องให้ A++ ไปเลย เพราะ Ichiran ramen ราเม็งกินข้าวคนเดียวล้อมพาร์ติชั่นสามด้านก็ได้มาจากเขา

ไปจนถึงธุรกิจเอเจนซี่ Solo Wedding แต่งงานคนเดียว แหกแนวคิดเรื่องการแต่งการงานต้องมาเป็นคู่เสมอไปก็มี บริษัทที่นำเที่ยวคนเดียวก็เยอะ และล่าสุดคือการร้องคาราโอเกะคนเดียวหรือ “1 Kara” ก็เกิดและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

Masaki Kitakoga หนุ่มที่เข้าใช้บริการร้องเพลงในห้องคาราโอเกะสำหรับคนมาคนเดียว / Credit Photo: AFP

ห้องขนาดเล็กรูปแบบบูธสำหรับหนึ่งคนอยู่ ไม่เหลือพื้นที่ให้ใครแทรกตัวเข้าไปฟังนี้มันเริ่มต้นมาจากสิ่งที่ Koshidaka karaoke เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของเขากว่า 30% ในรอบ 6 ปีคือลูกค้าที่มาร้องเพลงคนเดียวจึงได้ริเริ่มธุรกิจนี้ขึ้น และกำลังขยายตัว

 

คนเดียวก็มีความสุขคือเทรนด์ใหม่

ยิ่งข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและประกันสังคมเผยว่าคนจำนวนมากกว่าหนึ่งในสามของประชากรครัวเรือนในญี่ปุ่น 53 ล้านครัวเรือนนั้นคือเหล่าคนโสด และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 40% ในอีก 22 ปีข้างหน้า (ปี 2040) ทำให้เราเชื่อว่าปรากฏการณ์อยู่คนเดียวมันเวิร์กแน่ และไม่ใช่ธุรกิจฉาบฉวยที่โตชั่วคราวอย่างแน่นอน

ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือนิยาม “ความหว่อง” ไม่ได้เศร้า ไม่ได้ชอกช้ำหรือน่ารำคาญสำหรับคนโสดในสังคมอีกต่อไป เพราะการเป็น Singledom ที่รักการอยู่คนเดียวในโลกธุรกิจมันมีขนาดใหญ่กว่าคนจำนวน 18 ล้านคนที่เป็นคนโสดในญี่ปุ่น เนื่องจากคนมีคู่ คนมีเพื่อนฝูงจำนวนมากทุกวันนี้ก็อยากมีช่องทางปลีกวิเวกไประบายอารมณ์ชั่วคราวเช่นเดียวกัน

ทั้งหมดนี้ถือเป็นอีกรูปแบบความหลากหลายที่เราพบได้ใน พ.ศ. นี้และโตยาวไปถึงอนาคต ซึ่งเราเชื่อว่ามันไม่ได้กระทบเรื่องความสัมพันธ์และการใช้ชีวิต แต่เป็นช่องทางที่ดีที่ทำให้เห็นว่าธุรกิจวันนี้ตอบรับความแตกต่างของคนในสังคมมากกว่าเดิม และระบบนี้มันยังไปหนุนกลไกเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะเวลาที่เราทำอะไรคนเดียวได้อย่างสบายใจไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตานี่แหละจะกระตุ้นให้คนโสดออกไปจับจ่าย ส่วนคนไม่โสดอยากรั่วแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลใจ ชาว UNLOCKMEN ล่ะเห็นด้วยไหม?

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4 / 5

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line